สปอยล์ Vincenzo ตอนที่ 2

ทนายยูชานคิดว่าการต่อสู้ระหว่างวินเชนโซและเถ้าแก่พัคเป็นการสร้างภาพ เพราะตึกนี้ถูกขายไปแล้ว แต่วินเชนโซบอกว่าประธานโจถูกขู่บังคับ และเขาก็จะเอาตึกนี้กลับคืนมาให้ได้ ทนายยูชานต้องการสืบหาความจริงว่า วินเชนโซกำลังหลอกลวงเขาและผู้เช่าอยู่หรือไม่ ฮงชายองแปลกใจที่วินเชนโซมีความฮึดสู้มากกว่าผู้เช่าที่ตึกนี้เสียอีก เธอเชื่อว่าเหตุผลที่เขาทำแบบนั้น จะต้องมีมูลค่ามากกว่าราคาของตึกนี้แน่นอน

นอกจากประธานหวัง (นักธุรกิจชาวจีน) เจ้าของทองคำแล้ว มีเพียงประธานโจและวินเชนโซเท่านั้นที่รู้เรื่องห้องลับ ประธานโจจึงบอกวินเชนโซให้ชิงทุบทิ้งก่อนที่บาเบลจะเข้ามาทำการรื้อถอน แต่ทว่าโครงสร้างของห้องนี้ถูกสร้างอย่างพิเศษ เพราะเสาและคานที่รับน้ำหนักของตึก ถูกติดตั้งระบบเพิ่มแรงสั่นสะเทือนไว้ และไม่ว่าเกิดแรงสั่นสะเทือนด้านไหนของห้องลับก็ตาม จะทำให้เกิดรอยร้าวที่เสาและคานและทำให้ตึกถล่มลงมาทันที ห้องลับนี้จะสามารถเปิดออกได้ โดยใช้วิธีสแกนม่านตาของประธานหวังเท่านั้น แต่ทว่าประธานหวังเสียชีวิตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อสามเดือนก่อนที่จะมาเกาหลี วินเชนโซชวนประธานโจทำธุรกิจด้วยกัน โดยไม่ให้เขาขายตึกคึมกาพลาซ่าให้กับบาเบล เพราะเขามีแผนจะขนย้ายทองคำ

ทนายยูชานยอมให้วินเชนโซดูเอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับบาเบลกรุ๊ป เพราะเขาให้เหตุผลว่ามาช่วย และควรให้โอกาสเขา แทนที่จะมานั่งระแวงกัน

นักวิจัยของบริษัทเภสัชกรรมบาเบลหายตัวไปจากสถานที่กักตัว ชายองจึงกังวลว่าหากนักวิจัยคนนั้นพูดอะไรขึ้นมา คดีที่เธอกำลังทำเกี่ยวกับการทดลองยาจนมีผู้เสียชีวิตก็จะต้องจบเห่

อัยการชเวมยองฮีมีความกดดันในการทำงานกับสำนักงานอัยการ เธอจึงตัดสินใจลาออกและไปทำงานกับเพื่อนรุ่นน้องที่สำนักงานทนายความอูซัง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของบาเบลกรุ๊ป

หลังจากอ่านเอกสารทั้งหมดแล้ว วินเชนโซจึงชวนทนายฮงยูซานไปที่บาเบลกรุ๊ปด้วยกัน เพื่อข่มขู่ว่าเขาจะใช้วิธีเดียวกับบาเบล เพื่อเอาตึกคึมกาพลาซ่ากลับคืนมาให้ได้ ทำให้ทนายยูชานเริ่มชอบใจการทำงานของวินเชนโซและพร้อมที่จะร่วมมือกับเขา ขณะที่พวกเขานั่งดื่มด้วยกันนั้น ทนายยูชานยอมรับว่าเขาเป็นทนายสาธารณะให้กับโอกยองจา เพราะเธอน่าสงสารที่ถูกกล่าวหาในคดีฆาตกรรม ทั้งๆ ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ และยังป่วยเป็นมะเร็งตับอีกด้วย แต่เธอก็ยอมรับผิดและทนทุกข์ทรมานแต่โดยดีเพื่อเป็นการลงโทษตัวเองที่ในอดีตเคยทอดทิ้งลูกชายตัวเอง

สำนักงานกฎหมายอูซังประชุมวางแผนที่จะรื้อตึกบาเบล โดยไม่มีการชดใช้ให้ผู้เช่า แต่จะทำให้พวกเขาย้ายออกไปเอง แม้จะไม่ลงรอยกับพ่อเท่าไรนัก แต่ชายองก็รู้สึกเป็นห่วงสำนักงานกฎหมายฟางข้าวของพ่อซึ่งอยู่ที่ตึกนั้น ทีมรื้อถอนจะบุกเข้าไปทำลายตึกเวลาห้าทุ่มในวันพรุ่งนี้

เช้าวันต่อมาทนายยูชานชวนวินเชนโซไปกินอาหารที่บ้านของเขาเพื่อแก้อาการเมาค้าง ชายองรีบมาที่บ้านเพื่อบอกพ่อเรื่องการทุบตึก แต่ทนายยูชานรีบออกไปธุระด่วนเกี่ยวกับอาสาสมัครทดลองยา ชายองจึงบอกเรื่องนี้กับวินเชนโซ และอยากให้เขารีบอพยพคนออกมา

เมื่อทนายยูชานกลับมาที่ตึก และเห็นผู้เช่ากำลังทยอยขนข้าวของ เขาจึงวางแผนกับวินเชนโซเพื่อยับยั้งการทุบตึกให้ได้ วินเชนโซใช้สื่อสตาร์แกรมเพื่อชักชวนผู้คนให้มาร่วมงาน

เมื่อใกล้ถึงเวลารื้อถอน ชายองเป็นห่วงพ่อ จึงรีบขับรถไปที่นั่นและเห็นทีมรถขุดเจาะของเถ้าแก่พัคซอกโดกำลังมุ่งหน้าไปที่ตึกนั้นเช่นกัน แต่เมื่อไปถึง ชายองต้องแปลกใจเมื่อเห็นผู้เช่า และผู้คนมากมายกำลังสนุกสนานกับงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นบริเวณด้านหน้าพลาซ่า ต่อมาเธอจึงรู้ว่าเป็นฝีมือของวินเชนโซ หลังจากที่เช็คสตาร์แกรมของเขา