สปอยล์ Record of Youth ตอนที่ 16

16

ฮเยจุนถามจองฮาว่าเขาผิดอะไรหรืออยากให้เขาปรับปรุงตัวอะไรบ้าง เขาพร้อมที่จะทำเพื่อเธอ จองฮาพูดถึงสิ่งต่างๆในชีวิตที่เธอไม่ชอบ และตอนนี้เธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอกำลังซับซ้อนมากขึ้น จนกลัวว่าเธอจะเป็นเหมือนสิ่งเหล่านั้น และช่วงจังหวะเวลาระหว่างเธอและเขาก็สวนทางกัน ไม่ว่าจะยิ่งปรับให้ตรงอย่างไร ก็ดูเหมือนจะห่างกันมากขึ้น จองฮาอยากทำความฝันของเธอให้เป็นจริงและเป็นเพียงความทรงจำที่งดงามสำหรับเขาเท่านั้น

ฮเยจุนบอกแฮฮโยว่า เขายังไม่เชื่อว่าเขาเลิกกับจองฮาแล้วจริงๆ แต่พอนึกถึงสีหน้าครั้งสุดท้ายของเธอแล้ว มันก็ยากขึ้นมาและรู้สึกผิด แฮฮโยจึงบอกฮเยจุนว่า เธอตัดสินใจเลิกก็เพื่อฮเยจุน ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย
หลังจากอีมินแจเปิดเผยข้อความของชาร์ลีจองแล้ว เรทติ้งของฮเยจุนก็กลับมาดีอีกครั้ง จนทำให้อีแทซูอยากได้เขามาอยู่ในค่ายของตัวเอง ในขณะที่พัคโดฮาก่อแต่เรื่องให้เขาคอยตามแก้ปัญหา

ฮเยจุนขอให้แม่เลิกทำงานที่บ้านแฮฮโย เพราะเป็นห่วงสุขภาพและต้องการให้แม่ได้อยู่อย่างสุขสบายตามที่เขาเคยสัญญาไว้ตอนเด็ก

จองฮาทำคลิปเป็นครั้งสุดท้ายและขอบคุณแฟนคลับของเธอทุกคน เธอบอกว่าค่านิยมในชีวิตของเธอเปลี่ยนไป และตัดสินใจจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตในแบบฉบับที่ไม่มั่นคง แทนที่จะแสวงหาความมั่นคง

แฮฮโยใช้คูปองแต่งหน้าฟรีเป็นข้ออ้างเพื่อไปหาจองฮา เขาบอกเธอว่าตอนนี้ไม่ติดถ่ายละครแล้ว จึงตัดสินใจจะเข้ากรม

ฮเยจุนบอกตัวเองว่า เขาทำตามความฝันจนสำเร็จ และตอนนี้ก็เหลือการบ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จากนั้นเขาก็ขอให้พ่อแม่นัดประชุมครอบครัวเพื่อจะบอกอะไรบางอย่าง ขณะที่แฮฮโยบอกจินอูว่าอย่าเกลียดแม่ของเขาเลย และไม่ว่าเพื่อนจะตัดสินใจอย่างไร เขาก็จะสนับสนุนเสมอ

แฮฮโยบอกแม่ว่า ถึงแม้เขาจะเคยอิจฉาฮเยจุนและตัวเขาเองพยายามมามากจนมาถึงจุดนี้ แต่เขาชอบในสิ่งที่เขาเป็นและยินดีที่เห็นความสำเร็จของฮเยจุน เพราะความผูกพันกับฮเยจุน เขาจึงไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าและมีความหวังว่าจะได้ดีเหมือนกัน จากนั้นเขาก็ชมแม่ว่า เธอเลี้ยงลูกได้ดีและไม่ได้ล้มเหลว คำพูดของแฮฮโยทำให้คิมอียองอารมณ์ดีเป็นพิเศษและชื่นชมในความเป็นเด็กดีของลูก

จินอูขอให้แฮนาตั้งใจเรียนจนสำเร็จเป็นทนายให้ได้ และกลับไปใช้ชีวิตปกติของเธอ ส่วนตัวเขาเองก็กำลังจะเปิดสตูดิโอ ซึ่งจะทำให้ทั้งคู่ต่างก็ยุ่ง ต่อให้ไม่เจอกันก็คงไม่ลำบาก เพราะถึงอย่างไรก็ยังคงรักกัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว และตอนนี้เขาคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะเมินเฉยต่อครอบครัวและคนรอบข้างหรือเลือกกันและกัน แฮนาร้องไห้เสียใจและยอมรับในการตัดสินใจของจินอู

ฮเยจุนได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตแบ่งปันความสุขประจำปี 2020 แห่งสมาคมสวัสดิการสังคมเกาหลีใต้ และให้สัมภาษณ์ฝากถึงแฟนคลับทุกคนว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจกับงานในอนาคตและจะมีความสุขกับปัจจุบัน

แม่ของจินอูบอกกับแม่ฮเยจุนว่า ลูกชายของเธอไม่อยากให้มาทำงานที่บ้านแฮฮโยแล้ว จากนั้นเธอก็ขอลาออก โดยที่คิมอียองไม่ได้คัดค้านอะไร แต่คิมอียองไม่ยอมให้ฮันแอซุกลาออก ถึงแม้ว่าเธอจะอ้างว่าฮเยจุนไม่อยากให้ทำแล้วก็ตาม

ฮเยจุนบอกกับทุกคนในที่ประชุมครอบครัวว่า เขาตัดสินใจที่จะเข้ากรม แม้คยองจุนและทุกคนจะคัดค้านว่า ตอนนี้น้ำขึ้นให้รีบตักก็ตาม และแม่ก็อยากให้ฮเยจุนใช้ชีวิตให้มีความสุขก่อน เพราะลำบากมามาก แต่ทว่าไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใจเขาได้ ฮเยจุนต่อสัญญาอีกสี่ปีกับอีมินแจ โดยรวมระยะเวลาสองปีที่เขาอยู่ในกรมด้วย แต่ระหว่างนั้นอีมินแจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของบริษัททั้งหมด

แฮฮโยตัดสินใจจะเข้ากรมพรุ่งนี้ จึงนัดจองฮาที่ห้องสมุด เมื่อจองฮาไปถึง ทำให้เธอนึกถึงภาพของฮเยจุนที่เคยพบกับเธอที่นี่ เธอจึงชวนแฮฮโยไปเดินคุยข้างนอก เมื่อเขาบอกเธอว่าจะเข้ากรม จองฮาจึงบอกว่าเขาเคยบอกเธอแล้ว แต่แฮฮโยก็ไม่บอกเธอว่าเขากำลังจะไปพรุ่งนี้

แฮฮโยเก็บกระเป่าเพื่อเดินทางเข้ากรม โดยที่ไม่ได้บอกแม่ และแม่ก็คิดว่าเขาไปทำงานต่างจังหวัด ก่อนไปเขากอดแม่และบอกว่ารักเธอ ต่อมาคิมอียองพบจดหมายของแฮฮโยบอกว่า เขาไปเข้ากรมสังกัดนาวิกโยธิน และจะกลับมาอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นแฮฮโยส่งข้อความบอกจินอูและฮเยจุนว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ร้านตัดผมหน้ากรมแล้ว

ก่อนเข้ากรมฮเยจุนคัดแยกเสื้อผ้าให้จินอู และได้มอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อให้เขาซื้อของใช้ในสตูดิโอใหม่ และในคืนนั้นฮเยจุนไลฟ์สดเพื่อบอกแฟนคลับ

สองปีต่อมาจองฮาได้เป็นเมคอัพอาร์ทติสอย่างที่เธอเคยฝันไว้ และชวนซูบินมาเป็นลูกน้องทำงานที่ร้านของเธอ ในขณะที่เธอต้องออกไปทำงานข้างนอก

ฮเยจุนกลับจากกรมและกลับมาอยู่กับอีมินแจตามสัญญาที่เซ็นไว้ เขาไปร่วมงานที่คุณปู่ได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จ คุณปู่ขึ้นเพื่อกล่าวขอบคุณทุกคนและพูดถึงชีวิตตัวเอง จากนั้นก็พูดถึงซายองนัมลูกชายตนเอง และขอมอบรางวัลนี่ให้แก่เขา ทำให้ซายองนัมร้องไห้ด้วยความตื้นตันและเข้าใจคุณปู่มากขึ้น

ซายองนัมกลับมาบ้านและยังร้องไห้ไม่หยุด จนกระทั่งฮันแอซุกมาปลอบใจและชมว่าตอนนี้เขาก็ดีกับคุณปู่แล้ว ซายองนัมไปหาฮเยจุนที่ห้องและเอ่ยปากขอโทษเป็นครั้งแรก ที่ไม่ค่อยให้กำลังใจหรือสนับสนุนเขา เขาโทษตัวเองที่ไม่รู้จักวิธีพูดกับลูกและรู้สึกต่ำต้อย เพราะรู้ดีว่าลูกเก่งและมีความสามารถอยู่แล้ว พ่อกับลูกต่างก็ขอโทษและปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน

จองฮาต้องไปแต่งหน้าให้นักแสดงที่กองถ่ายแห่งหนึ่ง และได้พบฮเยจุนที่กองถ่ายข้างๆโดยบังเอิญ พวกเขามีโอกาสได้คุยกันอีกครั้ง ราวกับว่าทุกอย่างกลับไปเริ่มต้นเหมือนตอนที่เพิ่งรู้จักกัน แต่ทว่าความรู้สึกของพวกเขาตอนนี้เป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น