สปอยล์ Youth of May ตอนที่ 23-24
เช้าวันต่อมามยองซูยังคงรอพ่อและซ่อนตัวอยู่ใต้สะพาน จนกระทั่งกลุ่มนักศึกษามาพบและช่วยเขาไว้ได้ ฮีแทและมยองฮีตัดสินใจแต่งงานกันโดยไม่มีแขกหรือของขวัญ นอกจากคำอธิษฐานของแต่ละคนเท่านั้น ก่อนที่มยองฮีจะกล่าวคำอธิษฐานของเธอต่อจากฮีแท บาทหลวงได้มาแจ้งข่าวร้ายการเสียชีวิตของพ่อเธอ พิธีแต่งงานนั้นจึงต้องหยุดชะงักลง
มยองซูนั่งเฝ้าศพของพ่ออยู่ที่ลานโบสถ์ ซึ่งวางรวมกับพลเรือนอีกหลายศพ โดยมีกลุ่มนักศึกษาช่วยดูแลอยู่ด้วย ฮีแทอาสาจะหาวิธีส่งข่าวไปที่นาจูและถามเรื่องฌาปนกิจด้วย ระหว่างที่รอฮีแทอยู่นั้น มยองฮีอ่านจดหมายพ่อเขียนไว้อยู่ในสมุดเงินฝาก ยิ่งทำให้เธอเสียใจและเจ็บปวดใจ ขณะเดียวกับที่ฮวังกีนัมส่งคนมากำจัดเธอและน้องชาย โดยที่จองแทแอบได้ยินแผนการของพ่อ จึงรีบไปช่วยเธอ
เมื่อรู้ว่าจองแทหายไปจากบ้าน ฮวังกีนัมและภรรยาจึงรีบตามไปและพบว่าจองแทถูกยิงที่ขาขณะที่พยายามช่วยมยองฮี เมื่อฮีแทมาถึงจึงรีบพาน้องชายส่งโรงพยาบาล ทั้งจองแทและแม่ของเขาไม่มีใครสนใจฮวังกีนัมอีก รวมทั้งฮีแทด้วย เฉกเช่นที่ฮีแทเคยพูดว่าสักวันหนึ่งพ่อของเขาจะกลายเป็นกำพร้าเพราะไม่มีใครยอมรับเป็นครอบครัว
ซูรยอนและซูชานแอบนำสินค้าในโกดังของครอบครัวไปช่วยเหลือชาวควังจูที่เดือดร้อน อีชังกึนรู้ดังนั้นจึงนำกุญแจคลังมาให้และสนับสนุนลูกทั้งสองคน
ขณะที่มยองฮีและฮีแทไปส่งจองแทที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัด มยองซูตัดสินใจที่จะนำข่าวร้ายของพ่อไปบอกแม่กับย่าที่นาจู จึงขอแผนที่จากพัคซอนมิน มยองฮีและฮีแทกลับมาจึงรีบออกตามหาน้องในป่า เมื่อถึงทางแยกพวกเขาแยกทางกันออกตามหามยองซูโดยตกลงกันว่าจะกลับมาเจอกันที่จุดเดิมภายในเวลาห้านาที ฮีแทมอบนาฬิกาพกของคิมฮยอนชอลให้มยองฮีไว้ดูเวลา โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่านั่นคือการพบหน้ากันครั้งสุดท้ายของพวกเขา
ฮีแทถูกทหารที่ด่านควบคุมตัวได้และกำลังจะถูกยิงทิ้ง แต่สิบโทอีควังกยูมาช่วยไว้ได้โดยอ้างว่าเขาเป็นรุ่นพี่ข้างบ้านและเป็นนักศึกษาแพทย์อันดับหนึ่งของโซล
ขณะที่กลุ่มของคิมคยองซูและหัวหน้าออกลาดตระเวนอยู่อีกด้านหนึ่ง มยองฮีบอกให้มยองซูรีบวิ่งหนีกลับนาจู และเธอจะออกไปเจรจากับกลุ่มทหาร เธอสัญญากับมยองซูว่าจะกลับไปหาที่นาจูและได้มอบนาฬิกาพกเรือนนั้นให้น้อง คิมคยองซูจำได้ว่ามยองฮีคือคนรักของฮีแท มยองฮีถูกหัวหน้าฮงซังพโยยิงและนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ข้างทาง คิมคยองซูอาสาจะวิ่งตามไปฆ่ามยองซู แต่เขาแอบบอกมยองซูให้รีบหนีไป เมื่อกลับมาเห็นมยองฮีกำลังจะสิ้นใจ เขาจึงนำนาฬิกาที่มยองซูทำตกไว้และคำอธิษฐานในวันแต่งงานใส่ไว้ในมือของเธอ ก่อนที่เธอจะสิ้นใจ
หลังจากเหตุการณ์สงบลง ฮีแทออกตามหามยองฮีจนทั่วแต่ก็ไม่มีใครพบ
จนกระทั่งปีปัจจุบัน 2021 ฮีแทเป็นศาสตราจารย์นายแพทย์ฮวังฮีแทประจำโรงพยาบาล วันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องสำคัญ เมื่อไปถึงที่นัดหมายจึงได้พบกับจางซอกชอลซึ่งเป็นอดีตคนไข้ที่เขาช่วยและรอดชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นเขายังได้พบบาทหลวงมยองซูที่แจ้งว่าพบมยองฮีแล้ว
ฮีแทไปที่สถานีตำรวจและได้หลักฐานจากทางตำรวจซึ่งก็คือกระดาษและนาฬิกาพกที่อยู่ในมือของมยองฮี ที่นั่นเขาได้พบกับคิมคยองซูที่เพิ่งไปให้ปากคำ ทั้งคู่ต่างก็จำกันได้โดยไม่มีคำพูดใดๆ และเดินจากกันไปด้วยความเข้าใจ ฮีแทอ่านข้อความในเศษกระดาษที่มยองฮีเขียนไว้ในวันแต่งงาน เธอเขียนอธิษฐานว่าหากเกิดอะไรขึ้นสักวันหนึ่งที่เธอและเขาต้องปล่อยมือกันไป ขอให้คนที่อยู่ข้างหลังไม่จมดิ่งอยู่กับความทุกข์ ขอให้ได้รับพลังและความกล้าจากพระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ต่อไป
ขณะที่ไปเยี่ยมหลุมศพของมยองฮีที่สุสาน ฮีแทตั้งใจเริ่มต้นเดือนพฤษภาคมแรกของเขาเพื่อตอบรับคำอธิษฐานของเธอ หลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างหมดหวังมาตลอด 41 ปีที่ตามหาเธอ เขาหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้พบกับมยองฮีอีกครั้ง..