สปอยล์ Start-Up ตอนที่ 16
นักข่าวฮวังซังฮยอนเป็นคนนิสัยไม่ดีและชอบลอบกัดสตาร์ทอัพ หากไม่ได้หุ้นตามที่ขอ เขาก็จะเขียนข่าวในด้านลบ เมื่อรู้ว่าเขาไปหาดัลมี จีพยองจึงรีบไปหาเธอทันที เพราะเชื่อว่านักข่าวคนนี้จะลอบกัดเรื่องแรนซัมแวร์ แต่เมื่อไปถึงและได้พบอินแจ ขณะที่ดัลมีและทีมของเธอกำลังคุยกับนักข่าวในห้องประชุม อินแจรู้ดีว่านักข่าวคนนี้เป็นคนอย่างไร จึงได้บอกดัลมีให้เตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า เพราะโดซานค้นพบว่าคนที่ปล่อยแรนซัมแวร์ก็คือพี่น้องฝาแฝด และเขาก็ได้แจ้งความไว้แล้ว
ดัลมีพาโดซานไปหาคุณย่าหลังจากที่เปิดร้านใหม่ คุณย่าดีใจและขอบใจที่แอพนุนกิลของโดซานที่ช่วยท่านได้มาก คุณย่าเป็นห่วงความรู้สึกของจีพยอง จึงแวะไปหาเขาที่บ้าน ขณะที่เขาเก็บตัวอยู่คนเดียวหลังจากตัดใจเรื่องดัลมี จีพยองต้องการหาอพาร์ตเมนต์ให้คุณย่าเพื่อความสะดวก แต่ท่านไม่ต้องการและบอกว่าให้ไปช่วยเหลือคนที่เขาขาดแคลนจะดีกว่า และถึงแม้อยู่ดีกินดีแล้ว ก็แวะมาหามาพูดคุยกับท่านได้ เพราะท่านไม่อยากให้จีพยองอยู่อย่างโดดเดี่ยวจนติดเป็นนิสัย ความรู้สึกของจีพยองบวกกับคำพูดและความเมตตาของคุณย่า ทำให้เขาน้ำตาไหล แม้คุณย่าจะมองไม่เห็น แต่ท่านก็รับรู้ได้ จึงสวมกอดและปลอบใจเขา
ทุกคนในทีมไม่ได้คาดหวังที่จะชนะการประมูล เพียงแต่ต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์เท่านั้น แต่ทุกคนก็มีแผนว่าจะทำโน่นนี่ หากว่าชนะจริงๆ โดยที่โดซานบอกว่า หากเป็นเช่นนั้น เขาจะขอแต่งงาน
จีพยองตัดสินใจสนับสนุนสตาร์ทอัพมูลนิธิเด็กกำพร้า โดยใช้ทุนส่วนตัวและบริจาคเพิ่มอีก แม้จะมองไม่เห็นเป้าหมายของแผนธุรกิจอย่างชัดเจนก็ตาม แต่เป็นเพราะคำพูดของคุณย่าที่อยากให้เขาช่วยคนที่ด้อยโอกาสกว่าท่าน
เมื่อดัลมีบอกโดซานว่าเธออยากให้ทาร์ซานไปถึงเลเวลห้า ซึ่งจะไม่เกิดอุบัติเหตุเหมือนกับพ่อและไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายสำหรับคุณย่า โดซานจึงบอกว่าเขาจะทำให้เป็นไปได้ภายในเวลาห้าปีครึ่ง แต่ถ้าสเกลอัพและลงทุนในการวิจัยแลพัฒนา ก็อาจจะใช้เวลาเพียงแค่สามปี
ชองมยองคอมปะนีเข้ารอบสุดท้ายของผู้เข้าร่วมชิงประมูลที่สมาร์ทซิตี้ ดัลมีจึงปรึกษาอินแจว่าเธออยากระดมนักลงทุนและสเกลอัพ แต่อินแจคัดค้านเพราะหากได้รับเงินทุนโดยที่ไม่มีการขาย มูลค่าของบริษัทก็จะไม่เป็นที่ยอมรับ
จีพยองเปิดใจพูดกับดัลมีว่า นัมโดซานคือคนแรกที่ไปหาเธอหลังจากที่อ่านจดหมาย ซึ่งต่างจากเขาที่อ่านจดหมายมาสิบห้าปี แต่ก็ไม่เคยตามหาเธอเลย เขาไม่อยากให้เธอรู้สึกผิดหรือโทษตัวเอง
สามหนุ่มแวะไปที่ตึกเก่าซึ่งพวกเขาเคยอยู่ด้วยกัน เมื่อรู้ว่ามีสามหนุ่มหน้าใหม่จะมาเช่าต่อเพื่อเปิดบริษัทเช่นเดียวกับพวกเขาเมื่อหลายปีก่อน สามหนุ่มจึงอวยพรเด็กหน้าใหม่ให้ประสบความสำเร็จ พ่อของโดซานนำป้ายซัมซานเทคกลับไปไว้ที่บ้านเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจและอดทน
อินแจกลับไปหาคุณย่าและบอกทุกคนว่าตอนนี้เธอไม่ใช่วอนอินแจอีกต่อไปแล้ว และกลับมาเป็นซออินแจเหมือนเดิม แม้คุณย่าจะมองไม่เห็น แต่ท่านก็บอกว่าในสายตาของท่าน สามารถมองเห็นลูกหลานได้อย่างชัดเจน จากนั้นท่านก็นึกถึงภาพแห่งความสุขของลูกชายและหลานสาว เมื่อครั้งที่ซื้อไก่ทอดกลับมาบ้าน อินแจขอกล่องดนตรีของเธอกลับไป เพราะเป็นของที่พ่อซื้อให้ และเธอมอบเงินหนึ่งหมื่นวอนให้ดัลมี ซึ่งเคยเดิมพันกันไว้หากดัลมีประสบความสำเร็จภายในสามปี จากนั้นเธอก็อนุญาตให้ดัลมีทำสเกลอัพ
ประธานยุนไม่ยอมเสียชองมยองคอมปะนีให้กับนักลงทุนรายอื่น จึงตัดสินใจจะลงทุนเองโดยให้จีพยองเป็นคนจัดการ จีพยองจึงเปิดใจคุยกับโดซาน เพราะรู้ว่าโดซานไม่ต้องการให้เขาเป็นนักลงทุนให้ โดซานจึงบอกว่าเมื่อก่อนเขาไม่ต้องการให้จีพยองลงทุนเพราะรู้สึกว่าเป็นการทำทาน แต่ตอนนี้เขาจะไม่ปฏิเสธ และจีพยองเองก็ต้องการลงทุนด้วยเช่นกัน เพราะไม่ต้องการเสียโอกาสดีๆ นี้ไป จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็จับมือปรองดองกัน โดซานและดัลมีแต่งงานกัน หลังจากที่ชองมยองคอมปะนีได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นส่วนที่สมาร์ทซิตี้