สปอยล์ River Where the Moon Rises ตอนที่ 13-14

13-14

องค์หญิงพยองกังเข้าเฝ้าพระมเหสีจินและได้พบองค์ชายกอนมู แต่องค์หญิงจ้องหน้าองค์ชายราวกับรู้ว่าไม่ใช่สายเลือดของพระเจ้าพยองวอน เพราะพ่อที่แท้จริงนั้นคือโกวอนพโย องค์รัชทายาทโกวอนไม่ยอมพบหน้าองค์หญิง เพราะเรื่องที่สนมจินเคยบอกว่า องค์หญิงไม่ใช่พี่สาว และไม่ใช่สายเลือดของเสด็จพ่อ

อนดัลได้รับการปล่อยตัวและพาทาราจินกับทาราซานกลับหมู่บ้านหุบเขาผีด้วยกัน ทุกคนในหมู่บ้านได้รับรู้แล้วว่ายอมกาจินคือองค์หญิงพยองกัง แม่ของอนดัลบอกให้เขาตัดใจจากนาง

องค์หญิงทรงคาใจว่านอกจากเรื่องที่พระเจ้าพยองวอนอ้างว่าส่งทหารไปเพื่อปราบกบฏซุนโนเมื่อแปดปีก่อนนั้น พระองค์ทรงมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่

โกวอนพโยสั่งให้แฮโมยงจัดหายาพิษ เมื่อโกกอนเห็นแฮโมยงมาพบโกวอนพโยในยามดึก จึงเตือนนางว่าอย่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เป็นอันตรายหรือทุกเรื่องที่เกี่ยวกับองค์หญิง แม้ว่าแฮโมยงจะอ้างว่านางมาคุยเรื่องสมุนไพรเท่านั้น

โกกอนถามองค์หญิงเรื่องสมุนไพรจางแบค และบอกว่าพ่อของเขาเรียกแฮโมยงมาพบ โกกอนแน่ใจว่าคงไม่ได้มาคุยเพียงเรื่องสมุนไพรเท่านั้น ในคืนนั้นองค์หญิงแอบไปสังเกตการณ์ที่ร้านของโมยง จึงได้เห็นนางเตรียมสมุนไพรเพื่อให้บ่าวต้มรวมกับยาขององค์รัชทายาทในตอนเช้า

แฮโมยงต้มยาไว้และจงใจปล่อยให้องค์หญิงเข้าไปในห้องนั้นเพื่อสูดรมควันและชิมเศษยาที่เหลือติดครก ก่อนที่จะหมดสติไป องค์หญิงเห็นชายผู้หนึ่งเข้ามาช่วย จึงคิดว่าเป็นอนดัล วันรุ่งขึ้นองค์หญิงรีบกลับเข้าวังเพราะเป็นห่วงองค์รัชทายาท และไปได้ทันเวลาพอดีก่อนที่องค์รัชทายาทกำลังจะดื่มยานั้น

เมื่อเรียกประชุมเหล่าขุนนางทุกคนแล้ว องค์หญิงจึงทูลพระเจ้าพยองวอนว่า มียาพิษอยู่ในยาที่องค์รัชทายาทเสวย นางได้ลองชิมแล้วจึงรู้ว่ายาพิษนั้นสามารถทำให้เป็นอัมพาตไปทั้งคืน และผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็กำลังอยู่ในท้องพระโรงแห่งนี้ด้วย จากนั้นจึงให้ทหารนำตัวแฮโมยงเข้ามาเพื่อให้นางสารภาพ โมยงยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์ใจและดื่มยาถ้วยนั้นต่อหน้าทุกคน หมอหลวงยืนยันว่ายาชนิดนี้มีสรรพคุณชำระล้างเลือด เรื่องนี้เป็นแผนการของโกวอนพโยเพื่อให้องค์หญิงตกที่นั่งลำบากเพราะทูลความเท็จและให้ร้ายผู้อื่น พระเจ้าพยองวอนขอให้องค์หญิงกล่าวขอโทษเสนาทุกคน แต่องค์หญิงไม่คิดว่าตนเองทำผิด เพราะสิ่งที่นางทำไปนั้นเป็นการปกป้ององค์รัชทายาท พระเจ้าพยองวอนทรงกริ้วและมีรับสั่งให้กักบริเวณองค์หญิงไม่ให้ออกจากตำหนักมกรยอน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

แม้โกกอนจะบอกว่าอยู่ฝ่ายองค์หญิง แต่องค์หญิงมิได้ต้องการเช่นนั้น เพราะเขาคือบุตรของโกวอนพโยแห่งเผ่าคเยรู องค์หญิงตั้งใจว่าจะเป็นผู้ปกป้องฝ่าบาทและองค์รัชทายาทเอง โกวอนพโยสั่งให้โกกอนไปรบในที่แดนไกลในอีกไม่ช้า เขาจำใจต้องทำตามคำสั่งของพ่อ มิเช่นนั้นจะถูกตัดขาดออกจากตระกูล

องค์รัชทายาทนำขนมไปให้องค์หญิงที่ตำหนักมกรยอนเพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิตพระองค์ไว้ จากนั้นก็ทรงเล่าให้ฟังว่า หลังจากเสร็จพิธีศพเสด็จแม่ เสด็จพ่อก็ทรงเปลี่ยนไปเพราะยา “อัปรีย์” ที่แฮโมยงเป็นผู้จัดถวาย องค์รัชทายาทขอให้องค์หญิงลงโทษแฮโมยงให้ได้ อีกทั้งนางทำผิดกฎหมายโดยนำยา “อัปรีย์” มาจากแคว้นชิลลา
แฮจีวอลและแฮโมยงมีแขกคนสำคัญคือ คิมชาซึง ผู้ดูแลกองทหารในชิลลา เขาไม่ค่อยพอใจในความละโมบของแฮจีวอลเท่าไรนัก หลังจากที่แฮจีวอลเมาหลับไปแล้ว แฮโมยงได้มอบเอกสารรายชื่อนายพล จำนวนทหารและอาวุธตามแนวชายแดน ให้คิมชาซึง

เมื่อ 16 ปีก่อน คิมชาซึงได้ช่วยชีวิตโมยงไว้ และให้นางได้ศึกษาเรื่องการฝังเข็มและสมุนไพรจนชำนาญ จากนั้นเขาจึงสั่งให้นางมาอยู่โคกูรยอเพื่อทำงานให้กับแคว้นชิลลา โมยงมาทำงานเป็นสาวใช้ที่บ้านของแฮจีวอล นางช่วยชีวิตเขาไว้จากการวางยาของนางเอง จีวอลต้องการตอบแทนบุญคุณ จึงรับนางไว้เป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่นั้นมา เพราะนางบอกว่าตนเองเป็นเด็กกำพร้าและเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรและการคำนวณ

องค์หญิงหนีออกจากตำหนักมกรยอน โดยความช่วยเหลือของโกกอน ตามที่เขารับปากว่าจะอยู่ฝ่ายองค์หญิง เหตุผลที่โกกอนปล่อยแฮโมยงลอยนวลทั้งที่รู้ว่านางลักลอบนำยาผิดกฎหมายเข้ามา ก็เพราะเขาเคยขอความช่วยเหลือจากนางเช่นกัน โกกอนพาองค์หญิงไปที่คลังเก็บสมุนไพรของแฮโมยง แต่ทว่าไม่พบสมุนไพรผิดกฎหมาย จนกระทั่งองค์หญิงพบห้องลับชั้นใต้ดิน ซึ่งขังเชลยหญิงไว้จำนวนมาก องค์หญิงจึงขอเปลี่ยนชุดกับหญิงคนหนึ่ง เพื่อปะปนกับคนกลุ่มนี้ เพราะต้องการรู้เหตุผล จากนั้นหญิงสาวทั้งหมดก็ถูกนำตัวออกมาจากห้องใต้ดิน และมุ่งหน้าสู่โจวเหนือเพื่อไปเป็นเครื่องบรรณาการ โดยการนำของคิมชาซึง โกกอนแอบซุ่มดูเหตุการณ์อยู่

อนดัลและพุงแกช่วยทาราจินและทาราซานหาป้ายไม้บอกทางของกลุ่มนักฆ่า แต่พวกเขาไม่รู้ว่าซงฮวาดังอยู่ที่ไหน ดูจุงซอ หัวหน้าชอนจูบังกำลังวางแผนที่จะเข้าวังหลวง
ระหว่างทางที่หยุดพัก องค์หญิงรับปากกับเชลยทุกคนว่า ทหารหลวงกำลังตามมาช่วย และอ้างว่าตนเองมาจากฝ่ายปกครอง ทุกคนจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย จากนั้นจึงให้เชลยคนหนึ่งนำมีดออกจากกระเป๋าหลังของนาง แต่เชลยคนนั้นทำมีดหล่นและบอกว่าไม่ใช่ของตนเอง ทำให้คิมชาซึงเดินมาดูหน้าองค์หญิง