สปอยล์ Poong, the Joseon Psychiatrist ตอนที่ 3
ผู้ตรวจการหลวงโจชินอูเป็นบุตรบุญธรรมของรองอัครมหาเสนาบดี เขาพบกับอึนอูขณะที่เดินเล่นอยู่กับเซพุงที่งานตลาดนัด ชินอูเตือนเซพุงว่าไม่ควรอยู่กับอึนอูยามวิกาลเพราะนางแต่งงานแล้ว ระหว่างทางที่เซพุงและอึนอูเดินกลับ พวกเขาได้ยินเสียงแปลกๆ และรู้สึกเหมือนเป็นสัตว์ตัวใหญ่
วันต่อมามีข่าวลือว่ากูมีโฮออกอาละวาดและฆ่าคนตาย อึนอูอดคิดไม่ได้ว่ามันจะซ้ำรอยเหมือนเมื่อปีก่อนที่เป็นการจัดฉากฆาตกรรม นางจำรายละเอียดการสืบสวนได้เพราะในตอนนั้นพ่อของนางเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีนี้ อึนอูเคยช่วยงานที่สำนักชันสูตร นางจึงไปช่วยผู้ว่าการและรู้ว่าสภาพศพล่าสุดมีความแตกต่างจากเมื่อปีก่อน เพราะบาดแผลเกิดจากอาวุธที่ไม่คมนัก นางเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมที่มีการวางแผนมาก่อนซึ่งอาจเกิดจากความบาดหมางส่วนตัว แต่เนื่องจากใบหน้าของเหยื่อเสียหายมากจึงยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
นอกจากมาตรวจคดีแล้ว โจชินอูจะต้องตามหายูเซยอบตามคำสั่งของพ่อ เขาจึงบอกลักษณะและความสามารถทางการฝังเข็มของยูเซยอบเพื่อให้อิมซุนมันช่วยตามหา อิมซุนมันไปที่โรงหมอและไม่คิดว่าเซพุงคือยูเซยอบเพราะเขาไม่มีความสามารถด้านการฝังเข็ม
คเยจีฮันจะเรียกเก็บค่ารักษาราคาแพงจากตระกูลขุนนางและคนมีฐานะเท่านั้น ส่วนคนไข้ที่ยากจนจะมอบผักหรืออาหารแห้งเพื่อเป็นค่าตอบแทน
อึนอูและเซพุงเห็นชาวบ้านกำลังวิ่งหนีกูมีโฮด้วยความกลัว พวกเขาจึงเดินไปดูและเห็นเด็กสาวยอนฮีที่ร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดยืนอยู่ข้างศพของบัณฑิตมินยูกยอมซึ่งเป็นลูกศิษย์ของรองเจ้าเมืองชเวยุน อึนอูไม่เชื่อว่ายอนฮีคือฆาตกรที่จะฆ่าชายร่างใหญ่กว่าตนเองถึงสองเท่า หมอคเยยืนยันว่ายอนฮีเป็นลูกสาวพ่อค้าเนื้อและนางก็กำลังป่วยด้วยโรคเดินละเมอ ยอนฮีถูกนำตัวไปสอบสวนและยอมรับว่าตนเองอาจจะเป็นกูมีโฮแต่นางไม่ได้ตั้งใจฆ่าใครและจำเหตุการณ์ไม่ได้ จากนั้นนางก็หมดสติไป โจชินอูวางแผนสะกดรอยตามยอนฮีโดยมีหมอคเยและเซพุงตามไปด้วยขณะที่นางละเมอเดินออกจากห้องขังที่ไม่ได้ล็อคไว้ เซพุงเข้าไปเรียกยอนฮีที่กำลังขุดดินโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วนางก็หมดสติไป เขาต้องการพานางไปรักษาที่โรงหมอ แต่โจชินอูไม่เห็นด้วยเพราะนางคือฆาตกรที่ต้องได้รับการลงโทษ หมอคเยจึงขออนุญาตโจชินอูเพื่อไปตรวจอาการของนางที่ห้องขังทุกวัน
พ่อค้าเนื้อขอร้องหมอคเยให้ช่วยยอนฮีลูกสาวของตน เขาเล่าว่าในคืนที่มีคนตาย กลอนประตูห้องนอนของยอนฮีถูกปลดออก อึนอูไปถามความจริงจากยอนฮีแต่ว่านางจำเหตุการณ์ไม่ได้
จางกุนร้องไห้เมื่อรู้ว่าใต้เท้าชเวยุนตายแล้ว ชเวยุนเอ็นดูจางกุนเหมือนหลานชายและรับปากว่าจะพาเขาไปดูพังพอนบนเขาด้วยกัน อึนอูได้ยินดังนั้นจึงนึกถึงเรื่องคนลักลอบล่ากวางกับพังพอนซึ่งเป็นของพระราชา ใต้เท้าชเวอาจจะโดนฆ่าปิดปากก่อนที่จะเปิดโปงความจริงและถวายรายงานต่อราชสำนัก หมอคเยและเซพุงกับอึนอูนำยาสมุนไพรไปให้ยอนฮีที่ห้องขังและฝังเข็มให้นาง
หลังจากที่ยอนฮีหลับไปได้สักพัก นางก็ละเมอตะโกนเรียกยักษ์โทแกบีที่ถือมีดยิงดาวลงมาจากต้นไม้และดอกแมฮวาแดง ทุกคนได้ยินดังนั้นจึงคิดว่ายอนฮีอาจจะเห็นหน้าคนร้ายตัวจริง เซพุงและอึนอูไปดูที่เกิดเหตุตามที่ยอนฮีละเมอ
เมื่อกลับมาชันสูตรศพอีกครั้ง อึนอูจึงรู้ว่าคนร้ายยิงธนูจากบนต้นไม้และหัวธนูใบหลิวก็ฝังอยู่ในร่างของศพแต่คนร้ายทิ้งมีดไว้ในที่เกิดเหตุเพื่ออำพราง หัวธนูใบหลิวไม่ใช่อาวุธของนายพรานแต่เป็นของทหาร การตรวจค้นประวัติคนไข้ที่มารักษาในวันเกิดเหตุทำให้เซพุงพบว่ายอนฮีไม่ใช่คนร้าย เพราะคนร้ายตัวจริงที่มารักษาในวันเดียวกับยอนฮีได้รับรู้อาการของนางและจงใจปลดกลอนประตูเพื่อให้นางเดินละเมอออกไป
คนที่เข้าข่ายน่าสงสัยที่สุดก็คือโฮจุนซึ่งเป็นน้องสามีของอึนอูที่มีรอยสักรูปดอกแมฮวาสีแดงที่ข้อมือและอยากรับราชการในราชสำนัก อิมซูมันรับปากว่าจะช่วยโฮจุนเรื่องคดีหากเขาถูกจับได้และต่อไปก็ให้นำพังพอนมามอบให้กับเขาเพื่อที่จะนำไปให้รองอัครมหาเสนาบดี โฮจุนต้องการกำจัดอึนอูเพราะนางเป็นหญิงที่ฉลาดและสามารถไขคดีจิ้งจอกเก้าหางเมื่อปีก่อนได้สำเร็จและตอนนี้นางก็กำลังสืบคดีที่เพิ่งเกิดขึ้น อิมซึงมันไปที่สำนักเจ้าเมืองซอซึ่งเป็นพ่อของอึนอูเพื่อให้ส่งอึนอูกลับไปอยู่ที่บ้านแม่สามีโดยอ้างว่าอึนอูทำผิดขนบธรรมเนียมของหญิงม่าย ไม่เช่นนั้นเขาก็จะส่งรายงานให้ท่านรองอัครมหาเสนาบดี แม้เจ้าเมืองซอจะอ้างว่าอึนอูยังไม่หายดี แต่นางก็ตัดสินใจจะกลับไปอยู่ร่วมบ้านกับโฮจุนที่เป็นฆาตกรเพื่อไม่ให้พ่อต้องเดือดร้อน
แม่สามีสั่งให้อึนอูทำอาหารและจัดเตรียมข้าวของในการประกอบพิธีครบรอบสามีที่จากไป ขณะที่แม่สามีเผลออึนอูเข้าไปค้นหาของบางอย่างซึ่งโฮจุนเข้ามาขัดจังหวะ นางจึงบอกว่ามีหลักฐานทุกอย่างแล้วพร้อมทั้งรายชื่อคนร้ายในจดหมายร้องทุกข์ ขณะที่อึนอูกำลังถูกโฮจุนทำร้าย เซพุงและบ่าวของเขามาพร้อมกับโจชินอูมาเข้าช่วยได้ทันและจับกุมโฮจุนไปพร้อมกับหลักฐานธนูและลูกศรที่ซ่อนไว้
ยอนฮีจึงได้รับการปล่อยตัว แม่สามีไม่พอใจและโทษอึนอูที่พรากลูกชายทั้งสองคนของนางไป เซพุงจึงบอกความจริงว่าสามีของอึนอูเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารซึ่งไม่ใช่ความผิดของนาง อึนอูเคารพแท่นบูชาเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อส่งวิญญาณของสามีไปสู่สุขคติเพราะนางตัดสินใจแล้วว่าจะตัดขาดและออกไปจากตระกูลนี้ เซพุงขอให้นางเลิกโทษตัวเองกับการตายของสามีและขอให้นางเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่โรงหมอคเยซูเพื่อเรียนรู้วิชาหมอและช่วยเหลือผู้อื่น
นางในห้องเครื่องคนหนึ่งหนีออกจากราชสำนักด้วยความกลัวเพราะเกี่ยวข้องกับการวางยาฝ่าบาทพระองค์องค์ก่อน ซังกุงมีอาการตุ่มหนองพุพองเช่นเดียวกับพระราชาองค์ก่อน นางได้ทูลฝ่าบาทถึงเรื่องนางในห้องเครื่องที่หนีไปก่อนที่นางจะสิ้นใจต่อหน้าพระองค์ซึ่งมีรับสั่งให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับและพระองค์จะทรงสืบเรื่องนี้เอง
ยอนฮีไปเยี่ยมหลุมศพแม่ เซพุงและอึนอูจึงคิดว่านางไม่ได้เจ็บป่วยแค่ทางร่างกายแต่จิตใจของนางเจ็บป่วยเพราะคิดถึงแม่จนทำให้เกิดอาการละเมอ เซพุงมอบตุ๊กตาผ้าให้ยอนฮีเพื่อแทนอันเก่าที่แม่ของนางทำให้แต่พ่อเผาทิ้งไป
โจชินอูสงสัยว่าเซพุงคือยูเซยอบ แต่อิมซุนมันบอกว่าเขาชื่อพุง อิมซุนมันแอบอ่านจดหมายที่รองอัครมหาเสนาบดีเขียนถึงชินอูเพราะสงสัยว่าทำไมพวกเขาจึงต้องตามหายูเซยอบ อิมซุนมันบอกกับเซพุงว่าจะให้โอกาสทำงานด้วย เพราเขารู้ว่าเซพุงคือยูเซยอบที่ทำให้พระราชาองค์ก่อนสิ้นพระชนม์