สปอยล์ Vincenzo ตอนที่ 10

10

การเสียชีวิตของครอบครัวเหยื่อเภสัชกรรมบาเบลทั้งสี่คนรวมทั้ง ผอ.กิลจงมุน เป็นฝีมือของบาเบลทั้งสิ้น ชายองเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ตำรวจไม่ยอมรับที่เธอจะขอให้มีการชันสูตรอีกครั้งและยืนยันว่าพวกเขาฆ่าตัวตายกันเอง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจรับสินบนจากสำนักงานอูซัง พวกเขาจึงต้องรีบปิดคดีโดยเร็ว วินเชนโซ่จึงคิดแก้แค้นบาเบลด้วยวิธีของเขาเองเพื่อชดใช้ให้เหยื่อผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่สองนายกำลังแบ่งเงินสินบนกันอยู่นั้น วินเชนโซ่ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานและจับพวกเขามัดไว้ เพราะต้องการบันทึกการสอบสวนคดีฆาตกรรมเหยื่อทั้งสี่คน รวมทั้งเส้นทางของรถ บันทึกกล้องวงจรปิด รายงานการพิสูจน์หลักฐานและชันสูตร
หลังจากเห็นความโหดเหี้ยมของจางจุนอูแล้ว ฮันซึงฮยอกเกิดความหวาดกลัวและหวาดระแวงตลอดเวลา จึงพยายามยุยงจางฮันซอ โดยบอกว่าคนทั้งโลกรับรู้ว่าเขาคือประธานและเชื่อว่าเขาสามารถบริหารบาเบลคนเดียวได้ ในขณะที่ไม่มีใครรู้จักตัวตนของจางจุนอู แต่จางฮันซอบอกว่าตนเองไม่มีความสามารถเท่ากับพี่ชายของตน

แม้ว่าตอนนี้วินเชนโซ่กำลังยุ่งอยู่กับการตามหาบอสตัวจริงของบาเบล แต่ประธานโจยองอุนก็บอกว่าเรื่องทองสำคัญกว่า จึงต้องรีบย้ายนักบวชออกจากวัดนานยักให้เร็วที่สุด วินเชนโซ่บอกว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้เอง เพราะผู้เช่าทุกคนไม่ยอมย้ายออกจากตึกและยืนยันว่าจะร่วมมือกันต่อสู้กับบาเบล ประธานโจยองอุนไม่พอใจจึงแจ้งความวัดนานยักข้อหาทุจริต

เพื่อนเก่าในอิตาลีโทรบอกวินเชนโซ่เรื่องที่บาเบลส่งคนไปสืบประวัติของเขา ประธานพัคซอกโดและทีมของเขาย้ายเข้ามาอยู่ในตึกคึมกาและประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว จางจุนอูสั่งฮันซึงฮยอกให้รื้อถอนตึกคึมกาทิ้งทันทีโดยใช้ทีมก่อสร้างที่พ่อของเขาเคยชอบ

ไฟล์สอบสวนและผลชันสูตรที่วินเชนโซ่ได้มา เขาพบว่าเหยื่อทั้งสี่รายถูกเครื่องช๊อตไฟฟ้าและลักพาตัวไป ก่อนที่จะเสียชีวิตจากการรมควันในรถตู้ แต่ปัญหาคือจะตามตัวคนร้ายได้อย่างไรเพราะพวกเขาใช้ทะเบียนรถปลอม วินเชนโซ่จึงวางแผนล่อเพื่อให้คนร้ายเป็นฝ่ายมาหาเขาเอง ผู้เช่าทุกคนอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือครั้งนี้ เชฟโตโต้เผลอพูดคำว่าทองคำออมา ทำให้วินเชนโซ่เฉลียวใจ เขาไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อน จึงแนะนำให้พวกเขาย้ายไปอยู่ที่ตึกอื่น แต่ชายองเห็นด้วยกับผู้เช่า เพื่อยั่วยุให้คนร้ายโกรธและเป็นฝ่ายแสดงตัว ทุกคนจึงสวมหน้ากากและจัดทำคลิปรายการโจมตีบาเบลและสำนักงานอูซัง จางจุนอูรู้ทันและไม่หลงกลตามแผนการของพวกเขา วินเชนโซ่ยังคงวางแผนข่มขู่รายบุคคลต่อไปโดยความร่วมมือของผู้เช่าใช้สีแดงแทนเลือดและเขียนอักษร C ทิ้งไว้ ซึ่งเป็นการเตือนก่อนที่จะลงมือฆ่า

อัยการจองอินกุกอยากรับผิดชอบคดีของเหยื่อที่เสียชีวิตทั้งสี่ราย จึงอยากขอความร่วมมือจากวินเชนโซ่และชายอง แต่พวกเขาปฏิเสธและต้องการใช้วิธีของพวกเขาเอง เพราะไม่ไว้ใจคนบางกลุ่มในสำนักงานอัยการ

เมื่อจางจินอูได้ข้อมูลและรูปถ่ายผลงานของวินเชนโซ่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของมาเฟียทุกกลุ่มในอิตาลี และเป็นคนโหดเหี้ยมกว่าที่ใครๆ คิด จุนอูจึงคิดว่าต้องฆ่าวินเชนโซ่เสียก่อนที่ตนเองจะเป็นฝ่ายถูกฆ่า

ขณะที่จุนอูส่งกลุ่มนักเลงไปที่คึมกาพลาซ่า เขาโทรหาชายองเพื่อล่อให้เธอออกมาข้างนอก โดยอ้างว่ามีข้อมูลของอูซังจะบอกเธอ หลังจากที่ชายองออกไปแล้ว วินเชนโซ่ขับรถไปที่อุโมงค์ที่เหยื่อทั้งสี่ถูกลักพาตัวก่อนตาย เพื่อล่อนักฆ่า เขาสั่งผู้จัดการนัมจูซองไว้ว่า หากภายในหนึ่งชั่วโมงเขาไม่กลับมา ให้โทรแจ้งตำรวจทันที
กลุ่มนักเลงติดประกาศเตือนให้ผู้เช่าย้ายภายในสองวัน จากนั้นก็ทำลายข้าวของ ทำให้ผู้เช่าหวาดกลัว จนกระทั่งประธานพัคซอกโดออกมารับมือและเห็นรอยสักที่ข้อมือ จึงรู้ว่านักเลงกลุ่มนี้คือแก๊งดาบคู่

จุนอูส่งนักฆ่าไปที่อุโมงค์เพื่อเก็บวินเชนโซ่ ผจก.นัมจูซองโทรบอกชายองว่าวินเชนโซ่ไปที่นั่นคนเดียว เธอจึงรีบตามไปโดยมีอีชอลอุคผู้จัดการโรงจำนำขอตามไปด้วย จางจุนอูเสนอตัวให้ทุกคนไปรถของเขา

วินเชนโซ่ปะทะกับนักฆ่าสามคนจนเป็นฝ่ายชนะและบาดเจ็บเล็กน้อย เขาคาดคั้นถามนักฆ่าว่าท่านประธานที่จ้างพวกเขาคือใคร ชายองมาถึงและวิ่งไปสวมกอดเขาด้วยความเป็นห่วง วินเชนโซ่สบตาจุนอูและบอกชายองว่า เขารู้แล้วว่าบอสตัวจริงของบาเบลคือใคร