สปอยล์ train ตอนที่ 4

4

ในโลกที่สอง โดวอนถูกสารวัตรซอคยองควบคุมตัวไปสถานีตำรวจอิลซองเพื่อสอบปากคำ ระหว่างที่นั่งรถ โดวอนสังเกตว่ามันเป็นวันเดียวกันและเมืองเดียวกันกับในโลกที่1ที่เขาอยู่ จะมีเพียงบางสถานที่เท่านั้นที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่น สถานีรถไฟมูคยองและโบสถ์มูคยอง ผู้คนที่ตายไปแล้วในโลกของเขา ยังคงมีชีวิตในโลกที่สองแห่งนี้ ส่วนคนที่ตายไปแล้วที่นี่ กลับยังมีชีวิตอยู่ในโลกที่หนึ่งที่เขาอยู่

โดวอนแปลกใจที่ซอคยองไม่ใช่อัยการแต่เป็นสารวัตร และตัวเขาเองก็คือสารวัตรใหญ่ของโลกที่สองนี้ ซึ่งโดนข้อหาฆาตกรรมพ่อค้ายาอีจินซอง เมื่อสามปีก่อนเขาปล่อยให้อีจินซองลอยนวลเพราะเป็นคนส่งยาให้เขาเสพ เมื่อซอคยองให้เขาดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่เขานัดพบอีจินซองก่อนที่จะถูกฆ่า จึงรู้ว่าโลกที่สอง นี้ยังมีโดวอนอีกคนหนึ่ง เขาจึงบอกว่านั่นไม่ใช่เขา และขอให้ตรวจร่างกายเพราะเขาไม่เคยเล่นยา อีกทั้งกระสุนปืนก็เป็นคนละชนิดกับปืนที่เขาใช้ เขายังพูดถึงไฟล์ข้อมูลลูกค้าที่อีจินซองเก็บไว้ในโลกที่หนึ่ง ที่เขาอยู่

เมื่อผลการพิสูจน์ออกมาแล้วว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่โดวอนบอก ก่อนปล่อยตัวออกไป ซอคยองบอกว่าไม่มีไฟล์ข้อมูลลูกค้าของอีจินซองตามที่เขาอ้าง เป็นไปได้ว่าคนที่ฆ่าอีจินซองเป็นคนเอาไป หรือไม่ก็เป็นเรื่องโกหก เมื่อซอคยองบอกว่าเขายังคงเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก และห้ามหนีออกนอกเมืองเด็ดขาด โดวอนจึงบอกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะอยู่ที่นี่

โดวอนบอกตัวเองว่าเขาไม่สนใจว่าอยู่ที่ไหน กำลังเป็นบ้าหรือแค่ความฝัน เพราะมีซอคยองอยู่ที่นี่ และต้องหาทางรู้ให้ได้ว่าตัวเองเป็นใครในโลกที่สองแห่งนี้
ซอคยองขอให้นักสืบหาข้อมูลของพยานที่เจอโดวอนหลังจากที่อีจินซองตายแล้ว เพื่อสืบหาตำแหน่งที่อยู่ของเขา จากนั้นเธอนึกถึงตอนที่โดวอนลูบแก้มและเรียกชื่อเธอขณะที่ถูกจับกุม และแน่ใจว่าเขาเรียกชื่อได้ถูกต้อง

โดวอนลองกลับไปที่บ้านของตัวเอง จึงเห็นว่าห้องถูกรื้อกระจัดกระจาย และรูปถ่ายของตัวเองที่จบจากมหาวิทยาลัยตำรวจแห่งชาติ ซึ่งต่างจากในโลกที่หนึ่ง ขณะที่ปีนขึ้นไปซ่อมหลอดไฟที่กำลังขัดข้อง เขาจึงพบกล่องเข็มฉีดยา และใช้ความคิดว่าโดวอนอีกคนที่ฆ่าอีจินซอง กำลังหลบหนีไปที่ไหน ทั้งสองโดวอนทำงานเหมือนกันและที่เดียวกัน แต่ทำไมถึงใช้ชีวิตต่างกัน เขาจึงต้องการเช็กสภาพแวดล้อม

โดวอนไปทำงานที่สถานีตำรวจมูคยองเพื่อหาข้อมูลต่อไป และได้ยินตำรวจนินทาว่าเขาเคยโดนพักงาน ฐานที่ปล่อยพวกร้านเหล้าเพื่อแลกกับเงิน และยังเล่นยาอีก หากเขาจะเป็นฆาตกรก็ไม่น่าแปลก เพราะในโลกบีแห่งนี้ เขาคือลูกของฆาตกรที่ฆ่าคนตายเมื่อสิบปีก่อนด้วยการรัดคอและทุบกะโหลก

โดวอนได้พบกับสายสืบอูคนสนิท แต่เขากลับดูห่างเหินในโลกที่นี่ เมื่อเดินไปที่โต๊ะทำงานที่แผนกอาชญากรรมรุนแรงสาม เขาหยิบแฟ้มคดีฆาตกรรมย่านมูคยองขึ้นมาดู ซึ่งระบุปี 2008 เขาจึงรู้ว่าคดีที่เกิดขึ้นกับพ่อของเขาเมื่อสิบสองปีก่อน ก็เกิดขึ้นที่โลกนี้เช่นกัน แต่ที่โลกสองนี้คดีไม่ได้ถูกปกปิดไว้ แต่คนร้ายตัวจริงก็ไม่เคยถูกจับได้ พ่อของเขาจึงถูกกล่าวหาว่าเป็นคนร้าย จู่ๆ สายสืบอูก็มายื่นใบลาออกและขอให้เขาเซ็นอนุมัติ เพราะไม่ต้องการทำงานทีมเดียวกับเขา และคิดว่าเขาคือฆาตกร แต่โดวอนฉีกใบลาออกและขอเวลาเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง หากว่าเขาเป็นคนฆ่าอีจินซองจริงๆ เขาจะเป็นคนลาออกเอง โดวอนยังถามสายสืบอูอีกว่า ที่นี่มีคนชื่ออีจองมิน แผนกนิติเวชสถานีตำรวจคยองกีหรือเปล่า

ขณะที่ซอคยองกำลังดูที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมอีจินซอง และสังเกตเห็นความว่างเปล่าบนชั้นวางของที่กำแพงห้อง อีจองมินและทีมก็มาพิสูจน์หลักฐาน ทั้งคู่จึงแนะนำตัว ซอคยองรู้ว่าอีจองมินคือแฟนเก่าของสารวัตรใหญ่โดวอน และในคืนที่เขาฆ่าอีจินซอง เขาก็โทรหาเธอ แต่อีจองมินบอกซอคยองว่า แทนที่จะสืบเรื่องของเธอกับสารวัตรใหญ่โดวอน เธอควรเอาเวลาไปสืบคดีอีจินซองดีกว่าเพราะเธอพบกิ๊บติดผมของสาวปริศนาบนที่นอนของอีจินซอง

โดวอนมาดักรออีจองมินเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะเธอคือคนเดียวในโลกสองที่สามารถช่วยเขาได้ โดวอนดูรูปศพของอีจินซองขณะที่เธอเล่าเหตุการณ์ให้เขาฟังว่าในคืนเกิดเหตุ เขาไปพบอีจินซองเพราะต้องการปิดปากก่อนจะมีการสอบสวน อีจองมินจึงต้องการให้เขาเล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ตอบไม่ได้ เพราะเห็นตัวเองในโลกนี้ ทั้งทุจริต ติดยาและฆ่าคน อีจองมินเชื่อว่าเขาไม่ได้ฆ่าใครตามที่โทรมาบอกเธอหลังจากเกิดเหตุการณ์ และรู้ว่าคนอย่างโดวอนไม่มีทางฆ่าคนได้ เพราะเขาต้องอดทนกับเรื่องของพ่อมานานกว่าจะมาจนมาถึงจุดนี้ จองมินให้โดวอนดูกิ๊บติดผมของสาวปริศนาที่เธอพบในห้องของงอีจินซอง แต่ว่าไม่พบประวัติการโทรและไม่เห็นแฟนของจินซองมาร่วมงานศพเลย โดวอนดูกิ๊บติดผมและเอ่ยชื่อพัคมินคยอง ซึ่งเขาจำได้ว่าเป็นแฟนของจินซองในโลกที่หนึ่งที่เขามา ขณะเดียวกับที่สารวัตรซอคยองค้นพบเบอร์สุดท้ายที่โทรหาอีจินซองก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งเป็นเบอร์สาธารณะ

โดวอนไปหาพัคมินคยองที่บ้าน และพบว่าเป็นคนเดียวกันกับอีกโลกหนึ่ง แต่ที่โลกบีแห่งนี้พัคมินคยองแต่งงานแล้วและกำลังตั้งครรภ์ เมื่อสามีกลับมา เธอบอกว่าตำรวจมาถามอะไรนิดหน่อยเพราะเกิดคดีขึ้นแถวนี้ เธอบอกว่าไม่รู้จักอีจินซองและไม่เคยใช้กิ๊บติดผมอันนั้น

โดวอนแปลกใจที่พัคมินคยองและอีจินซองไม่เคยรู้จักกันที่โลกนี้ ขณะกำลังจะกลับเขาสังเกตเห็นไดรฟ์ข้อมูลแขวนอยู่ที่หน้ารถของเธอ ซึ่งเหมือนกับของพัคมินคยองที่ให้เขาไว้ในโลกหนึ่งเพื่อขอให้ช่วยอีจินซองให้ได้รับโทษน้อยลง

พัคมินคยองโดนมีดบาดขณะกำลังทำกับข้าว เธอจึงบอกสามีว่าจะออกไปซื้อยาและสูดอากาศข้างนอก เพราะได้กลิ่นอาหารมากเกินไป โดวอนยืนขวางหน้ารถและเข้าไปนั่งคุยกับเธอ เขาสงสัยว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของสามีคนนี้และบัญชีค้ายาของอีจินซองก็อยู่ในไดรฟ์นี้

สารวัตรซอคยองมาถึงพอดีหลังจากที่ได้ข้อมูลทะเบียนรถที่เธอพบจากกล้องวงจรปิด โดวอนบอกว่าพัคมินคยองคือแฟนของอีจินซอง เธออาจจะรู้ข้อมูลของคนร้ายก็ได้ ซอคยองให้คยองมินดูภาพกล้องวจรปิดและถามว่าคืนนั้นคุยอะไรกับอีจินซอง คยองมินขอร้องให้ปิดคดีนี้ไปเงียบๆเพราะสามีของเธอไม่รู้เรื่องนี้ จู่ๆ คยองมินเกิดอาการปวดท้องกะทันหัน เมื่อฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล เธอจึงบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกของสามีคนนี้ เธอจึงอยากจบเรื่องและขอเลิกกับอีจินซอง แต่อีจินซองไม่ยอมและต้องการไปหาสามีของเธอ เขาขอให้เธอถือสายรอ เพราะมีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน เธอได้ยินเสียงคนทะเลาะกันจนชนกำแพง จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น

ซอคยองไม่พอใจที่โดวอนไปขู่พยานซึ่งกำลังตั้งท้อง แต่เขาอธิบายว่าต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และไม่ชอบสายตาที่เธอมองเขาแบบนั้น ถึงอย่างไรซอคยองก็บอกว่าหากพัคมินคยองเป็นอะไรไป เธอจะถือว่าเขาเป็นคนร้ายและจับเข้าคุกให้ได้
พัคคยองมินเล่าให้โดวอนฟังว่า คืนนั้นอีจินซองบอกเธอว่าพบศพอยู่ในกระเป๋า ด้วยความตกใจจึงวิ่งไปบอกคนแจกใบปลิวของบาทหลวงพัคยองแท และบอกสารวัตรโดวอนที่เพิ่งมาถึงก็ไล่ตามคนร้ายขากระเผลกที่เพิ่งลากกระเป๋าขึ้นรถไฟไป โดวอนคิดว่าทั้งอีจินซองและซอคยองถูกคนร้ายยิงตายเพราะเห็นศพในกระเป๋าใบนั้น

สารวัตรซอคยองกลับไปที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อนำรอยเลือดจากกำแพงมาพิสูจน์ ผลตรวจออกมาว่าเป็นเลือดของผู้หญิง โดวอนจึงบอกเธอว่า เขาไม่ได้เป็นคนฆ่าอีจินซองและจะตามจับคนร้ายให้ได้ เธอแปลกใจที่โดวอนรู้ว่าอีจินซองและพัคคยองมินเคยเป็นแฟนกัน เขาจึงพยายามจะเล่าเรื่องโลกที่สอง แต่เธอไม่สนใจและบอกเพียงว่าถึงอย่างไรเธอและเขาก็ไม่ถูกกันอยู่ดี โดวอนแนะนำตัวเองอีกครั้งและขอเริ่มต้นใหม่ ซอคยองจึงพูดถึงคดีฆาตกรรมเมื่อสิบสองปีก่อน และจุดเริ่มต้นของเธอก็คือ พ่อของเขาเป็นฆาตกรและพ่อของเธอก็คือเหยื่อ

พัคคยองมินนำไดรฟ์ข้อมูลที่อีจินซองฝากไว้มาให้ซอคยองและบอกว่าโดวอนบอกให้นำมาให้เธอ หลังจากที่เปิดดูข้อมูลแล้ว ซอคยองจึงโทรบอกรุ่นพี่เพื่อจะย้ายไปทำงานที่สถานีมูคยอง

โดวอนตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงคนเข้ามาในบ้าน และคนคนนั้นก็คือพ่อของเขาเอง เขาเชื่อว่ามันไม่ใช่ความฝันหรือภาพหลอน เพียงแค่ต่างจากเดิมตรงที่คนเป็นกลับตาย ส่วนคนตายกลับมีชีวิตอยู่ที่นี่..