สปอยล์ Vincenzo ตอนที่ 5

หลังจากไฟไหม้คลังสินค้าเภสัชกรรมบาเบลแล้ว จางฮันซออยากแก้แค้นฝ่ายตรงข้าม แต่จางจุนอูขู่ฮันซอว่าเขาเป็นเพียงประธานหุ่นเชิดเท่านั้น ห้ามมีความคิดเห็นใดๆ เด็ดขาด และให้ปล่อยข่าวไปว่า สาเหตุไฟไหม้เกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง เรื่องนี้มีผลกระทบต่อหุ้นของบาเบล ฉะนั้นฮันซอจะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการและหาแผนรับมือให้ได้

ฮงชายองและวินเชนโซ่ร่วมมือกันวางแผนใหม่เพื่อเล่นงานบาเบลต่อไป โดยจะฟ้องร้องบริษัทบาเบลเคมีคอลส์ ซึ่งผลิตแผงหน้าจอบีแอลเอสดี ทำให้มีคนงานจำนวนมากเสียชีวิตจากมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่เนื่องจากวินเชนโซ่เป็นทนายสัญชาติอิตาเลี่ยน ฮงชายองจึงต้องรับหน้าที่เป็นทนายตัวแทนของครอบครัวเหยื่อที่เสียชีวิต

อีอูยองเป็นนักวิจัยของบาเบลเคมีคอลส์และสนิทกับหลวงพี่ที่วัดในตึกคึมกาพลาซ่า อูยองเริ่มมีอาการจากสารพิษบีแอลเอสดีที่ได้รับในที่ทำงานจนทำให้มีเลือดกำเดาไหล แต่เขาไม่ได้เฉลียวใจว่าเป็นโรคร้ายแรง

วินเชนโซ่แสร้งทำตัวเป็นแฟนคลับของประธานจางฮันซอเพื่อหลอกถามข้อมูลบางอย่าง ทำให้รู้ว่าจางฮันซอไม่ใช่ประธานตัวจริงของบาเบล จึงวางแผนหาวิธีโจมตีฮันซอ เพื่อให้ประธานตัวจริงปรากฏตัว

จางจุนอูโทรหาชายองและพูดคุยตามปกติโดยที่เธอไม่สงสัยอะไร ชายองแสดงความสะใจ เมื่อพูดถึงเรื่องไฟไหม้คลังสินค้า ทำให้จุนอูรู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของเธอ

ชเวมยองฮีข้องใจว่าใครที่โทรข่มขู่เธอในร้านซักผ้า เมื่อรู้ว่าวินเชนโซ่เป็นทนายจากอิตาลีและมีประวัติใสสะอาด ซึ่งตอนนี้ทำงานร่วมกับชายอง เธอจึงไปที่สำนักงานฟางข้าว เพราะต้องการรู้ว่าเสียงของวินเชนโซ่คือเสียงเดียวกับคนที่โทรมาขู่เธอหรือเปล่า แต่ชายองอ้างว่าวินเชนโซ่ป่วยเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ จึงไม่สามารถพูดคุยได้

จางจุนอูได้เลื่อนขั้นจากเด็กฝึกงานเป็นทนายเต็มตัว ตามที่เขาสั่งจางฮันซอให้บอกหัวหน้าฮันซึงฮยอก ทนายโซฮยอนอูเป็นทนายฝ่ายครอบครัวของเหยื่อที่เสียชีวิตขณะที่ทำงานในบาเบลเคมีคอลส์ แต่ทนายโซเป็นคนที่เห็นแก่เงิน จึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ตัวแทนครอบครัวเหยื่อยอมความและถอนฟ้องบาเบล หมอกิลจงมุนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแฮมุนสังกัดบาเบลกรุ๊ป เขาจึงบิดเบือนข้อมูลสาเหตุการตายของเหยื่อเหล่านั้น บรรณาธิการชอลอินซูแห่งหนังสือพิมพ์แดชังเดลี่ ต้องการได้ค่าโฆษณาเพิ่มจากบาเบล จึงผลิตข่าวแต่ด้านบวกให้บาเบลกรุ๊ป

ชายองและวินเชนโซ่ต้องการว่าความให้ครอบครัวของเหยื่อเหล่านั้น จึงไปโน้มน้าวทนายโซเพื่อมอบอำนาจให้ แต่ไม่สำเร็จ พวกเขาจึงไปโน้มน้าวตัวแทนครอบครัวเหยื่อเพื่อให้เปลี่ยนทนาย

จางจุนอูสั่งให้จางฮันซอพานักข่าวไปที่บาเบลเคมีคอลส์ และสร้างภาพว่าการพัฒนาบีแอลเอสดีประสบความสำเร็จแล้ว ขณะนั้นเองนักวิจัยอีอูยองสำลักเป็นเลือดและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแฮมุน หลวงพี่ไปเยี่ยมอีอูยอง แต่ผอ.กิลจงมุนบอกเพียงว่าอูยองเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่เกิดจากพันธุกรรม จากนั้นผู้เช่าทั้งหมดในคึมกาพลาซ่าจึงร่วมประชุมกันและขอให้ชายองช่วยเหลือูยองโดยฟ้องบาเบล

ชายองและวินเชนโซ่นำเอกสารไปให้ฮันซึงฮยอกและบอกว่าตอนนี้เธอคือทนายตัวแทนของครอบครัวเหยื่อที่เสียชีวิตและกำลังจะดำเนินคดี คำพูดของวินเชนโซ่ทำให้ชเวมยองฮีจำได้ว่าเสียงของเขาคือคนที่เคยโทรมาขู่เธอ จากนั้นชเวมยองฮีจึงตัดสินใจที่จะสู้กับชายองในศาล ขณะที่จางจุนอูบอกกับตัวเองว่าต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมรามือให้ชายองอีกแล้ว

เหลือเวลาเพียงไม่กี่วันและการสู้คดีครั้งนี้อาจจะพ่ายแพ้ วินเชนโซ่จึงวางแผนให้ชายองทำให้การพิจารณาคดีนี้เป็นโมฆะให้ได้