สปอยล์ Poong, the Joseon Psychiatrist ตอนที่ 1-12

1-12

ช่วงต้นยุคโชซอน หลังจากที่ยูเซยอบสูญเสียแม่ เขาก็มุ่งมั่นในการแพทย์จนกระทั่งได้เป็นหมอที่เก่งที่สุดในโชซอน เขาทำงานในสำนักหมอหลวงตำแหน่งหัวหน้าฝังเข็ม เมื่อเซยอบฝังเข็มรักษาองค์รัชทายาทจนหายจากพระประชวร ทำให้พระราชาทรงพอพระทัยและประทานรางวัลให้กับเขาพร้อมกับฉายา “เข็มสวรรค์”

พระราชาทรงเริ่มประชวรจากเหตุตุ่มพองตามผิวหนัง ชีวิตของพระองค์จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินของยูเซยอบ ยูเซยอบไม่อาจฝังเข็มให้พระองค์ได้เพราะจะต้องกรีดหนองออกเสียก่อน เขาแปลกใจที่ตุ่มฝีหนองผุดขึ้นมากมายเพียงชั่วข้ามคืน เขาจึงแนะนำองค์รัชทายาทให้เชิญหมอหลวงมารักษาฝ่าบาทจะดีกว่า ระหว่างที่หมอหลวงยังมาไม่ถึง ฝ่าบาททรงขอร้องเซยอบให้ฝังเข็มให้พระองค์เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด แต่เมื่อฝ่าบาททรงหมดพระสติไปอีกครั้ง เซยอบจึงตัดสินใจกรีดตุ่มฝีเพื่อรีดหนองให้พระองค์แต่มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผลอย่างผิดปกติจนทำให้ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ เซยอบจึงถูกคุมขัง

นางในคนหนึ่งสารภาพกับยูมูฮยองพ่อของเซยอบเรื่องสมุนไพรจากชิงซึ่งแม้แต่คนขายยาก็ไม่รู้ว่าดอกไม้ชนิดนั้นคืออะไร ระหว่างที่ยูมูฮยองกำลังสืบเรื่องสมุนไพรพิษ เขาก็ถูกฆ่าตายอย่างปริศนา องค์รัชทายาททรงขึ้นครองบัลลังงก์และมีพระราชโองการปลดยูเซยอบออกจากตำแหน่งและห้ามกลับมาเหยียบฮันยางอีกเด็ดขาด

ซออึนอูลูกสาวเจ้าเมืองที่อาศัยที่หมู่บ้านโซรัคสนใจเรื่องการชันสูตรศพมาตั้งแต่เด็กด้วยความชื่นชอบและความสามารถในการวิเคราะห์ศพ ยูเซยอบเดินทางมาถึงหมู่บ้านโซรัคหลังจากที่สูญเสียทุกสิ่งและคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ซออึนอูบังเอิญผ่านมาเจอและช่วยเขาไว้ได้ราวปาฏิหาริย์ นางให้คำปลอบโยนที่จริงใจกับเขาในขณะที่เขารับฟังด้วยสีหน้าใกล้ตาย แต่ก็ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอีกครั้ง

หนึ่งปีต่อมา..
ถึงแม้เซยอบจะใช้ชีวิตต่อไปแต่เขาก็ไม่อาจฝังเข็มได้อีกเพราะมันกลายเป็นแผลในใจของเขา คเยจีฮันชวนเซยอบไปที่โรงหมอคเยซูแต่เซยอบยังไม่ได้ตัดสินใจจนกระทั่งเขาช่วยหญิงสาวที่กำลังจะฆ่าตัวตายในลำธารไว้ได้อย่างหวุดหวิด นางก็คือซออึนอูที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้นั่นเอง แต่การฝังเข็มก็ยังคงยากเกินไปสำหรับเขา เขาจึงรีบพานางไปที่โรงหมอคเยซูจนอาการดีขึ้น ขณะที่เซยอบตัดสินใจจะไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ คเยจีฮันก็เรียกเก็บเงินค่ารักษาทั้งหมดจากเขา บ่าวมันบกทนไม่ได้หากเซยอบเจ้านายของเขาจะต้องถูกจับ พวกเขาจึงตกลงทำสัญญากับคเจีฮันโดยเซยอบจะต้องเป็นหมอที่นี่จนกว่าจะคืนเงินจนครบ เซยอบเป็นหมออย่างไม่เต็มใจแต่คเยจีฮันกับคนที่โรงหมออบอุ่นกว่าที่เขาคิดไว้ คเยจีฮันให้คำแนะนำเซยอบเรื่องการรักษาจนกระทั่งเขาสามารถปรับตัวเข้ากับหมู่บ้านโซรัคระหว่างที่รักษาคนไข้ที่นั่น

คเยจีฮันและเซยอบไปเยี่ยมบ้านของชนชั้นสูงในหมู่บ้านซึ่งเป็นพ่อแม่สามีของซออึนอู หลังจากจ่ายยาให้แม่สามีของนางและกำลังจะกลับ แต่เขาต้องรีบกลับเข้าไปช่วยอึนอูที่พยายามจะฆ่าตัวตายอีกครั้ง เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่

อึนอูแต่งงานเมื่อหนึ่งปีก่อนและกำลังจะได้เจอสามีในคืนแรกของการแต่งงาน แต่สามีของนางเสียชีวิตไปเสียก่อน บ้านสามีของอึนอูจึงโทษนางที่เกิดมาอาภัพและบังคับให้นางเป็นหญิงผู้มีคุณธรรมเพื่อครอบครัว ไม่กี่วันต่อมาคนรับใช้แบกอึนอูมาที่โรงหมอคเยซูเพราะดูเหมือนว่านางจะถูกวางยาพิษ ในที่สุดอึนอูก็ฟื้นหลังจากที่ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่อยากมีชีวิตอยู่และแอบหนีออกจากโรงหมอเพื่อจะกระโดดน้ำตาย เซยอบตั้งใจจะช่วยชีวิตนางเหมือนกับที่นางเคยช่วยเขาไว้โดยจะหาเหตุผลเพื่อให้นางอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

หลังจากนั้นเซยอบก็ไปที่บ้านสามีของอึนอูเพื่อหาต้นตอของยาพิษแต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ขณะที่เซยอบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่นั้น เขาก็หันไปสนใจผักที่กินกับคนที่โรงหมอและคิดอะไรได้บางอย่าง เซยอบเชี่ยวชาญตำราแพทย์ทุกเล่มในโชซอนและพบว่าพืชมีพิษที่ดูเหมือนใบต้นหอมป่าแต่มีผลต่างกันโดยสิ้นเชิงคือหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะเอาผิดแม่สามีของอึนอู เขาจึงขอร้องนางให้ปล่อยอึนอูไปและคิดเสียว่านางตายไปแล้วจริงๆ เพื่อแลกกับการแจ้งสำนักทางการ

ยายสมองเสื่อมที่อยู่โรงหมอคเยซูมักจะเรียกเซยอบว่าพุงเพราะคิดว่าเขาเป็นลูกชายของนาง เซยอบจึงอยากช่วยและหาโอกาสให้นางได้เจอลูกชาย แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะลูกชายของนางทำตัวเย็นชาจนวินาทีสุดท้าย อึนอูเข้าใจสถานการณ์ของยายอย่างดีเพราะเคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คำพูดของนางมีอิทธิพลอย่างมากต่อลูกชายของยายจนทำให้เขาสำนึกผิดและยอมคุกเข่าต่อหน้าผู้เป็นแม่ เซยอบตระหนักได้จากการปลอบอึนอูกับยายและคิดว่าตนเองต้องรอดไปให้ได้ เพราะหากจะตายไปเช่นนี้เขาก็จะกลายเป็นข้ารับใช้ที่ไม่ซื่อสัตย์ ลูกที่อกตัญญูและสหายที่ไร้ค่าและหมอที่ขี้ขลาด เขารู้ว่าอาการป่วยทางจิตที่ไม่ใช่อาการบาดเจ็บก็ต้องได้รับการรักษาเช่นกัน เขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อใหม่ที่เหมาะกับความคิดใหม่ของเขาว่า “ยูเซพุง”

ในงานวันเทศกาลสำหรับผู้หญิง เซพุงและอึนอูแอบมาด้วยกันและตื่นเต้นที่ได้เพลิดเพลินกับอิสรภาพที่รอมานาน และในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้พบกับผู้ตรวจการหลวงโจชินอูซึ่งรู้จักกับอึนอู เขาถูกส่งมายังหมู่บ้านแห่งนี้ตามคำสั่งของอัครมหาเสนาบดีโจซึ่งเป็นตัวการหลักเบื้องหลังการสังหารพระราชาองค์ก่อนเพื่อให้มาจับตาดูเซยอบและกำจัดทิ้งเพราะเซยอบเป็นพระสหายคนสนิทขององค์รัชทายาท แต่ตอนนั้นชินอูไม่รู้ว่าเซพุงก็คือเซยอบ

เซพุงตั้งหลักปักฐานที่โรงหมอคเยซู ด้วยหน้าตาที่โดดเด่นของเขาทำให้มีคนไข้หลั่งไหลมาจำนวนมาก อึนอูที่หัวไว ความจำดี สายตาเฉียบคม และชันสูตรศพได้ จึงร่วมมือทำงานกับเซพุง ขณะที่ครอบครัวสามีของนางพยายามทำให้นางเดือดร้อน แต่ตอนนี้อึนอูมีสุขภาพจิตที่ดีแล้วจึงตัดสินใจตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของสามี ด้วยความช่วยเหลือของเซพุงที่ทำให้นางตัดขาดและสะสางอดีตที่น่าเศร้าได้ เซพุงรับปากว่าพวกเขาจะไม่สามารถมาก้าวก่ายชีวิตของนางได้อีก จากนั้นอึนอูจึงตัดสินใจใช้ชีวิตในชื่อตัวเอง

ด้วยความสามารถของอึนอูในการชันสูตรศพ นางจึงซึมซับคำสอนทางการแพทย์ของเซพุงได้อย่างว่องไว นางแสดงความสามารถในช่วงเวลาสำคัญจนช่วยบ่าวมันบกของเซพุงให้หลุดพ้นจากข้อหาฆาตกรรมและเจอคนร้ายตัวจริงได้ หลังจากนั้นเซพุงก็มอบตำราแพทย์และกล่องเข็มพระราชทานเป็นของขวัญให้อึนอูเพื่อให้นางเป็นมือแทนเขาจนกว่าเขาจะกลับมาฝังเข็มได้อีกครั้ง โจชินอูแอบเห็นความใกล้ชิดของพวกเขา

เซพุงและอึนอูกลายเป็นคู่หูหมอแนวหน้าและช่วยกันไขคดีได้มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกโรงหมอคเยซูก็ให้การสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่ หมอคเยจีฮันไม่เพียงเก่งเรื่องการแพทย์แต่เขายังอ้าแขนรับทุกคนที่มีประวัติแสนเศร้าเพราะเขามีจิตใจที่อ่อนโยน แต่เขาก็มีความลับบางอย่างซึ่งไม่มีใครรู้และเคยเรียนรุ่นเดียวกับท่านเสนาบดียูฮูมยองพ่อของเซพุง

เมื่อโรคระบาดร้ายแรงแพร่กระจายไปทั่วในหมู่ชาวบ้านโซรัค ในตอนนั้นเองที่คเยจีฮันเห็นตุ่มสีม่วงบนตัวคนไข้บางคนซึ่งไม่ติดต่อกับคนใกล้ชิด อึนอูสืบหาสาเหตุของการป่วยจนได้รู้ข้อมูลสำคัญจากเด็กคนหนึ่งในหมู่บ้านว่ามีดอกไม้ที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อนกำลังเบ่งบานอยู่ในทุ่งหญ้าซึ่งชาวบ้านได้น้ำผึ้งมาจากดอกไม้ชนิดนั้น นางจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหมอคเยจีฮันซึ่งเขาจำได้ว่ามันคือดอกทันซาโช อึนอูทดลองกินน้ำผึ้งจากดอกไม้ชนิดนั้นและมีอาการปวดหัวพร้อมกับตุ่มพุพองที่ขึ้นบนใบหน้า คนที่กินทันซาโชเข้าไปแม้จะมีโอกาสน้อยที่จะรอดชีวิต แต่ก็มีวิธีรักษาอยู่วิธีหนึ่งซึ่งก็คือสมุนไพรซาแมโชแต่ก็มีพิษร้ายแรงมากถึงขั้นทำให้คนตายได้ เซพุงจึงออกตระเวนตามหาซาแมโชจนเจอ ขณะที่จะนำซาแมโชไปรักษาคนไข้ เขาได้พบกับโจชินอูระหว่างทางที่ต้องการเอาชีวิตของเซพุงตามคำสั่งของพ่อโดยอ้างว่าทำเพื่อราชวงศ์ แต่ทว่าโจชินอูเกิดอาการป่วยเพราะกินทันซาโชเข้าไป เซพุงนำดอกไม้ซาแมโชมารักษาอึนอูและโจชินอูกับคนไข้รายอื่นได้จนสำเร็จ

หลังจากที่โจชินอูหายป่วยแล้ว เซพุงขอให้เขาเก็บเรื่องทันซาโชเป็นความลับและเขียนรายงานว่ามันไม่ใช่โรคระบาดแต่เป็นโรคที่ไม่แพร่กระจาย เพราะเซพุงกลัวว่าหากอัครมหาเสนาบดีรู้เรื่องดอกทันซาโช เขาก็จะฆ่าทุกคนในหมู่บ้านโซรัค โจชินอูรับปากจะทำตามเพราะเขาเป็นหนี้ชีวิตเซพุง อัครมหาเสนาบดีไม่เชื่อชินอูที่เป็นลูกบุญธรรม เพราะคนที่เขาส่งไปสอดแนมได้รายงานว่ามันเป็นโรคระบาดที่เกิดจากดอกทันซาโช

โจชินอูเริ่มสืบหาสาเหตุที่อัครมหาเสนาบดีอยากให้เซพุงตาย เขาจดจ่อกับเข็มผีเจินที่สีเปลี่ยนไปซึ่งพ่อของเซพุงกำไว้แน่นก่อนตาย ต่อมาอัครมหาเสนาบดีส่งคนไปกำจัดโจชินอูแต่เขาหนีไปได้และทำเข็มผีเจินตกไว้ในที่เกิดเหตุ ก่อนที่ชินอูจะหายตัวไป เซพุงได้บอกกับเขาเป็นนัยว่าอัครมหาเสนาบดีคือคนร้ายตัวจริงที่สังหารพระราชา เพราะแผลพุพองที่เกิดกับชาวบ้านเป็นชนิดเดียวกับที่พระราชาเป็น

องค์รัชทายาทซึ่งเป็นสหายสนิทของเซพุงและเป็นพระราชาองค์ปัจจุบัน ได้ปลอมตัวไปที่โรงหมอคเยซูกลางดึกอย่างลับๆ เพื่อขอพบเซพุงและขอให้ช่วยรักษานางกำนัลวอลที่กำลังถูกส่งตัวมาที่นี่ เพราะนางเป็นพยานคนสำคัญที่สามารถเปิดเผยความจริงในเหตุการณ์ที่พระราชาองค์ก่อนกับพ่อของเซพุงถูกฆ่าตาย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้นางกลายเป็นใบ้และพูดไม่ได้ เซพุงเริ่มการรักษานางกำนัลวอลโดยมีอึนอูเป็นผู้ช่วยฝังเข็มตามที่เขาบอก จนกระทั่งนางฟื้นได้สติแต่ยังช็อคกับเหตุการณ์ที่เห็นอัครมหาเสนาบดีฆ่าพ่อของนาง แต่ด้วยความอบอุ่นจากสมาชิกโรงหมอคเยซูและคำปลอบใจของเซพุง ทำให้วอลหายป่วยได้ในเร็ววัน ขณะที่นางกำลังเล่าความจริงว่าพระราชาองค์ก่อนและพ่อของเซพุงถูกลอบสังหารโดยชายผู้มีเครื่องประดับเป็นผีเสื้อหยกดำ อัครมหาเสนาบดีและสมุนตามมาสังหารวอล เซพุงจึงล่อคนร้ายไปทางอื่นเพื่อปกป้องนางให้มีชีวิตรอดให้ได้ เซพุงและอึนอูได้ยินเสียงกรีดร้องของวอลและแอบดูอยู่ห่างๆ จึงเห็นศพของนางที่ชุ่มไปด้วยเลือดที่ห่อด้วยกระสอบ และคนที่ฆ่าวอลก็คือโจชินอู

เซพุงตัดสินใจกลับฮันยางพร้อมกับอึนอูเพื่อทูลฝ่าบาทเรื่องการตายของวอลและจะสืบหาความจริง ฝ่าบาทให้เซพุงดูศพของคนชิมอาหารของพระราชาองค์ก่อนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อจะบอกความจริงกับพระองค์ เพื่อให้เซพุงและอึนอุชันสูตรศพของนาง จนได้รู้ความจริงว่าพระราชาองค์ก่อนถูกวางยาพิษด้วยทันซาโช

ชาวบ้านโซรัคบางคนเริ่มติดฝิ่น หมอคเยจีฮันจึงสืบหาความจริงโดยมีมันบกเป็นผู้ช่วยและรู้ว่าคนร้ายก็คืออิมซุนมันที่ปลูกสมุนไพรผิดกฎหมายจนแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านและเสนอเงินที่ได้ให้กับอัครมหาเสนาบดีโจ หมอคเยจีฮันนำเรื่องนี้ไปรายงานกับทางการทำให้ไร่ฝิ่นถูกเผาและอิมซุนมันต้องจนมุม เขามีเข็มผีเจินเป็นข้อต่อรองแต่ถูกฆ่าด้วยลูกธนูของมือสังหารก่อนที่จะบอกความจริงเกี่ยวกับอัครมหาเสนาบดีโจ

เซพุงนำเข็มผีเจินและบันทึกของอิมซุนมันไปถวายฝ่าบาทเพราะมันคือหลักฐานสำคัญที่จะเอาผิดอัครมหาเสนาบดี ขระที่เซพุงกับอึนอูช่วยกันค้นคว้าเรื่องสำรับอาหารของพระราชาองค์ก่อนในคืนที่สวรรคตเพื่อไม่ให้อัครมหาเสนาบบดีรอดพ้นข้อหาไปได้

ฝ่าบาททรงวางพระองค์เป็นปกติและประทานอาหารให้กับเหล่าเสนารวมทั้งอัครมหาเสนาบดีโจซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่พระราชาองค์ก่อนทรงเสวยก่อนสวรรคต เมื่อเซพุงประกาศความผิดของอัครมหาเสนาบดีโจแต่ขาดหลักฐานที่ว่าใครคือฆาตกร เขาจึงนำบันทึกของอิมซุนมันมาเปิดเผยต่อหน้าทุกคนเพื่อให้รู้ว่าอัครมหาเสนาบดีค้าฝิ่นเพื่อทำร้ายราษฎรและรับสินบน ฝ่าบาททรงมีรับสั่งจับกุมอัครมหาเสนาบดีโจทันที

วันต่อมาเซพุงเปิดเผยความจริงทุกอย่างทั้งเรื่องการปลงพระชนม์พระราชาองค์ก่อนและขุนนางนับไม่ถ้วน แต่อัครมหาเสนาบดีโจกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ และยังหาทางเอาตัวรอด จนกระทั่งโจชินอูปรากฏตัวพร้อมกับนางกำนัลวอลที่อัครมหาเสนาบดีโจคิดว่าตายไปแล้ว หลักฐานทั้งหมดและคำให้การของนางกนัลวอลทำให้อัครมหาเสนาบดีโจดิ้นไม่หลุดและจบชีวิตด้วยการกินทันซาโชด้วยตัวเอง

ฝ่าบาททรงพระราชทานตำแหน่งหมอหลวงสูงสุดให้กับเซพุง แต่เขาปฏิเสธและขอกลับไอยู่ที่โรงหมอคเยซูต่อไป ด้วยบาดแผลในใจที่ไม่อาจฝังเข็มได้อีกต่อไป เขาจึงตั้งปณิธานว่าจะเป็นหมอที่เยียวยาอาการทางจิตใจ