สปอยล์ Mr. Queen ตอนที่ 16

16

พระมเหสีทรงยอมรับว่าเป็นคนช่วยฝ่าบาทขึ้นจากบ่อน้ำเมื่อไม่นานมานี้ แต่ฝ่าบาททรงหมายถึงเมื่อแปดปีก่อน ตำราการยุทธ์ที่ฝ่าบาททรงอ่านนั้น เพราะต้องการกำลังเสริมเพื่อพระราชอำนาจของพระองค์ และช่วงหลังนี้ก็ยังทรงฝันร้ายบ้างเป็นบางครั้ง และทรงรู้สึกราวกับว่าในฝันนั้นเป็นช่วงบั้นปลายชีวิตของพระองค์เอง ส่วนความฝันในตอนนี้ขณะที่ยังมีโอกาส พระองค์อยากจะต่อสู้กับโชคชะตาของตนเอง พระมเหสีได้ฟังดังนั้น จึงทรงบอกกับตัวเองว่า พระนางอยากจะช่วยฝ่าบาท ซึ่งกำลังจะกลายเป็นผู้แพ้ จากนั้นพระมเหสีจึงทูลว่า ตราบใดที่ยังมีพระนางอยู่เคียงข้าง ฝ่าบาทจะต้องเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ เพราะพระนางทรงมีอาวุธลับคือการหยั่งรู้อนาคต แม้ฝ่าบาทจะไม่ทรงเชื่อว่าพระมเหสีคือชายที่มาจากอนาคตในสองร้อยปีข้างหน้า แต่พระมเหสีก็อยากจะทูลเรื่องในอนาคตให้ฝ่าบาทฟังว่า ในอีกสองร้อยปีข้างหน้า โชซอนจะกลายเป็นสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งประชาชนเป็นผู้เลือกพระมหากษัตริย์ของตนเอง และจะไม่มีไพร่หรือขุนนาง ประชาชนที่อายุครบสิบแปดปี จะมีสิทธิ์ในการออกเสียงเลือกตั้ง ทั้งสองพระองค์ทรงคุยกันทั้งคืนจนกระทั่งฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ

แม้จะลาออกจากตำแหน่งแล้ว แต่คิมจวากึนก็ยังคงสั่งลูกน้องให้คอยจับตาดูพระมเหสี บงฮวานในร่างพระมเหสีคิดว่าหากฝ่าบาทประสบความสำเร็จ โลกในอีกสองร้อยปีข้างหน้าจะแตกต่างไปด้วยไหม ฉะนั้นสิ่งที่เขากำลังจะทำนั้น มิใช่เพื่อช่วยฝ่าบาท แต่เพื่อตัวเขาเอง

พระมเหสีเสด็จไปเยี่ยมท่านพ่อ แต่ท่านพ่ออยากให้พระมเหสีออกจากตำแหน่งและกลับมาอยู่บ้าน แต่พระมเหสีตรัสว่าพระนางต้องการแก้แค้นคนเหล่านั้น และทรงขอความช่วยเหลือจากพ่อ โดยการให้เขาเลิกทุจริตและกอบกู้ชื่อเสียงของตนเอง จากนั้นคิมมุนกึนจึงขายของทุกอย่างในบ้านให้แก่ราษฎรในราคาถูก พระมเหสีทรงนำบัญชีทุจริตของขุนนางแต่ละคนมาถวายฝ่าบาท

พระมเหสีโซยงปลอมตัวเป็นขันที เพื่อเข้าไปฟังการประชุม และได้ทรงทราบว่าฝ่าบาททรงแต่งตั้งองค์ชายยองพยองเป็นผู้ดูแลหน่วยงานซัมจองอีจอง และยังส่งผู้สืบราชการลับไปที่เขตยองนัมอีกด้วย ผู้ที่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นจะต้องถูกลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา และนำทรัพย์สินที่ผิดกฎมายมาช่วยเหลือประชาชน และคนเหล่านี้จะเป็นตัวอย่างแก่ผู้ว่าราชการทั้งแปดคน เพื่อให้พวกเขาเข้ามามอบตัว แต่เหล่าเสนาบดีทูลว่าหัวหน้ากระทรวงกลาโหมได้ส่งทหารไปแล้ว และเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นก็เพราะความเชื่อในทงฮัค ซึ่งก่อให้เกิดการลุกฮือทางการเมืองเหมือนเช่นที่โชซอนเคยถูกคุกตามอธิปไตยในอดีต เมื่อฝ่าบาททรงแย้งว่าสภาป้องกันชายแดนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง คิมบยองอินจึงทูลว่าความเชื่อทงฮัคเป็นเหตุก่อให้เกิดความปั่นป่วนและข่มขู่ทำร้ายข้าราชการ จึงควรรีบจับผู้นำกลุ่มมาประหารโดยเร็ว เพื่อกำจัดต้นตอ นอกจากนี้เขาได้จับกุมคนเหล่านั้นเข้าคุกไปแล้ว ฝ่าบาททรงกริ้วและตรัสว่ามันเป็นเพียงกลุ่มหัวขโมย และพระองค์ทรงจัดตั้งอีจองชองก็เพื่อสืบสวนและช่วยเหลือประชาชน คิมบยองอินยังคงโต้เถียงต่อไปว่าฝ่าบาทไม่ทรงทราบพื้นเพของคนเหล่านั้น และหากยังทรงทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา เรื่องราวก็จะไม่มีวันจบสิ้น จึงสมควรใช้กำลังเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ก่อการจลาจลใดๆอีก ฝ่าบาทตรัสว่าพระองค์จะทรงตรวจสอบนักโทษ หากมีการใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้นพระองค์จะทรงลงโทษพวกโจรขั้นรุนแรงเพื่อเป็นตัวอย่าง และได้มีคำสั่งลงโทษผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้นำการทหารที่สร้างปัญหาไปแล้ว

คิมบยองอินไม่พอใจและนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระพันปีหลวง เขาจะส่งกำลังทหารไปปราบการจลาจลของกลุ่มทงฮัค ก่อนที่จะควบคุมไม่อยู่ คิมบยองอินรู้สึกอิจฉาเมื่อรู้จากพระพันปีหลวงว่า ฝ่าบาทและพระมเหสีเขียนจดหมายรักถึงกัน และยินดีที่จะสละชีวิตเพื่อกันและกันอีกด้วย

พระมเหสีทรงเชิญเหล่าเสนาทุจริตมาเพื่อตักเตือนไม่ให้ขัดขวางการตัดสินใจของฝ่าบาท แต่เหล่าเสนาทูลว่าพระนางคือคนของตระกูลคิม พระมเหสีจึงตรัสว่าต่อไปนี้ พระนางจะเปลี่ยนชื่อเป็นจางโซยง

เมื่อฝ่าบาททรงบอกสนมอึยว่า พระองค์ทรงโปรดนางตอนที่พระองค์เสด็จกลับจากฮันยาง มิใช่จากเหตุการณ์ที่บ่อน้ำ องค์ชายยองพยองสังเกตเห็นสนมอึยมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

ในคืนนี้พระมเหสีทรงเล่าเรื่องของอนาคตให้ฝ่าบาทฟังต่อจากคืนก่อนว่า ในอนาคตอำนาจอธิปไตยยังคงมีอยู่ แต่ว่าใช้ระบบรัฐธรรมนูญในการปกครอง โดยประชาชนเป็นผู้มีอำนาจ ดั่งเช่นกษัตริย์จิ๊กมี่แห่งภูฐานที่ทรงเปลี่ยนเป็นระบอบนี้เช่นกัน แม้ว่าจะเคยมีระบอบการปกครองคล้ายโชซอนก็ตาม เพราะพระองค์ทรงเกรงว่าอำนาจเผด็จการอาจทำลายราชบัลลังก์และประเทศของพระองค์ พระองค์จึงทรงเปลี่ยนระบอบการปกครอง และปกครองประเทศบนพื้นฐานของกฎหมาย และพระมหากษัตริย์ก็เป็นเพียงสัญลักษณ์ของประเทศเท่านั้น ทั้งสองพระองค์คุยกันจนหลับคาโต๊ะ เมื่อสนมออึยมาเข้าเฝ้า จึงได้เห็นทั้งคู่หลับอยู่ด้วยกัน

วันต่อมาสนมอึยตัดสินใจบอกความจริงกับฝ่าบาทว่า ตำราการยุทธ์ที่พระองค์ทรงอ่านอยู่นั้น ไม่ใช่ของนาง แต่ฝ่าบาทไม่ทรงมีท่าทางแปลกใจเลย สนมอึยยังยอมรับอีกว่านางเป็นคนมอบบัญชีลับให้พระพันปี เพราะนางเกลียดพระมเหสีที่ทำให้ฝ่าบาทเปลี่ยนใจไปจากนาง ฝ่าบาทจึงทรงต่อว่าเพราะพระองค์ทรงตามหาบัญชีลับมาตลอด
ฝ่าบาททรงเปลี่ยนชื่อตำรายุทธ์เป็นคิมโซยงและมอบคืนให้พระมเหสี โดยตรัสถึงเหตุการณ์เมื่อแปดปีก่อนที่คิมโซยงเคยบอกไว้ว่า หากตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ให้คืนหนังสือเล่มนี้ให้กับนาง ฝ่าบาททรงขอโทษที่จำพระมเหสีไม่ได้ แม้ไม่อาจแก้ไขเหตุการณ์ที่เคยผิดพลาดได้ แต่พระองค์จะไม่เข้าใจผิดหรือสับสนว่าพระนางเป็นคนอื่นอีกต่อไป

ฝ่าบาททรงแต่งตั้งมินอูจินมารับตำแหน่งสมาชิกสภาแทนคิมซอกกึนที่ถูกจับข้อหาทุจริตและโดนยึดทรัพย์สิน เหล่าเสนาต่างคัดค้าน ยกเว้นคิมบยองอิน

คิมบยองอินถูกพระพันปีหลวงต่อว่าที่เขาไม่ช่วยให้พระนางได้อำนาจกลับคืนมาเสียที เขาจึงบอกว่ากำลังรวบรวมกำลังทหารเพราะไม่ต้องการเสียคนในตระกูลต่อไปอีกแล้ว และฝ่าบาทก็คงนั่งบนบัลลังก์ได้อีกไม่นาน

คิมบยองอินแอบฉีกตำรากลยุทธ์ไปหนึ่งหน้า เพื่อให้นักโทษกลุ่มทงฮัคดูจึงรู้ว่ามันคือรหัสลับที่พวกเขาใช้กัน พระมเหสีทรงเปลี่ยนชุดเป็นชาย และกำลังปรึกษาเรื่องการผลิตอาวุธอยู่กับฝ่าบาทและหัวหน้าฮงพร้อมด้วยองค์ชายยองพยอง คุณชายคิมฮวานโผล่เข้ามาและดีใจเมื่อเห็นพระมเหสี เพราะคิดว่าพระนางคืออีซึงมังที่เคยเที่ยวหอนางโลมด้วยกัน คิมฮวานสวมกอดและแตะเนื้อต้องตัวพระมเหสี จนทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัย พระมเหสีจึงทรงแนะนำคิมฮวานว่า จองชอลคือเพื่อนซี้ของพระนาง เป็นการสลับชื่อของฝ่าบาทเพื่อไม่ให้คิมฮวานจำได้ จากนั้นพวกเขาก็เล่นไพ่ด้วยกัน

หลังจากคิมซอกกึนถูกจับไปแล้ว คิมบยองอินจึงบอกเหล่าเสนาว่า สงครามที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งอาจมีการนองเลือด ในขณะที่หัวหน้าฮงสงสัยว่าคิมบยองอินแอบซ่องสุมกำลังพล

ฝ่าบาททรงเป็นห่วงพระมเหสีและกลัวว่าพระนางจะเหงา แต่พระนางตรัสว่าด้วยสถานการณ์ของตัวเอง จึงไม่มีเวลาที่จะเหงา และขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเขียนพจนานุกรมคำศัพท์ของพระนาง และเป็นคนที่เข้าใจพระนางดีที่สุด จู่ๆ พระมเหสีก็เกิดอาการคลื่นไส้ขณะที่ฝ่าบาทกำลังจะจุมพิต เมื่อหมอหลวงตรวจอาการแล้ว จึงทูลว่าพระนางกำลังตั้งครรภ์ ฝ่าบาททรงดีใจที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว