สปอยล์ Start-Up ตอนที่ 14

14

จีพยองเห็นดัลมีร้องไห้เสียใจในความสะเพร่าของตัวเอง เขาจึงปลอบใจเธอและให้อยู่ในออฟฟิศจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น เมื่อพบโดซานที่หน้าลิฟท์ เขาจึงไม่อนุญาตให้เข้าไปหาดัลมี โดยอ้างว่าเขามีสิทธิ์ เพราะเวลาสามปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว โดซานได้ยินดังนั้นจึงกลับไป ในขณะที่จีพยองบ่นกับตัวเองว่าทำอะไรลงไป

จากนั้นเขาจึงโทรไปขอโทษดัลมีและบอกว่า เขาห้ามไม่ให้โดซานไปหาเธอ และได้พูดอะไรบางอย่างซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้ และหากเธอออกไปตอนนี้ ก็อาจจะยังไปพบโดซานได้ทัน แต่ดัลมีบอกว่าถึงอย่างไรเขาก็จะกลับอเมริกาอยู่แล้ว และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จบไปแล้วตั้งแต่สามปีก่อน หลังจากวางสายจากจีพยองแล้ว ดัลมีก็ปิดเครื่องเพื่อปฏิเสธการรับสายจากโดซาน เขาบอกตัวเองว่าแม้จะใช้ชีวิตที่อีกซีกโลกเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่เขาก็ไม่อาจลืมเธอได้

โดซานและเพื่อนๆ จัดตั้งสำนักงานชั่วคราวที่ตึกเก่า เมื่อหานักลงทุนได้พวกเขาจึงคิดจะย้ายไปที่กังนัม พวกเขาตกลงกันว่าจะเริ่มจากการโฆษณาเพื่อโปรโมตบริษัท โดยให้คิมยงซานเป็นประธาน นัมชอนโฮจึงช่วยถ่ายรูปพวกเขาลงในนิตยสาร

พี่น้องฝาแฝดไม่พอใจเมื่อถูกยกเลิกนัด เพราะบรรณาธิการต้องการสัมภาษณ์นัมโดซานแทนพวกเขา

ระหว่างที่ดัลมีกำลังจัดพิธีเซ่นไหว้ ในวันทดสอบรถระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ชื่อว่า”ทาร์ซาน” ทุกคนได้เห็นภาพข่าวพี่น้องฝาแฝดร่วมมือกับประธานวอนดูจอง ทำ”โมโม” รถขับเคลื่อนอัตโนมัติเช่นกัน จึงได้รู้ว่าแรนซัมแวร์เป็นเพียงข้ออ้างที่พี่น้องฝาแฝดต้องการลาออกไปอยู่กับประธานวอน อินแจไม่พอใจจึงไปต่อว่าพ่อเลี้ยงของเธอที่แย่งบุคลากรไป

หลังจากนั้นอินแจจึงบอกดัลมีให้โน้มน้าวสามหนุ่มซัมซานเทคมาเป็นนักพัตนาให้ได้ก่อนที่จะถึงวันเปิดตัว เพราะพวกเขาอยู่ระดับซีเลเวลและมีประสบการณ์มากกว่าเจ็ดปี แต่ดัลมียังคงเข้าใจว่าพวกเขากำลังจะกลับอเมริกา อินแจจึงให้ดูนิตยสารที่พวกเขาถ่ายแบบโปรโมตบริษัทในเกาหลี ดัลมีรู้สึกลำบากใจเพราะเลิกกับโดซานไปแล้ว และเธอรับปากอินแจว่าจะหานักพัฒนาคนอื่นมาแทน อินแจจึงขู่ว่า หากไม่ใช่สามหนุ่มซัมซานเทค เธอก็จะไล่ดัลมีออก

ดัลมีไปที่ซัมซานเทคและได้เห็นนักลงทุนหลายคนกำลังเข้าคิว เธอจึงโทรหาโดซาน แต่เขาปฏิเสธการรับสายขณะที่กำลังคุยกับนักลงทุนรายอื่นอยู่ จนกระทั่งเธอเข้าไปพบโดซานในออฟฟิศ

อาฮยอนแวะไปหาอินแจและบอกว่าหย่ากับประธานวอนแล้ว และได้ค่าเลี้ยงดูมาจำนวนหนึ่ง แต่เธอต้องการเก็บเงินจำนวนนี้ไว้เพื่อตอบแทนคุณย่า อาฮยอนชวนอินแจให้แวะไปหาคุณย่าในช่วงปีใหม่ ก่อนที่สายตาของท่านจะแย่ลงไปกว่านี้ เธออยากรู้ว่าอินแจจะยกเลิกการเป็นบุตรบุญธรรมของประธานวอนและกลับไปใช้นามสกุลเดิมของพ่อหรือเปล่า

โดซานบอกดัลมีว่าตอนนั้นเขาเจ็บปวดมากจากคำพูดที่เธอขอเลิก เขาใช้เวลาเกือบสามปีกว่าจะลืมเรื่องนี้ได้ ตอนนี้เขาไม่อยากสับสนและไม่ต้องการเจอเธออีก ดัลมีจึงบอกว่าตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าคำพูดของเธอทำให้เขาเจ็บปวดเพียงใด เมื่อเขาพูดคำนี้กับเธอเช่นกัน ดัลมีจึงขอโทษโดซานแม้ว่ามันจะสายเกินไปก็ตาม

จีพยองเพิ่งรู้ว่าทีมซัมซานเทคไม่กลับอเมริกาแล้ว ตอนที่พบกับยงซานที่แซนด์บอกซ์ในขณะที่เขามาดูห้องว่างเพื่อจัดตั้งออฟฟิศ

นัมซองฮวานเก็บลูกเบสบอลมาคืนโดซานที่เขาโยนทิ้งลงถังขยะในคืนก่อน โดซานจึงถามพ่อว่า เขาควรทำอย่างไรกับสิ่งที่ไม่อาจลืมหรือทิ้งไปได้ จากคำแนะนำของพ่อ โดซานจึงปั่นจักรยานไปที่บ้านของอาที่เสียไปแล้วในชนบท เพื่อผ่อนคลายสมองและร่างกายในยามที่อ่อนล้า เพราะเขาต้องการลบดัลมีออกไปจากความทรงจำให้หมด เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

อาฮยอนพาคุณย่าออกไปเดินเล่นและปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ คุณย่าทำของหล่น อินแจเข้ามาเก็บให้ โดยที่คุณย่ามองไม่เห็นว่าเป็นหลานของท่าน จึงกล่าวคำขอบคุณ อินแจเดินจากไปทั้งน้ำตาที่เห็นอาการของคุณย่า หลังจากนั้นอินแจแจ้งทนายความเพื่อขอยกเลิกการเป็นบุตรบุญธรรมของประธานวอน

ดัลมีตามโดซานมาที่บ้านพักของอาในชนบท แม้จะพยายามเดินหนีเธอ แต่โดซานก็บอกตัวเองว่า เขายังไม่อาจตัดเธอออกจากใจได้ โดซานไล่เธอไปนอน แต่เธอต้องการอยู่โต้รุ่งกับเขาที่หน้ากองไฟ เธอบอกว่าสาเหตุที่ตั้งชื่อรถว่าทาร์ซาน ก็เพราะเรื่องทาร์ซานที่เขาเคยเล่าให้ฟัง ทำให้เธอหวั่นไหว จู่ๆ ดัลมีก็นั่งหลับอยู่ตรงนั้นในสภาพที่เหนื่อยล้า โดซานเข้าไปลูบผมของเธอและบอกว่าตอนนั้นเขาก็หวั่นไหวเช่นกัน จากนั้นโดซานก็ให้ดัลมีนอนซบที่ไหล่ ในขณะที่เขาหยิบข้อมูลบริษัทของเธอมาอ่าน

ชอลซานไปดักรอจางซาฮาที่ตึกที่เธอทำงาน แต่อ้างว่ามาหาออฟฟิศเพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ ต่อมาซาอารู้ว่าชอลซานจงใจมาหาเธอ และเธอก็ยอมรับว่าไม่ได้เจอเขาที่ร้านเนื้อย่างโดยบังเอิญเช่นกัน ก่อนที่ชอลซานจะสรุปเอาเอง ซาฮาจึงอ้างว่า ในวันนั้นเธอต้องการรู้สถานการณ์ของเพื่อนร่วมงานเก่าเท่านั้น ชอลซานจึงเอ่ยปากชวนเธอมาร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง

ยงซานนำนามบัตรของนักลงทุนไปหาประธานยุนที่แซนด์บอกซ์ เพื่อขอคำแนะนำ แต่เธอบอกว่านักลงทุนเหล่านี้กล้าเดินเข้ามาหา ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่ายงซานจะทำธุรกิจอะไร ฉะนั้นประธานยุนจึงแนะนำให้ยงซานเป็นฝ่ายตามหานักลงทุนด้วยตัวเองจะดีกว่า และเมื่อถูกปฏิเสธ ก็ต้องหาเหตุผลว่าเพราะอะไร และหลังจากนั้นเขาก็จะได้พบนักลงทุนตัวจริง

ยงซานขอโทษจีพยอง ที่เคยต่อว่าเขาเรื่องพี่ชาย เพราะตอนนั้นเขาต้องการโทษใครสักคน จีพยองก็ขอโทษเช่นกัน ที่คำพูดตรงไปตรงมาของเขา กลายเป็นคำด่าที่ไม่อาจย้อนคืน และตอนนี้ยงซานต้องการคำด่าอย่างตรงไปตรงมาจากจีพยองอีกครั้ง จีพยองไม่ด่า แต่ให้ข้อคิดกับยงซาน โดยให้ถามตัวเองก่อนว่า การมาเริ่มทำสตาร์ทอัพด้วยเหตุผลอะไร หากมีความสุขในการเขียนโปรแกรม ก็สามารถเป็นนักพัฒนาได้ แต่หากมีความสุขที่จะก่อตั้งและเป็นผู้นำบริษัท ก็เหมาะแก่การเป็นนักบริหาร ยงซานจึงมีความคิดที่จะให้บริษัทของอินแจมาเป็นหุ้นส่วน จีพยองไม่เห็นด้วยในฐานะที่เขาเป็นผู้ชาย แต่ถ้าในฐานะของนักลงทุน เขามองว่าอินแจและซัมซานเทคสามารถเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกันได้

เช้าวันต่อมา โดซานตัดสินใจช่วยดัลมี โดยมีเงื่อนไขว่าเขาต้องการใช้เงินที่ได้จากทูสโท มาถือหุ้นในบริษัทของเธอ ทุกคนไปที่สนามเพื่อดูการทดสอบระหว่าง “ทาร์ซาน” และ “โมโม” โดยดัลมีเป็นผู้ขับทาร์ซานและมีโดซานนั่งข้างๆ