สปอยล์ Youth of May ตอนที่ 7-8
มยองฮีรับปากว่าจะให้คำตอบฮีแทเมื่อเขาสร่างเมา เรื่องที่เขาขอคบกับเธอจนสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม เช้าวันรุ่งขึ้นเธอทำงานอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงเสียงเพลงของฮีแท
ฮีแทไปดำเนินเรื่องต่อเพื่อให้คนไข้จางซอกชอลได้ย้ายมารักษาต่อที่โรงพยาบาลในกวังจูซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ ผอ.ชเวบยองกึนแปลกใจถึงสาเหตุที่ฮีแทช่วยเหลือเธอขนาดนี้ ทั้งๆที่ไม่ใช่ญาติ เมื่อพบมยองฮีที่โรงพยาบาล ฮีแทอ้างว่าเขาหาหมอเพราะอาการเมาค้างจากเมื่อคืนเท่านั้น มยองฮียื่นจดหมายลาออกล่วงหน้า ก่อนที่เธอจะเดินทางไปเรียนต่อ
วอนซอกแอบมาส่งข่าวให้ซูรยอนรู้ว่าทางมหาวิทยาลัยโซลเตรียมพร้อมที่จะประท้วงอย่างเต็มรูปแบบตามแผนเหมือนกับที่กวังจูเช่นกัน ต่อมาทั้งสองคนถูกคนของฮวังกีนัมจับตัวไป
มยองฮีไปรอซูรยอนที่บ้าน จึงเห็นป้าของเธอกำลังพยายามโน้มน้าวให้ซูชานไปออกเดต แต่ซูชานปฏิเสธและบอกว่าไม่ชอบนัดบอด หลังจากที่ป้ากลับไปแล้ว มยองฮีจึงถามซูชานเรื่องผู้หญิงที่เขาชอบ เขามองหน้ามยองฮีอย่างอ่อนโยนและตอบว่า เธอคนนั้นเปรียบเสมือนดอกไม้ป่า ไม่ล้มเลิกความฝันที่ตั้งใจไว้ และไม่เคยบ่นที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อครอบครัวหรือย่อท้อต่อชีวิต
จินอาแปลกใจที่ฮีแทถามหลายๆ สิ่งที่มยองฮีชอบ ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ที่กำลังติวอยู่ หากจินอาได้เป็นดีเจในอนาคต เขาขอให้เธอเปิดเพลงของเขาในรายการ หากว่าเขาชนะการประกวดที่มหาวิทยาลัยการดนตรี จินอาจึงขอแลกเปลี่ยนด้วยการพาเธอไปชมสถานีออกอากาศรวมทั้งมหาวิทยาลัยในโซลด้วย
มยองฮีอยากรู้ว่าฮีแทไปที่โรงพยาบาลทำไม เขารับปากว่าจะบอกเธอหากเธอให้คำตอบเขาก่อน แต่มยองฮีเฉไฉโดยอ้างว่าทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน และพรุ่งนี้มีธุระไปที่อื่นแต่เช้า ฮีแทจึงขอไปด้วย
ซูรยอนถูกฮวังกีนัมกักตัว แต่เธอไม่ยอมปริปากพูดอะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับการประท้วงที่เธอและพรรคพวกวางแผนการไว้ ฮีแทยังคงฝันร้ายบ่อยๆถึงคืนที่จางซอกชอลบาดเจ็บสาหัสและมาขอความช่วยเหลือจากเขา
ฮีแทและมยองฮีนั่งรถไปที่บ้านเด็กกำพร้าซารังด้วยกัน โดยที่เขาเตรียมไข่ต้มและขนมโปรดไว้ให้เธอกินระหว่างทางและบอกว่าทุกๆ ครั้งที่ได้อยู่กับเธอ เปรียบเสมือนการปิกนิก มยองฮีเตรียมขนมต่างๆ ไปให้เด็กๆ ด้วยเช่นกัน เธอแนะนำกับแม่ชีว่าฮีแทเป็นนายแพทย์มือใหม่
แม้จะไม่มั่นใจแต่ฮีแทก็ยอมตรวจสุขภาพทั่วไปให้เด็กๆตามที่มยองฮีบอก ฮีแทมีปมในใจที่ในครั้งนั้นเขาไม่สามารถช่วยจางซอกชอลจนเธอต้องเป็นคนไข้โคม่าจนถึงตอนนี้ ระหว่างนั่งพักรอมยองฮี ฮีแทแบ่งขนมปังให้เด็กหญิงยองอีกิน จากนั้นเธอก็สลบไป ฮีแทตกใจและรีบไปบอกมยองฮี แต่ยองอีไม่เป็นอะไรมากเพียงแต่กระเพาะอักเสบเท่านั้น ฮีแทบอกมยองฮีว่าเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นหมอ แต่เธอเชื่อว่าเขาจะเป็นหมอที่ดีได้ เพราะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ
อีชังกึนไปรับซูรยอนและต่อว่าการกระทำของลูกสาว เธอจึงบอกพ่อว่าจะไม่ยอมแต่งงานหรือเกี่ยวข้องกับตระกูลนั้น แต่พ่อของเธออ้างว่าธุรกิจกำลังมีปัญหาและจำเป็นต้องพึ่งพาตระกูลฮวัง และตอนนี้ซูชานก็กำลังสร้างโรงงานผลิตยาโดยการลงทุนของญาติฮวังกีนัม เขาไม่สนใจที่ใครจะว่าขายลูกสาวกิน เพราะขี่หลังเสือแล้วก็ไม่อาจลงได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นผู้ถูกกิน อีชังกึนจะไม่ยอมล้มเลิกการแต่งงานในครั้งนี้เด็ดขาด
ฮีแทไปส่งมยองฮีแค่บริเวณบ้าน เพราะเธอไม่อยากให้จินอาเห็นและถามจุกจิก มยองฮีรับปากว่าจะให้คำตอบกับเขาในวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย ณ จุดนี้ที่เขามาส่งเธอ
ฮวังกีนัมแอบสืบเรื่องราวของมยองฮีเพราะสงสัยในความสัมพันธ์กับฮีแทลูกชายของเขา จึงรู้ว่าเธอคือลูกสาวของคิมฮยอนชอลที่เคยมีปัญหากับเขาในอดีต และทำให้คิมฮยอนชอลขาพิการจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาฮวังกีนัมนำนาฬิกาของเขาไปให้คิมฮยอนชอลเปลี่ยนแบตตารี่และเตือนให้ดูแลลูกสาวให้ดี
ซูรยอนปฏิเสธการขอพบของมยองฮีที่บอกว่ามีเรื่องจะบอก เพราะเธอรู้ดีว่าเป็นเรื่องของฮีแทซึ่งเธอจำเป็นจะต้องแต่งงานด้วย
คิมฮยอนชอลแวะเอาของใช้และขนมไปให้คิมมยองซูที่แค้มป์และได้พบกับจองแท หลังจากนั้นเพื่อนๆของมยองซูล้อเลียนท่าเดินของพ่อและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ทำให้มยองซูรู้สึกมีปมด้อย จองแทเข้าไปชกหน้าเพื่อนคนนั้น หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของจองแทและมยองซูก็เริ่มดีขึ้น
ซูรยอนบอกฮีแทว่า พ่อของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของพ่อเธอ จึงอยากขอให้ยืดเวลาไปอีกหนึ่งเดือนจนกว่าโรงงานของพี่ชายจะสร้างเสร็จ หลังจากนั้นเธอจะบอกความจริงกับทุกคน แต่ฮีทีไม่ยอมตกลงและอยากให้เธอพูดความจริงให้เร็วที่สุดโดยไม่สนใจเรื่องโรงงานของครอบครัวเธอ
ฮีแทชำระค่ารักษาพยาบาลให้จางซอกชอลและเขียนจดหมายบอกคิมกยองซูซึ่งเป็นเพื่อนรักและคนรักของซอกชอลว่าเธอกำลังจะถูกส่งตัวไปรักษาที่กวังจู จากนั้นฮีแทก็แวะซื้อดอกไม้ช่อใหญ่เพื่อไปรอคำตอบจากมยองฮีที่จุดนัดพบ มยองฮีมาตามนัดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักและถามฮีแทเรื่องที่เขาจะหมั้นกับซูรยอน..