สปอยล์ Military Prosecutor Doberman ตอนที่ 11

เมื่อยี่สิบปีก่อน โนฮวายองวางแผนการสำหรับชีวิตของตัวเองว่าสักวันเธอจะต้องขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด จึงหาพรรคพวกเพื่อหลอกใช้และคิดจะกำจัดแต่ละคนในภายหลัง

โนฮวายองบอกแบมันว่าเธอจำได้แล้วว่าเขาคือเด็กผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตไว้จากอุบัติเหตุเมื่อยี่สิบปีก่อน แบมันยอมรับว่าใช่แต่ที่ไม่แสดงออกก็เพราะเรื่องราวผ่านมานานมากแล้ว เขาขอบคุณเธอด้วยใจจริงที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้

อูอินไปพบยงมุนกูที่ห้องทำงานซึ่งเคยเป็นของพ่อและต่อว่าที่เขาสวมหน้ากากสามบทบาทโดยเป็นอัยการที่ใส่ร้ายพ่อของเธอ เป็นทนายของโนฮวายองและกำลังเป็นประธานของไอเอ็ม ยงมุนกูกำความลับของเธอไว้เช่นกันว่าเธอคือสาวผมแดงที่เคยกักขังหน่วงเหนี่ยวประชาชนทั้งที่เป็นอัยการทหารซึ่งเขาขู่ว่าสามารถดำเนินคดีกับเธอได้ทุกเมื่อ อูอินจึงขู่เขากลับเช่นกันว่าเธอมีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกโนฮวายองเพื่อแฉการกระทำของเขาเพื่อให้ได้ตำแหน่งประธานไอเอ็ม

ตอนนี้ทั้งโนฮวายองและยงมุนกูรู้ตัวตนที่แท้จริงของแบมันและอูอินแล้ว แบมันอยากใช้วิธีที่โหดร้ายกว่าเดิมเพื่อแก้ไขความผิดพลาดทั้งหมดของตัวเองเมื่อห้าปีก่อนและเป็นการขอโทษจ่าชินอย่างจริงใจ

หัวหน้ายอมซังชินได้หลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับคดีทุ่นระเบิดที่ทำให้ทหารสามนายเสียชิวิต ซึ่งในตอนนั้นพ่อของแบมันทำคดีนี้และไม่คิดว่าเป็นความผิดของทหารฝึกหัด เขามีพยานและหลักฐานที่ยืนยันว่าระเบิดมีปัญหาและในวันนั้นก็ไม่มีการฝึก ฮงมูซอบไม่พอใจและต่อว่าพ่อของแบมันที่ตัดสินใจตามอำเภอใจและขัดคำสั่งของเขา จากนั้นฮงมูซอบก็ทำลายเอกสารและผลสรุปของคดีก็เป็นไงที่ฮงมูซอบต้องการและบริษัทที่ผลิตระเบิดก็ไม่ถูกสอบสวน สุดท้ายพ่อของแบมันจึงวางแผนนำเรื่องระเบิดชำรุดมาเปิดเผยต่อสาธารณชนซึ่งคนที่ช่วยเหลือเขาตอนนั้นก็คือประธานชาโฮชอลพ่อของอูอิน อีกคนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีนี้ก็คือรัฐมนตรีอีแจชิกที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทผลิตระเบิด

ยงมุนกูวางแผนการใหม่โดยเข้าหาอีแจชิกเพราะรู้ดีว่าเขาไม่เชื่อใจโนฮวายนองเช่นกัน ยงมุนกูอ้างว่าจะสนับสนุนสงครามทางการเมืองให้อีแจชิกทั้งด้านการเงินและด้านอื่น
อันซูโฮใช้เส้นสายกับสารวัตรทหารและซื้อของแพงๆมาแจกจ่ายเพื่อให้กลั่นแกล้งแทนัม แต่โนแทนัมไม่ยอมก้มหัวให้คนเหล่านั้น พลทหารพยอมซังโฮซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียวของแทนัมจึงต้องโดนกลั่นแกล้งแทน เขาระบายกับแทนัมว่าอยากกลับบ้านและคิดถึงอาหารฝีมือแม่ ทำให้แทนัมสะท้อนใจเพราะเขาก็คงคิดถึงแม่เช่นกัน แทนัมขอยืมโทรศัพท์ของอันซูโฮเพื่อโทรบอกยังมุนกูให้ส่งพัสดุราคาแพงมาให้เขาหลายๆชิ้น ขณะที่อันซูโฮยังคงคิดแก้แค้นแทนัมและต้องการให้เป็นหมารับใช้ของเขาให้ได้

แบมันและทีมของเขาจะเริ่มสืบสวนคดีกลั่นแกล้งของผู้บัญชาการฮงมูซอบ โดยวางแผนปั่นหัวสำนักงานกฎหมายของกองบัญชาการและทำให้ผู้พิพากษาไม่ยอมโอนอ่อนให้ฮงมูซอบ ส่วนแบมันจะโน้มน้าวจ่าชินให้ได้ จากนั้นยุนซังกีและอันยูราจึงปลอมตัวเป็นนักข่าวและไปที่สนามกอล์ฟเอกชนซึ่งกลุ่มนายทหารพระธรรมนูญกำลังตีกอล์ฟในเวลาราชการโดยมีจ่าชินเป็นแคดดี้คอยรับใช้ ต่อมาคนเหล่านั้นจึงตกเป็นข่าวออกสื่อ ขณะที่จ่าชินออกมาจ่ายตลาด แบมันจึงนำภาพข่าวให้ดูและบอกว่าจะเด้งก๊วนนี้ยกแผงโดยเขาจะเป็นคนสั่งฟ้อง แต่ทว่าแบมันก็ยังไม่สามารถโน้มน้าวจ่าชินได้ เขาจึงขอโอกาสจากจ่าชินและสำนึกผิดอย่างจริงใจ แต่จ่าชินต้องรีบกลับตามที่คุณหญิงโทรตาม แบมันจึงให้นามบัตรของผู้พิทักษ์สิทธิ์ในกองทัพ เช้าวันต่อมาจ่าชินจึงตัดสินใจเก็บของและออกจากบ้านของนายพลฮงมูซอบเพื่อไปที่นั่นและให้ข้อมูลว่าฮงมูซอบและครอบครัวใช้อำนาจโดยมิชอบทำทำร้ายร่างกายเขาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา สำนักงานผู้พิทักษ์สิทธิ์ในกองทัพจึงขอให้มีสืบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจังและวิพากย์วิจารณ์กองทัพอย่างหนัก

อีแจชิกไม่พอใจเพราะมีผลต่อการแต่งตั้งเสนาธิการทหาร แต่ฮงมูซอบอ้างว่าเขาดูแลจ่าชินเป็นอย่างดีและอาจเป็นการผิดพลาดและความเข้าใจผิดของการสื่อสาร โนฮวายองคิดว่าจะให้แบมันและอูอินซึ่งเป็นคนในสังกัดของเธอเป็นผู้ทำคดีนี้โดยเป็นทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับและให้ทนายยงมุนกูเป็นทนายฝ่ายจำเลย แม้ยงมุนกูจะเคยบอกว่าจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องในศาลทหารแต่อฮววายองมั่นใจว่าเขาจะต้องไปแน่หากเป็นคำสั่งของเธอ
อีแจชิกออกแถลงการว่าแบมันและอูอินซึ่งเป็นอัยการทหารจะเป็นทีมสืบสวนพิเศษสำหรับคดีของฮงมูซอบโดยมีนายทหารพระธรรมนูญซอจูฮยอกเป็นหัวเรือใหญ่เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัย แบมันพาสายสืบโดซูกยองซึ่งเป็นอาของเขาเข้ามาอยู่ในทีมสืบสวนพิเศษครั้งนี้ด้วยเพราะเห็นว่าน้องสาวของฮงมูซอบเป็นพลเรือนและคดีนี้ก็เป็นที่สนใจของประชาชน

หลังจากที่จ่าชินออกจากบ้านของฮงมูซอบและยอมร่วมมือกับแบมัน แบมันจึงให้จ่าชินอยู่ที่ห้องพักของเขาไปก่อน โดยที่แบมันจะไปพักที่ห้องประชุมลับชั่วคราวและพบกับอูอินซึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่ที่นั่น พวกเขาได้ใช้เวลากินอาหารด้วยกัน คังฮาจุนโทรไปหาอูอินและแปลกใจเมื่อะรู้ว่าเธอกำลังอยู่กับแบมันที่นั่น

คังฮาจุนกำลังกู้ไฟล์ในฮาร์ดไดรฟ์ของวอนกีชุนและได้พบหลักฐานสำคัญที่สามารถนำจับโนฮวายองได้ แต่ไม่ทันที่จะโทรบอกเธอ เจ้าหน้าที่ก็เข้ามายึดทรัพย์ในบริษัทของเขาเพื่อนำไปสืบสวนข้อหาจารกรรมข้อมูล ฮาร์ดไดรฟ์ของวอนกีชุนจึงถูกยึดไปด้วย ขณะที่คังฮาจุนไม่รู้ว่าใครคือคนสร้างข้อมูลเท็จที่ทำให้บริษัทของเขาประสบปัญหา จู่ๆยงมูนกูก็ปรากฎตัวและบอกว่ามันไม่ใช่ฝีมือของเขาคนเดียวและตอนนี้เขาได้กว้านซื้อหุ้นที่กำลังตกฮวบของฮาจุนไว้หมดแล้ว ยงมุนกูยื่นข้อเสนอให้ฮาจุนอย่างที่เขาเคยทำสัญญากับแบมันไว้เมื่อห้าปีก่อนซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้

หลายวันต่อมาในการพิจารณาคดีของฮงมูซอบครั้งที่สอง โนฮวายองปรากฎตัวในฐานะพยานปากเอกของฝ่ายโจทก์ท่ามกลางความแปลกใจของยงมุนกูและฮงมูซอบซึ่งเป็นฝ่ายจำเลย