สปอยล์ Start-Up ตอนที่ 6
จีพยองหลีกเลี่ยงที่จะตอบข้อสงสัยของดัลมีมาหลายครั้งแล้ว นัมโดซานจึงบอกเธอว่า ในฐานะที่เขาและจีพยองสนิทกันเหมือนพี่น้อง เขาจึงขอให้จีพยองช่วย เพราะหลังจาก15ปี ที่ไม่ได้ติดต่อกับเธอ เขาจึงอยากให้เธอเห็นว่าเขาได้ดี
ดัลมีไปดักรอพบแม่ของเธอที่โรงแรม เพื่อบอกว่าเธอเข้าแซนด์บอกซ์ได้แล้ว และจะสะสางเรื่องที่เคยเดิมพันกับอินแจไว้ แต่เมื่อพบหน้า ดัลมีเสแสร้งบอกว่าเธอมาพบเพื่อนและเจอแม่โดยบังเอิญเท่านั้น อาฮยอนแอบยิ้มด้วยความเอ็นดู หลังจากที่ดัลมีไปแล้ว โดยที่อินแจมองดูอยู่ห่างๆ
พ่อให้สูทกับโดซานเพื่อใส่ไปทำงานที่แซนด์บอกซ์ในวันแรก ให้สมกับที่เป็นซีอีโอ ทุกคนในทีมดีใจเมื่อรู้ว่าโดซานแก้อัลกอริทึมและทดสอบกับข้อมูลของอินแจคอมพานีได้สำเร็จแล้ว พวกเขาได้ออฟฟิศในแซนด์บอกซ์ซึ่งอยู่ติดกับออฟฟิศของอินแจ
จีพยองหงุดหงิดในที่ประชุมจนทุกคนแปลกใจ แต่ประธานยุนก็บอกพัคดงชอนว่า เขาคงหงุดหงิดที่เป็นพี่เลี้ยงให้ผู้แข่งขันที่คาดว่าน่าจะตกรอบ แต่ดันได้เข้ารอบ พัคดงชอนเอ่ยปากชมประธานยุนว่าเป็นแบบอย่างนักธุรกิจที่ดี เธอจึงอยากให้เขาเป็นผู้จัดการของแซนด์บอกซ์รุ่นนี้และขอให้ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี
ก่อนหน้านี้ อินแจเคยแอบได้ยินประธายุนคุยกับพัคดงชอน ถึงเด็กผู้หญิงเล่นชิงช้าซึ่งเป็นโลโก้และแรงบันดาลใจของแซนด์บอกซ์ เธอรู้ดีว่านั่นหมายถึงซอชองมยองพ่อของเธอที่เททรายบนพื้นสนามเด็กเล่นให้ดัลมี ด้วยความริษยา เธอจึงโพสต์เรื่องราวส่วนตัวเพื่อทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือเธอ
เมื่อถึงวาระที่แต่ละทีมจะต้องมีพี่เลี้ยงเพื่อช่วยวิเคราะห์สถานภาพของบริษัทก่อนที่จะมีผู้ลงทุน ดัลมีตัดสินใจเลือกฮันจีพยอง โดยบอกเหตุผลว่า เธอได้เห็นความพยายามในการช่วยเหลือของเขามาหลายครั้งแล้ว
คนในทีมแปลกใจที่ดัลมีเลือกจีพยองมาเป็นพี่เลี้ยง แทนที่จะเลือกอเล็กซ์ควอนซึ่งมาจากบริษัทระดับโลก ดัลมีจึงบอกว่าจีพยองเป็นเหมือนครอบครัว จากนั้นจีพยองจึงทำเนียนด้วยการจับมือกับโดซานให้ดูราวกับรักกันฉันพี่น้องอย่างที่เขาเคยบอกดัลมีไว้
เพื่อเป็นการปกป้องบริษัทจากนักลงทุน จีพยองแนะนำทีมซัมซานเทคทุกคนเทสัดส่วนหุ้นให้คีย์แมนมากที่สุด ซึ่งเป็นคนสำคัญที่ทีมจะขาดไม่ได้ คีย์แมนควรจะถือหุ้น 60-90% ส่วนที่เหลือก็แบ่งให้กับสมาชิกผู้ก่อตั้ง ชอลชานไม่พอใจเพราะคิดว่าจีพยองกับคนในทีมรวมหัวกันเพื่อที่จะขโมยสัดส่วนหุ้นของเขา และต่อว่าโดซานที่เห็นแก่ผู้หญิง ทั้งสามคนจึงทะเลาะกันราวกับเด็กที่ยังไม่โต
ดัลมีวิ่งตามมาอธิบายกับจีพยองว่าเดี๋ยวพวกเขาก็คืนดีกัน แต่จีพยองคิดว่า หากทะเลาะกันตั้งแต่แรกอย่างนี้ ก็คงไปถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ยาก และดัลมีจะต้องเป็นคนแก้ปัญหาให้ได้ สำหรับการทะเลาะกันเพื่อแย่งหุ้น ทั้งยงซานและชอลชานจึงตัดสินใจออกจากทีม โดซานบอกดัลมีให้คิดเสียว่ามันเป็นเพียงแค่เสียงรบกวน และเขาจะพยายามโน้มน้าวเพื่อนๆให้กลับมา
ยงซานและชอลซาน เต็มใจที่จะยกหุ้นให้โดซาน แต่ไม่ใช่ดัลมี ยงซานแย้งว่าดัลมีมีส่วนช่วยให้พวกเขาได้เข้าแซนด์บอกซ์ แต่ยอลชานเป็นห่วงว่าหากวันหนึ่งดัลมีรู้ความจริงเรื่องจดหมาย ความสัมพันธ์ของเธอกับโดซานจะเหมือนเดิมไหม ขณะที่โดซานนอนฟังสิ่งที่เพื่อนทั้งสองกำลังคุยกัน
จีพยองสอนดัลมีว่าเธอไม่สามารถเป็นทั้งคนดีหรือประธานได้ในเวลาเดียวกัน แต่ต้องเลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะการเป็นประธาน จะต้องยอมรับการถูกด่าให้ได้ และประธานที่ตัดสินใจไม่ได้ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็น
ขวดนมระเบิดเข้าตาของชอลชาน จนเขาคิดว่าตนเองจะตาบอดและจะไม่ได้เห็นหน้าเพื่อนๆอีก แต่เมื่อเขาสามารถมองเห็นได้ตามปกติ จึงบอกกับตัวเองว่าเขาจะเป็นคนดี ดัลมีส่งข้อความเรียกประชุมทุกคน และส่งข้อความบอกโดซานว่า ไม่ว่าเธอตัดสินใจอะไรก็ตาม ขอให้เขาช่วยสนับสนุนเธอ ชอลชานบอกกับโดซานว่าต่อไปนี้เขาจะเชื่อใจโดซานและดัลมีด้วยเช่นกัน
ดัลมีให้ทุกคนดูบัญชีผู้ถือหุ้นที่เธอทำมาใหม่ ซึ่งมีสองแบบให้เลือก ในเมื่อแบบที่หนึ่งไม่มีชื่อของจองซาฮา เธอจึงจำใจต้องเลือกแบบที่สอง ซึ่งมีกฎบังคับว่าทุกคนต้องพูดจาสุภาพขณะที่ทำงานร่วมกัน โดยนัมโดซานถือหุ้นสูงสุด 64% ซอดัลมี 7%
จีพยองยังคงไม่เห็นด้วยกับบัญผู้ถือหุ้นของดัลมี เพราะนักลงทุนจะเกิดความสับสนว่าใครคือคีย์แมนที่นักลงทุนต้องรับมือด้วย ดัลมีบอกว่าเธอจะรับมือเองโดยนัมโดซานจะไปกับเธอทุกครั้งในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย จีพยองหวั่นใจว่าอาจจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง แต่เพราะเธอตัดสินใจในฐานะประธานตามที่เขาแนะนำ เขาจึงไม่โต้แย้งอะไรและบอกเธอว่าพรุ่งนี้เงินสนับสนุนจะเข้าในบัญชี จากนั้นโดซานจึงขอคุยส่วนตัวกับจีพยอง และบอกว่าเขาอยากบอกความจริงกับดัลมีเรื่องจดหมาย
โดซานไปส่งดัลมีที่บ้านและขอพบคุณย่าเป็นครั้งแรก คุณย่าจำได้ในวันที่เขาพาชอลซานไปโรงพยาบาล และช่วยเก็บแมสก์ให้คุณย่า ดัลมีคิดว่าทั้งสองคนจำกันไม่ได้หลังจากที่ไม่พบกันถึงสิบห้าปี แต่โดซานเฉไฉว่าจำได้ เพราะคุณย่าส่งสัญญาณไม่ให้เขาบอกความจริงกับดัลมี