สปอยล์ Mr. Queen ตอนที่ 15
หลังจากเห็นสัญญาณมือของฝ่าบาทแล้ว พระมเหสีโซยงทรงเสแสร้งเสียพระทัยกับร่างของเด็กน้อยทัมฮยาง เมื่อได้กลิ่นสุราจากร่างของเด็ก จึงทรงทราบว่าเด็กน้อยไม่ได้ดื่มยาพิษ หัวหน้าฮงได้ให้เงินกับคนที่กำลังเข็นร่างเด็กไปทิ้งที่ภูเขา โดยอ้างว่าต้องการทำพิธีศพให้เด็กเอง จากนั้นอุ้มเด็กออกไปอยู่นอกวังกับแม่ของนาง ตามรับสั่งของฝ่าบาท พระมเหสีทรงดีพระทัยเมื่อทราบเรื่องนี้ และสิ่งที่ให้เด็กดื่ม ก็เป็นเพียงสมุนไพรจีนเท่านั้น
คิมจวากึนยอมรับกับคิมบยองอินว่าเขาต้องการกำจัดพระมเหสี เพราะตอนนี้พระนางเข้าข้างฝ่าบาท และทำให้ตระกูลคิมต้องอับอาย คิมบยองอินไม่เชื่อและไม่พอใจ จึงบอกว่าหากคิมจวากึนยังคิดทำร้ายพระมเหสีอีก เขาก็จะไม่นับถือเป็นพ่ออีกต่อไป
พระมเหสีค่อนข้างแน่พระทัยว่า ผู้ที่นำบัญชีลับไปไว้ที่ตำหนักแทโชชอน จะต้องเป็นพระพันปีแน่ๆ เพราะว่าช่วงนี้พระนางเสด็จไปที่นั่นบ่อยๆ แต่พระมเหสีโซยงก็ยังไม่รู้ว่าบัญชีเล่มนั้นมันคืออะไรกันแน่
คิมบยองอินมีแผนการบางอย่าง จึงเรียกประชุมเสนาสองตระกูล เพื่อเสนอเรื่องฎีกาการนิรโทษกรรมตามสัญญาระหว่างสองตระกูลที่เคยให้แก่กันไว้ ขณะที่อำนาจของคิมจากึนค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ เขาจึงบอกกับตัวเองว่า ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เขาจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
เมื่อพระมเหสีทรงทราบความจริงจากพ่อว่า บัญชีเล่มนั้นคือบันทึกการทุจริตของตระกูลคิม มันหายไปตั้งแต่ตอนที่พระมเหสีและฝ่าบาทประทับอยู่ที่บ้าน เพราะทาสคนหนึ่งแอบขโมยไปให้สนมอึย พระมเหสีทรงอ่านเกมออกแล้วว่าพระพันปีหลวงคือผู้บงการอยู่เบื้องหลังที่ต้องการสังหารพระนาง โดยการเชิญไปร่วมเสวยในวันนั้น และสนมอึยกับพระพันปีก็ร่วมมือกันข่มเหงพระนาง จากนั้นจึงตัดสินพระทัยจะแก้แค้นคนเหล่านั้น
วันต่อมาพระมเหสีจึงทรงนำอาหารไปถวายพระพันปีหลวง พร้อมด้วยเครื่องดื่มเย็นชนิดเดียวกับที่เคยเสวยในวันก่อน แต่พระพันปีหลวงไม่กล้าเสวยเพราะกลัวยาพิษ พระมเหสีจึงทรงดื่มเองจนหมด และทูลว่าต่อไปนี้จะทรงปรุงอาหารและเครื่องดื่มมาถวายเหมือนเช่นเคย และหากเมื่อใดที่พระพันปีหลวงทรงระแวงทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่เสวยเข้าไป ชีวิตก็จะไม่มีความสุข
หลังจากนั้นพระมเหสีโซยงก็เสด็จไปเข้าเฝ้าพระพันปี และต่อว่าที่พระนางเสด็จเอาของไปซ่อนไว้ที่ตำหนัก จากนั้นก็ขู่ว่า หากพระพันปีทำร้ายหรือแตะต้องพระนางอีก พระนางก็จะทำลายรูปของอดีตพระราชาที่พระพันปีทรงกราบไว้บูชาอยู่เป็นประจำ
เมื่อเสด็จไปพบสนมอึย พระมเหสีทรงตรัสเป็นนัยว่า พระนางเกือบตายเพราะบัญชีลับเล่มนั้น แต่สนมอึยยังคงเข้าใจผิดว่าพระมเหสีคือคนที่ฆ่านางกำนัลโอวล พระมเหสีทรงตรัสว่าสนมอึยกลายเป็นเหยื่อที่น่าสงสารที่คิดอะไรไม่เป็น สนมอึยรู้สึกหวาดเกรงท่าทางของพระมเหสีและเดินถอยหลังไปจนเกือบตกน้ำ แต่พระมเหสีทรงคว้าไว้ทันและตรัสว่านี่คือเครื่องพิสูจน์แล้วว่าพระนางเป็นคนดีกว่าสนมอึย เพราะสนมอึยไม่ได้คว้ามือของพระนางไว้ ในวันที่ตกทะเลสาบ
คิมจวากึนเขียนจดหมายลาออกจากตำแหน่ง ฝ่าบาททรงประกาศในที่ประชุมว่า พระองค์จะทรงสร้างหน่วยงานชื่อว่าซัมจองอีจองชองเพื่อออกกฎหมายและพัฒนาแผนงานขั้นพื้นฐาน และแก้ปัญหาเรื่องระบบภาษี เหล่าเสนาทูลขอให้แต่งตั้งคิมบยองอินเป็นหัวหน้ากลาโหมคนใหม่แทนที่คิมจวากึน
องค์ชายยองพยองและหัวหน้าพิเศษฮงเตือนฝ่าบาทว่าคิมบยองอินอาจเป็นภัยคุกคามในอนาคต เพราะเขาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลโจด้วย ฝ่าบาทจึงทรงใช้คำพูดของพระมเหสีว่าการป้องกันที่ดีที่สุดคือการเป็นฝ่ายรุกก่อน
พระมเหสีโซยงทรงขอจับมือเป็นพันธมิตรกับฝ่าบาทเพื่อร่วมมือกันแก้แค้นพวกที่ต้องการจะโค่นพระองค์ทั้งคู่ ฝ่าบาทจึงทรงตรัสว่านับจากนี้ไปจะไม่มีกฏโนทัชอีกต่อไป พระมเหสีทรงเห็นด้วย และทรงถามสาเหตุที่ฝ่าบาทเคยคิดจะสังหารพระนาง ฝ่าบาทจึงทรงเล่าว่า ในตอนนั้นพระองค์เข้าใจว่าพระมเหสีแอบได้ยินแผนการที่พระองค์ตั้งใจกำจัดพ่อของพระมเหสี เพราะเขาเป็นขุนนางทุจริต เมื่อทรงทราบว่าฝ่าบาทต้องการพัฒนาแผ่นดินที่เกือบจะล่มสลาย พระมเหสีจึงทรงตรัสว่าพระนางชอบความคิดและวิธีการของฝ่าบาทมากกว่าเป้าหมายที่ทรงเล็งไว้ เพราะหากอำนาจอธิปไตยเข้มแข็งขึ้น พระนางก็จะทรงเข้มแข็งไปด้วย และก็จะไม่มีใครไล่ล่าพระนางได้อีก ฝ่าบาททรงเข้าใจว่าพระมเหสีทรงหวาดกลัวเพราะเคยโดนขู่เรื่องการตายมาก่อน แต่พระมเหสีทูลว่าพระนางยอมตายดีกว่าโดนเหยียบย่ำ และหากได้แก้แค้นคนเหล่านั้นแล้ว พระนางก็คงตายด้วยรอยยิ้ม คำพูดของพระมเหสีทำให้ฝ่าบาททรงนึกถึงเรื่องในวัยเด็กขณะที่อยู่ในบ่อน้ำ เพราะเด็กผู้หญิงคนนั้นก็พูดเช่นนี้เหมือนกัน
พระมเหสีเพิ่งนึกออกว่าจะต้องแก้แค้นฮันชีมงซึ่งหน้าเหมือนเลขาฮัน แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน จึงทรงคิดว่าจะตัดลูกอัณฑะของเขา จึงรับสั่งให้มาเป็นขันทีประจำพระองค์
พระมเหสีโซยงไม่แน่พระทัยว่าคิมบยองอินคือมิตรหรือศัตรูกันแน่ เมื่อเขาบอกว่าไม่ได้เข้าข้างพ่อและไม่รู้เรื่องแผนการวางยาพิษพระมเหสีในวันก่อน คิมบยองอินเข้าเฝ้าพระพันปีหลวงและทูลว่า จากการเล่าของพ่อพระมเหสี เขาจึงรู้ว่าคนที่คิดไม่ซื่อกับพระพันปีหลวงไม่ใช่พระมเหสี แต่เป็นสนมอึย
ฝ่าบาททรงเตือนสนมอึยให้ระวังตัวจากพระพันปี เพราะศพที่พบในบ่อน้ำ ไม่ใช่โอวอล แต่เป็นนางกำนัลคนอื่นที่ถูกพระพันปีสั่งฆ่า เพราะต้องการให้สนมอึยเข้าใจพระมเหสีผิดๆและหันไปเข้าข้างพระนาง สนมอึยจึงทูลว่าเป็นเพราะนางเคยเล่าเรื่องบ่อน้ำให้พระพันปีฟังว่า เป็นที่ที่พบฝ่าบาทครั้งแรกและเป็นที่ที่ทำให้นางเจ็บปวดเช่นกัน ขณะที่องค์ชายยองพยองรู้แล้วว่าสนมอึยคือคนที่นำบัญชีลับไปให้พระพันปี เพียงแต่เขายังไม่ทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาท เพราะความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อสนมอึย
องค์ชายยองพยองแปลกใจที่สนมอึยไม่ดีใจเมื่อรู้ว่าโอวอลยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่สนมอึยกลับดูเป็นกังวลราวกับมีบางอย่างปิดบังไว้ แต่สนมอึยก็ยังยืนยันว่านั่นคือศพของโอวอล
พระมเหสีทรงนอนไม่หลับ เพราะไม่เชื่อว่าพ่อจะเป็นคนทุจริต จึงทรงเข้าห้องเครื่องหลวงเพื่อปรุงรามยอน และนำไปถวายฝ่าบาท ขณะที่พระองค์กำลังอ่านตำรายุทธ์ สิ่งที่ฝ่าบาททรงแคลงใจว่าใครกันแน่ที่ช่วยพระองค์ในวัยเด็กขึ้นจากบ่อน้ำ เพราะทรงเข้าใจผิดมาตลอดว่าเป็นสนมอึย พระมเหสีทรงยอมรับว่าคือพระนางเอง