สปอยล์ Military Prosecutor Doberman ตอนที่ 4
อูอินยอมรับกับแบมันว่าเธอคือสาวผมแดงอย่างที่เขาสงสัย เธออยากให้เขาตาสว่างและตื่นจากความหลงลืม เขาจะได้รู้เหตุผลของเธอก่อนที่จะปลดประจำการ โนแทนัมถูกจับในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศแต่ได้รับการปล่อยตัวจากสำนักงานอัยการโดยเส้นสายของนายพลหญิงฮวายอง แทนัมคิดว่าแม่ไม่ได้ทำเพื่อเขาแต่ทำเพื่อตัวเอง แบมันตั้งใจว่าจะจัดการเรื่องเว้นทหารของโนแทนัมให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วค่อยจัดการเรื่องชาอูอิน ยงมุนกูเกลี้ยกล่อมโนแทนัมให้เข้ากองทัพเพื่อฟังการพิจารณาคดีได้สำเร็จ โดยอ้างว่านายพลโนฮวายองคือผู้บัญชาการสูงสุดที่ผู้พิพากษาทหารหรืออัยการก็ต้องรับฟังคำสั่งของเธอ
ในงานเลี้ยงรุ่น ฮอคังอินอิจฉาโนฮวายองที่ได้เป็นผู้บัญชาการหญิงและคิดว่าเธอใช้เส้นสายเพราะตัวเขาเองไม่ค่อยได้เลื่อนขั้น ซึ่งโนฮวายองบอกว่าในกองทัพมีแต่ทหารเท่านั้นและไม่มีการแบ่งว่าเป็นชายหรือหญิง เธอทำร้ายฮอคังอินและเหยียบหน้าเขาด้วยรองเท้าทหาร โนฮวายองรู้ว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งกว่าคนขี้แพ้อย่างฮอคังอิน
แบมันได้ไฟล์ข้อมูลสัมภาษณ์คังฮาจุนซึ่งตั้งตัวได้ทุกวันนี้เพราะเคยได้รับความช่วยเหลือจากประธานชาโฮชอลแห่งไอเอ็มดีเฟนส์ซึ่งเป็นพ่อของชาอูอิน แบมันจับต้นชนปลายเรื่องราวและเชื่อว่าเป้าหมายของอูอินก็คือโนแทนัมที่ร่วมมือกับยงมุนกูใส่ร้ายและฆ่าพ่อของเธอโดยจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ เหตุผลที่ชาอูอินมาเป็นทหารก็เพราะนายพลโนฮวายองคือเจ้าของตัวจริงไอเอ็มดีเฟนส์ไม่ใช่โนแทนัม แบมันไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับความแค้นส่วนตัวของอูอินเพราะเขากำลังจะไปทำงานกับแทนัม แต่อูอินอยากให้แบมันหาคำตอบให้เจอว่าทำไมเขาจะต้องอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเธอ รูปถ่ายที่อูอินทิ้งไว้ให้แบมันก็คือรูปของถนนที่พ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต และผู้ที่ขับรถชนก็คือทหาร คดีจึงถูกโอนเข้ากองทัพโดยที่ยอมซังจินคือพนักงานสอบสวนในตอนนั้น ต่อมาแฟ้มคดีก็ถูกเผาตามคำสั่งของใครบางคน แบมันเห็นรูปพ่อกับแม่ที่ถ่ายคู่กับประธานชาโฮชอลแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกันอย่างไร เขาจำได้เพียงว่าก่อนที่พ่อแม่จะประสบอุบัติเหตุ พวกท่านปฏิเสธการรับสายจากประธานชา
อูอินเชื่อว่ายงมุนกูไม่ได้ขู่เซนา แต่เขาได้คลิปจากเธอเพราะต้องการปั่นหัวและหลอกใช้เธอจนไปสู่การจับกุมโนแทนัม อูอินรับปากว่าแทนัมจะต้องไม่ลอยนวลเพราะตอนนี้คดีของเขาเป็นหน้าที่ของอัยการทหารแล้ว
ยอมซังจินเป็นทหารรุ่นน้องของพ่อแม่แบมัน เขาเล่าว่าพ่อแม่ของแบมันเป็นพนักงานสอบสวนสังกัดนายทหารพระธรรมนูญที่เก่งทั้งคู่ แบมันจำเหตุการณ์ตอนอุบัติเหตุไม่ได้เพราะเขาฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล ยอมซังจินจึงไม่เล่าอะไรให้แบมันฟังเพราะคิดว่าการไม่เหลือความทรงจำในตอนนั้นจะเป็นการดีกว่า
โนฮวายองตั้งใจให้คลิปฉาวของโนแทนัมอยู่ในมือของตำรวจเพื่อให้เขาถูกจับและจำใจต้องเข้ากรมทหารตามความต้องการของเธอ เธอมอบหมายให้ทนายยงมุนกูเป็นประธานบริษัทและดูแลไอเอ็มดีเฟนส์ไปก่อนซึ่งก็เป็นไปตามแผนการในใจของเขา แบมันจึงถูกลอยแพเพราะไม่ได้ทำงานกับแทนัมอย่างที่ตั้งใจ แต่เขาก็จะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์และไม่ขอมีความสัมพันธ์ใดๆ กับยงมุนกูอีกต่อไป
ยอมซังจินต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอูอิน เขาบอกกับเธอว่าตอนนี้แบมันยังจำสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้ แต่เธออยากให้แบมันนึกออกได้เองและพร้อมที่จะยอมรับความจริง เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของจริง แบมันจะปลดประจำการในวันเดียวกับที่แทนัมต้องเข้ากรม แบมันวันทยหัตถ์ต่อนายพลโนฮวายองเพื่ออำลา แต่เธอปฏิเสธที่จะตอบรับและต่อว่าที่เขาใช้เกียรติและศักดิ์ศรีของทหารเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองซึ่งถือว่าเป็นความอัปยศของกองทัพเกาหลี แบมันสังเกตว่าโนฮวายองไม่มีนิ้วชี้ขวามือ ความทรงจำเรื่องอุบัติเหตุของพ่อแม่ก็เริ่มผุดขึ้นมาทำให้แบมันจำได้ว่าทหารที่ขับรถชนพ่อแม่ของเขาก็คือโนฮวายอง
หนึ่งเดือนต่อมา โนแทนัมต้องขึ้นศาลทหารโดยมียงมุนกูเป็นทนายฝ่ายจำเลย นายพลโนฮวายองเข้ารับฟังการพิจารณาคดี อูอินเป็นพนักงานอัยการฝ่ายโจทย์โดยมีแบมันเป็นอัยการร่วมกับเธอ แบมันบอกตัวเองว่าเขาจะเป็นหมาล่าเนื้อผู้ภักดีของเธอ