สปอยล์ Vincenzo ตอนที่ 6
ก่อนการพิจารณาคดี ฮันซึงฮยอกและชเวมยองฮีแอบพบผู้พิพากษารุ่นพี่ เพื่อให้บาเบลเป็นฝ่ายชนะคดี โดยรับปากว่าจะให้เงินตอบแทน แต่ทว่าการพิพากษาในวันนี้เป็นโมฆะและถูกเลื่อนไปในสัปดาห์หน้า ตามแผนการที่วินเชนโซ่และชายองวางเอาไว้เพื่อยื้อเวลา โดยความร่วมมือจากผู้เช่าทุกคนที่ไปร่วมฟังคำพิพากษาช่วยกันสร้างความอลหม่านในห้องพิจารณาคดี
ทุกวันอังคารสิ้นเดือน ทนายฮงยูชานมักจะไปเยี่ยมโอกยองจาที่เรือนจำเสมอ แต่เมื่อเขาจากไปแล้ว วินเชนโซ่จึงทำหน้าที่แทน แต่การไปในครั้งนี้เพื่อที่จะบอกว่าต่อไปจะไม่มีใครมาเยี่ยมเธออีกแล้ว วินเชนโซ่ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นลูกชายของโอกยองจา จึงบอกให้เธอขอความช่วยเหลือจากครอบครัวหรือเพื่อน แต่โอกยองจาบอกว่าเธอไม่มีครอบครัว ไม่มีสามีหรือลูก วินเชนโซ่รู้สึกสะเทือนใจที่แม่ของเขาพูดเช่นนี้ เขายังคงฝังใจว่า ก่อนที่ฟาบีโอจะรับเลี้ยงเขาเป็นลูกบุญธรรมนั้น เขาคือเด็กชายพัคจูฮยอง ที่แม่ของเขาไปฝากไว้ที่โบสถ์แห่งหนึ่ง และไม่กลับมารับเขาอีกเลย
อันกีซอก เจ้าหน้าที่หน่วยอาชญากรรมระหว่างประเทศ ที่แฝงตัวไปเป็นผู้ช่วยเชฟห้องอาหารอิตาเลียนในตึกคึมกาพลาซ่า ได้รับแจ้งจากอธิบดีแทจงกูว่า ตอนนี้ทั้งบาเบลกรุ๊ปและสำนักงานอูซัง ต่างก็ต้องการข้อมูลประวัติของวินเชนโซ่ อันกีซอกจึงบอกว่าเขาจะดำเนินการเรื่องนี้เอง และตอนนี้วินเชนโซ่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
วินเชนโซ่บอกให้ ผจก.นัมจูซอง เตรียมหาตึกใหม่ที่ย่านซังชี เพื่อผู้เช่าทุกคนย้ายไปอยู่ที่นั่น และเขาจะลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ให้สำหรับทุกกิจการ วินเชนโซ่เร่งชายองให้เอาตึกคึมกาพลาซ่ากลับมาให้ได้ตามที่เธอเคยรับปากไว้ เมื่อบอกเหตุผลที่แท้จริงว่ามีทองคำจำนวนมหาศาลอยู่ชั้นใต้ดินของตึก ชายองไม่เชื่อเพราะคิดว่าวินเชนโซ่เมาและพูดเรื่องโกหก
ขณะที่ผู้เช่ารวมตัวกันที่ห้องอาหาร วินเชนโซ่แอบเข้าไปที่วัดนานยักเพื่อใช้อุปกรณ์ตรวจจับระบบการระเบิดใต้ดิน อันกีซอกแอบตามไปดูและคิดว่าวินเชนโซ่กำลังคุกเข่าและก้มสวดมนต์ เขาจึงไม่เห็นอุปกรณ์นั้น
ผู้เช่าทุกคนเตรียมตัวซ้อมตอบคำถามกับชายองในฐานะพยานฝ่ายโจทก์สำหรับการพิจารณาคดีในครั้งต่อไป วินเชนโซ่ได้เตรียมคำถามสำหรับฝ่ายตรงข้ามให้กับผู้เช่าได้เตรียมซ้อมไว้ด้วยเช่นกัน
จางจุนอูเปิดเผยว่าเขาคือประธานตัวจริงแห่งบาเบลกรุ๊ปและขอให้ฮันซึงฮยอกและชเวมยองฮีเก็บเป็นความลับ จุนอูต่อว่าชเวมยองฮีที่ไม่สามารถทำอะไรวินเชนโซ่และชายองได้ ชเวมยองฮีไม่พอใจที่ถูกเปรียบเทียบว่าเคยเป็นเพียง”มือดาบ” แห่งสำนักงานอัยการนัมดงจู ขณะที่วินเชนโซ่เป็นถึงขั้นปรมาจารย์ ในสายตาของจางจุนอู
ชเวมยองฮีวางแผนการพิจารณาคดีใหม่ โดยกำจัดพยานฝ่ายโจทก์ทั้งหมด จึงสั่งให้ลูกน้องไปทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีของกลุ่มเหยื่อบาเบลกรุ๊ป และนำเงินไปซ่อนไว้ใต้ฝ้าเพดานห้องเพื่อยัดเยียดข้อหายักยอก หมอกิลจงมุนฉีดสารเสพติดให้กับอีอูยอง เหยื่อที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแฮมุน บก.ชอลอินซูต้องเร่งปล่อยข่าวในตอนหกโมงเช้าตามคำสั่งของชเวมยองฮีว่า ตัวแทนกลุ่มครอบครัวของเหยื่อบาเบลเคมีคอลส์ยักยอกและใช้เงินบริจาคมาเป็นเวลาสองปีแล้ว
เมื่อถึงวันพิจารณาคดี หมอกิลจงมุนเป็นพยานให้ฝ่ายจำเลยและให้การต่อศาลว่า เหยื่ออีอูยองมีปัญหาด้านสุขภาพจากการดื่มสุราและสูบบุหรี่ ไม่ใช่จากการทำงานที่บาเบล ชายองไม่เหลือพยานแล้ว วินเชนโซ่จึงเป็นพยานคนสำคัญให้กับเธอ