สปอยล์ River Where the Moon Rises ตอนที่ 23-24

23-24

การใช้ดาบฆ่าคนครั้งแรก ทำให้ดัลรู้สึกผิด แม้กาจินจะปลอบใจว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะโกวอนพโยส่งคนเหล่านั้นมาฆ่าพวกเขา และดัลก็ได้ช่วยชีวิตนางและแม่เอาไว้ คุณนายซาปลอดภัยเพราะลูกธนูไม่โดนจุดสำคัญ

โกกอนยังไม่ได้คำตอบจากแฮโมยงว่านางเป็นสายลับให้ชิลลาตั้งแต่เมื่อไร หรือว่านางเป็นชาวชิลลาอยู่แล้วกันแน่ แม่ทัพโกซังชอลยังไม่ตายจากปลายดาบของดัล แต่เขาบาดเจ็บสาหัสกลับมา โกกอนไม่พอใจที่พ่อส่งคนไปฆ่าองค์หญิงโดยไม่บอกเขา โกวอนพโยยืนกรานว่าเขาจะกำจัดคนที่เป็นเสี้ยนหนามแผนการของเขาทั้งหมด

โกวอนพโยและสภาเผ่าทั้งห้าทูลฝ่าบาทให้กำจัดเผ่าซุนโน โดยอ้างว่าพวกเขากำลังคิดก่อกบฏและยุยงให้เหล่าบัณฑิตย์เขียนคำร้องเหล่านั้น แต่ฝ่าบาททรงปฏิเสธและอ้างว่าองค์หญิงก็อยู่ที่นั่น ไม่มีทางที่นางจะก่อกบฏ จากนั้นทรงมีรับสั่งกับหัวหน้าองครักษ์โกกอน หากมีใครเอ่ยอ้างเรื่องการกอกบฏอีก ให้ฆ่าทิ้งได้ทันที

กาจินเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางให้หัวหน้าเผ่าซาอุนอัมฟัง และปรึกษาว่าอีกฝ่ายอาจจะส่งกองทัพมาบุกและใส่ร้ายว่าเผ่าซุนโนเป็นกบฏอีกครั้ง ทำให้ซาอุนอัมหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่ทัพอนฮยอบและเผ่าซุนโนในครั้งนั้น ซาอุนอัมยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป เพราะรู้ดีว่าเหตุการณ์นี้มันจะต้องเกิดขึ้น หลังจากที่กาจินบอกว่าต้องการกอบกู้เผ่าซุนโน เขาจึงคิดจะส่งจดหมายลับเพื่อเรียกพวกพ้องที่กระจัดกระจายให้มารวมตัวกันและขอคำชี้แนะจากกาจิน จากนั้นทุกคนในหมู่บ้านก็แบ่งงานกันรับผิดชอบเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือ

กาจินพาดัลขึ้นไปที่สุสานหินบนเขาตามคำบอกเล่าของหัวหน้าซาอุนอัม และบอกความจริงที่เขาเคยสงสัยมาตั้งแต่เด็กว่าเป็นสุสานของใคร ตอนนี้เขารู้แล้วว่าที่แห่งนี้คือสุสานของแม่ ที่พ่อเคยเสียใจและตำหนิตนเองว่าไม่อาจปกป้องผู้หญิงที่เขารักได้ ในตอนนั้นพ่อกำชับไม่ให้ดัลเดินตามรอยพ่อ และสอนว่าการปกป้องราษฎรและความยุติธรรมคือเรื่องไร้สาระ หากแต่เหตุผลที่ลูกผู้ชายต้องจับดาบและเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้อง ก็คือผู้หญิงที่เขารักเท่านั้น ตอนนี้ดัลบอกตนเองว่าเขาพร้อมแล้วที่จะปกป้องกาจิน จากนั้นเขาก็ขุดดาบของพ่อที่ฝังไว้อยู่ข้างหลุมศพของแม่และบอกกาจินว่า ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาจึงต้องต่อสู้

พระมเหสีจินต้องการตัดหัวดูจุงซอโทษฐานความผิดที่มาทำพิธีตั้งครรภ์ให้สนมฮยอนในวัง แต่ดูจุงซออ้างว่าเขาดูดวงมาก่อนหน้าที่จะเข้าวังแล้วว่าอีกไม่ช้าฝ่าบาทจะตกอยู่ในอันตราย และหากเรื่องนี้ไม่เป็นจริง ถึงตอนนั้นพระมเหสีค่อยมาตัดหัวเขาก็ได้

ฝ่าบาททรงสงสัยว่าโกกอนอาจเป็นคนสอดแนมการประชุมลับของพระองค์เรื่องการฟื้นฟูเผ่าซุนโน จนเป็นเหตุให้เหล่าบัณฑิตย์ต้องตาย แต่คิมพยองจีไม่เห็นด้วย เพราะโกกอนได้เตือนเขาไว้ไม่ให้เข้าประชุม มิเช่นนั้นเขาคงตายหรือไม่ก็ถูกจับไปแล้ว คิมพยองจีคิดว่าโกวอนพโยอาจใช้กองกำลังทหารส่วนตัวไปบุกโจมตีเผ่าซุนโน ฝ่าบาทจึงมีรับสั่งให้ส่งสาส์นลับไปที่เผ่าจอลโลให้ส่งกำลังทหารไปที่นั่นก่อน แม้ว่าคิมพยองจีจะค้านว่าหากทำเช่นนั้น ด่านชายแดนจะไม่อาจต้านรับกองทัพโจวตอนเหนือได้ก็ตาม

โกวอนพโยขู่แฮโมยงให้ทำยาพิษเพื่อนำไปถวายฝ่าบาท มิเช่นนั้นเขาก็จะฆ่านางทิ้งเสีย แฮโมยงยอมรับกับโกกอนว่านางคือสายลับชิลลา เพราะต้องการตอบแทนผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตนางไว้ตอนเด็ก แต่นางไม่อาจบอกได้ว่าองค์หญิงมาที่ร้านทำไม เพราะได้สัญญากับองค์หญิงไว้แล้ว จากนั้นโมยงขอให้โกกอนช่วยตัดสินใจว่านางควรทำเช่นไร ระหว่างปล่อยให้โกวอนพโยฆ่านางหรือทำยาพิษถวายฝ่าบาทตามที่เขาสั่ง โกกอนบอกให้แฮโมยงเตรียมยาถอนพิษไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของนางเอง

ดัลกลับขึ้นเขาอีกครั้งเพื่อไปฝึกวิชาดาบ ขณะที่วอลกวังไปหากาจินที่หมู่บ้าน กาจินรู้สึกผิดที่ทำให้ดัลต้องเจ็บปวดในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ จากนั้นนางก็ไปหาดัลบนเขาและปะทะเพลงดาบกับดัล แม้กาจินจะบอกว่านางหลอกใช้ความรักของเขา และกลัวว่าวันหนึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่อนดัลก็ยังคงยืนยันว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเพราะนางคือผู้หญิงของเขา กาจินมอบหินหยกของแม่ให้กับดัลเพื่อคุ้มครองเขาในฐานะสามี ในคืนนั้นพวกขาก็เป็นของกันและกัน

ฝ่าบาททรงประชวรหนักเพราะโดนวางยาพิษในอาหาร พระมเหสีจินทรงนึกถึงคำเตือนของงดูจุงซอ จึงขอให้เขาช่วย ดูจุงซอขอเข้าเฝ้าโดยบอกว่าพอมีความรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้าง โกกอนไม่อาจนำยาถอนพิษของโมยงไปถวายฝ่าบาท เพราะเกรงว่าจะพัวพันกับพ่อของตน เขาจึงทำตามแผนของโมยง โดยนำยาถอนพิษของนางไปฝากไว้กับดูจุงซอไว้ล่วงหน้าแล้ว คราวนี้จึงช่วยชีวิตฝ่าบาทไว้ได้ ทำให้พระมเหสีจินทรงไว้ใจดูจุงซอมากขึ้น

พระมเหสีจินขอให้ดูจุงซอดูดวงให้องค์ชายกอนมูโอรสของนาง โดยเล่าแผนการว่าระหว่างที่ฝ่าบาททรงพักฟื้นพระวรกาย นางจะกดดันองค์รัชทายาทให้ลงพระนามอนุญาตให้ย้ายอำนาจกองทัพให้แก่สภาเผ่าทั้งห้าเพื่อปราบกบฏ หลังจากนั้นก็จะโยนความผิดให้องค์รัชทายาทจนกระทั่งโดนปลดออกจากตำแหน่ง

ตอนนั้นองค์ชายกอนมูก็จะได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทแทน แต่ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่พระมเหสีจินทรงคิดไว้ เพราะองค์รัชทายาทโกวอนไม่ทรงยินยอม โดยอ้างว่าพระองค์ไม่อาจขัดพระประสงค์ของเสด็จพ่อได้ ถึงแม้ว่าโกวอนพโยจะขู่เอาชีวิตองค์หญิงพยองกังก็ตาม

โกวอนพโยส่งทหารของเผ่าคเยรูไปซุ่มดูเผ่าซุนโน ซาพุงแกและทาราจินออกลาดตระเวนในป่าจึงถูกแม่ทัพโกซังชอลจับตัวไป ขณะที่แม่ทัพอูยอนสหายเก่าของหัวหน้าซาอุนอัมเดินทางมาถึงพอดี พวกเขาจึงวางแผนเพื่อช่วยพุงแกและทาราจิน
แฮโมยงกำลังจะออกเดินทาง แต่โกกอนขัดขวางไว้ นางจึงบอกว่าไม่อยากโดนหลอกใช้อีกต่อไป โดยเฉพาะคนที่ยังมีใจให้หญิงอื่น โกกอนขอให้โมยงเดินเข้ามาในใจของเขา เพราะเขากำลังเปิดใจให้นาง จากนั้นโมยงจึงบอกโกกอนว่ากาจินกำลังมีปัญหาใหญ่ โกวอนพโยสั่งให้โกกอนยกกองทัพไปโจมตีเผ่าซุนโนในตอนรุ่งสางและจับองค์หญิงมาให้ได้

กาจินบุกเดี่ยวไปที่ค่ายของเผ่าคเยรูซึ่งทาราจินและพุงแกถูกจับตัวไป และได้เผชิญหน้ากับแม่ทัพโกซังชอลอีกครั้ง กาจินยอมเป็นตัวประกันเสียเอง ทาราจินและพุงแกจึงได้รับการปล่อยตัว พุงแกขอให้ทาราจินกลับหมู่บ้านไปก่อน เพราะเขาจะรีบไปบอกดัล
โกกอนและกองทัพของเขามาถึงค่ายของเผ่าคเยรู กาจินจึงบอกเขาว่าเผ่าซุนโนจะยืนหยัดต่อสู้ต่อไป แม้จะเหลือเพียงคนเดียวก็ตาม โกกอนขอให้นางยุติเรื่องนี้และรีบกลับวังไปพร้อมกับเขา เพราะตอนนี้ฝ่าบาททรงพระประชวร และเหลือเพียงองค์รัชทายาทอยู่พระองค์เดียว กาจินไม่เชื่อใจโกกอนเพราะรู้ว่าเขามาตามคำสั่งของโกวอนพโย และหากนางยอมกลับวัง ทุกคนในเผ่าซุนโนก็จะถูกฆ่าตายทั้งหมด ดัลมาถึงค่ายคเยรูเพื่อช่วยกาจิน เมื่อได้เผชิญหน้ากับโกกอน เขาจึงท้าทายให้สู้กับเขาตัวต่อตัว แต่กาจินห้ามไว้ ทันใดนั้นเองทหารนำข่าวมาบอกโกกอนว่าขณะนี้วีบัลทา หัวหน้าโจวตอนเหนือกำลังยกกองทัพมุ่งหน้าสู่ชายแดนโคกูรยอ