สปอยล์ Moving ตอนที่ 1-7

1-7

ในปี 2003 อีมีฮยอนพาบงซอกย้ายมาอยู่ที่คยองกี โดยแบกเขาไว้ที่หลังและรัดเขาไว้ขณะที่เขาอายุเพียงไม่กี่ขวบ เธอไม่ต้องการให้ใครรู้ความลับของลูกชายว่าเขาลอยตัวได้ มีฮยอนใช้เงินก้อนโตซื้อตึกร้างและเปิดร้านอาหารนัมซานทงคัตสึ การหัดเดินของบงซอกเป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะเขามักจะลอยตัวหากไม่ควบคุมอารมณ์ซึ่งมีผลต่อร่างกาย มีฮยอนเลี้ยงดูบงซอกอย่างระมัดระวังและเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างเพื่อถ่วงน้ำหนักของเขาไว้ 

ปี 2018 บงซอกเรียนอยู่ชั้น ม.6 เทอมสุดท้ายที่โรงเรียนจองวอน เขาเป็นเด็กสดใสอารมณ์ดีและเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง แต่เขาเป็นแกะดำและไม่มีเพื่อนสนิท บงซอกไปโรงเรียนทุกวันด้วยเป้ที่มีน้ำหนักมาก เพราะแม่ของเขาจะใส่ถุงทรายไว้ในนั้นเพื่อถ่วงน้ำหนัก ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนบงซอกจะต้องแบกเป้ของเขาไว้เสมอ หรือไม่เช่นนั้นเขาก็จะต้องยึดวัตถุที่จะถ่วงเขาไว้ได้เพื่อไม่ให้ลอยตัวต่อหน้าคนอื่น ไม่มีใครล่วงรู้ความลับนี้ของเขา มีฮยอนหวังว่าเมื่อบงซอกเติบโตมากกว่านี้ เขาจะสามารถควบคุมอารมณ์และร่างกายของตัวเองได้ 

บงซอกโดยสารรถประจำทางไปโรงเรียนทุกเช้าซึ่งจอนคเยโดเป็นคนขับรถ บงซอกพบจางฮีซูครั้งแรกบนรถโดยสารและแอบชอบเธอ ฮีซูเป็นเด็กนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาและได้เรียนห้องเดียวกับบงซอก พ่อของเธอเปิดร้านขายไก่ทอด ครูประจำชั้นชเวสนับสนุนฮีซูให้เรียนเอกพละ และให้ใช้โรงยิมเพื่อฝึกซ้อมร่างกายอย่างเต็มที่ เพราะเขารู้ว่าเธอมีความสามารถพิเศษ อีคังฮุนเป็นหัวหน้าห้องและมีพลังพิเศษที่ไม่มีใครรู้เช่นกันนอกจากครูชเว

นักฆ่าแฟรงก์เดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อไล่ล่าและกำจัดคนวัยเกษียณที่มีพลังพิเศษแลลูกของพวกเขา เหยื่อรายแรกคือจินชอนที่มีพลังมหาศาลแต่ตายด้วยน้ำมือของแฟรงก์ เหยื่อรายที่สองคือจอนยองซอก (หรือชื่อโค้ดมนุษย์ไฟฟ้าบงพยอง) เขาเปิดร้านหนังสือมือสองและเป็นพ่อของคนขับรถจอนคเยโด ระหว่างการต่อสู้กับแฟรงก์ จอนยองซอกชาร์จพลังตัวเองด้วยไฟฟ้าทุกชนิดแม้กระทั่งถ่านไฟฉาย จอนคเยโดเปิดวิทยุบนรถบัสที่กำลังขับ แต่ระบบไฟฟ้าของวิทยุขัดข้องทำให้เขาคิดว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่างกับพ่อ หลังจากที่จอนยองซอกถูกแฟรงก์ฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมและเผาร้านหนังสือ จอนคเยโดก็หายตัวไปและไม่มาขับรถอีกเลย ซากรูปของจอนยองซอกที่ถ่ายคู่กับลูกชายถูกเผาไปบางส่วน ทำให้แฟรงก์ไปป้วนเปี้ยนแถวโรงเรียนมัธยมจองวอน เพราะคิดว่าลูกชายของจอนยองซอกอยู่ที่นั่นและต้องการกำจัด ภารโรงฮวังจีซอนสงสัยแฟรงคก์และโทรหาใครบางคน สำนักงานวางแผนความมั่นคงแห่งชาติกำลังเร่งผลิตมนุษย์พลังรุ่นใหม่ พวกเขาสงสัยว่าเหยื่อวัยเกษียณสองรายที่ตายไปเป็นฝีมือของใครกันแน่ มีฮยอนไม่เคยประมาทและเตรียมพร้อมเสมอเพราะเธอรู้สึกไม่ชอบมาพากล เมื่อข่าวที่ถูกโพสต์บนโซเชียลจะถูกลบทิ้งทันที

ฮีซูและบงซอกสนิทกันมากขึ้นและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ขณะที่ฮีซูเข้าไปอาบน้ำที่โรงยิมเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า อีคังฮุนเห็นบังกีซูเดินตามเธอไป บังกีซูเคยเรียนเอกพละแต่เพราะร่างกายบาดเจ็บ เขาจึงต้องล้มเลิกและกลายเป็นเด็กที่ชอบหาเรื่องคนอื่น บังกีซูท้าต่อยกับอีคังฮุนและได้รับบาดเจ็บจนหมดสติไป เพราะอีคังฮุนมีพลังที่แข็งแกร่งและว่องไวกว่าเด็กทั่วไปโดยเฉพาะเวลาโมโห 

ความใกล้ชิดระหว่างฮีซูกับบงซอกที่มีมากขึ้น ทำให้เขาอ่อนไหวจนเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้ บงซอกใช้วิธีนับเลขในใจทุกครั้งเพื่อควบคุมอารมณ์ ครูชเวสั่งให้อีคังฮุนไปเปิดพัดลมระบายอากาศที่โรงยิม เขาจึงแอบดูฮีซูที่กำลังฝึกซ้อมอย่างหนักอยู่คนเดียว บงซอกกำลังเดินมาหาฮีซูและเห็นเธอล้มบาดเจ็บข้อเท้าแพลง เขาลืมตัวจนลอยมาหาฮีซูอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง แต่ฮีซูไม่มีอาการบาดเจ็บและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจนเป็นปกติ บงซอกช่วยจับขาของฮีซูขณะที่เธอซิตอัพ แต่เขาเริ่มหวั่นไหวจนควบคุมตัวเองไม่ได้และลอยตัวพุ่งถลาไปข้างหน้า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาอีคังฮุนที่แอบดูอยู่

ฮีซูเริ่มสงสัยพลังในตัวของบงซอกมากขึ้น เธอจึงวางแผนเพื่อจะพิสูจน์และได้เห็นเขาลอยต่อหน้า เมื่อเธอสัมผัสบาดแผลที่แขนของเขา ฮีซูรีบคว้าเป้น้ำหนักให้บงซอกและกอดเขาไว้เพื่อไม่ให้เขาลอยอีก ภารโรงฮวังจีซอนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านกล้องวงจรปิด ฮีซูประคองบงซอกและไปส่งเขาที่บ้าน อีมีฮยอนทั้งแปลกใจและดีใจที่รู้ว่าบงซอกมีเพื่อน 

นาจูเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยและเหยื่อรายที่สามของแฟรงคก์ กระสุนปืนที่เธอรัวยิงหรือแม้แต่อาวุธสงครามไม่สามารถทำอะไรแฟรงคก์ได้ เพราะเขาสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีบาดแผล ก่อนที่นาจูจะถูกฆ่าตายเธอบอกกับแฟรงคก์ว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือของกูรยงโพ (จางจูวอนพ่อของฮีซู) แฟรงคก์ใช้กรรไกรตัดผมแทงที่คอของนาจูและถามด้วยความโมโหว่า ทำไมคนที่มีพลังพิเศษทุกคนจึงต้องซ่อนลูกของตัวเองไว้ แฟรงคก์มองรูปถ่ายที่ผนังเพราะเชื่อว่าหนึ่งในนั้นคือลูกของนาจูที่จะต้องมางานศพของเธอ นอกจากแฟรงคก์มาทำภารกิจกำจัดคนเกษียณมีพลังแล้ว เขายังต้องกำจัดลูกของคนเหล่านั้นด้วย

บงซอกเปิดเผยความลับกับฮีซูเรื่องที่เขาลอยตัวได้และทำให้ดู ฮีซูสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับเพราะมันคือพลังพิเศษของเขา อีมีฮยอนมีระบบประสาทสัมผัสที่ไวเหนือมนุษย์ เธอจึงได้ยินทุกอย่างที่เด็กๆกำลังคุยกัน วันต่อมาฮีซูบอกความลับของเธอและขอให้บงซอกเก็บเป็นความลับเช่นกัน เพราะเธอมีพลังพิเศษที่ไม่เคยบาดเจ็บและฟื้นตัวได้เร็ว เธอเคยถูกรุม 17 : 1 (แก๊งของซอยูรา) ที่โรงเรียนเก่าเพื่อช่วยชินฮเยวอนที่ถูกรังแก ต่อมาเธอโดนไล่ออกจากโรงเรียนและทุกคนมองเธอเป็นตัวประหลาด พ่อของเธอหมดตัวเพราะขายบ้านเพื่อนำเงินทั้งหมดจ่ายค่าไกล่เกลี่ยและรักษาพยาบาลให้กับคู่กรณี จนกระทั่งย้ายมาอยู่ที่คยองกีและเรียนที่นี่ พ่อของฮีซูบอกความจริงว่าเธอได้พลังพิเศษมาจากเขา

แฟรงก์ไปงานศพของนาจูเพื่อตามหาลูกของเธอ และได้รู้ว่าเด็กหนุ่มทุกคนที่อยู่ในรูปถ่ายที่มางานศพ ต่างก็เป็นลูกบุญธรรมของเธอ ส่วนลูกสาวแท้ๆได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เรียนมัธยม จางจูวอนไปเก็บเงินค่าไก่ทอดจากลูกค้าที่ศูนย์การค้าเดียวกับร้านของนาจูและสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีมีฮยอนเห็นข่าวของนาจูบนโลกโซเชียล เธอจึงรีบไปที่ศูนย์การค้าแห่งนั้นและเห็นจางจูวอนที่นั่น 

โจแรฮยอก (โรงเรียนมัธยมจองวอน) สนใจเรื่องของฮีซูเป็นพิเศษ เขาจึงไปพบกับซอยูราที่เคยมีเรื่องกับฮีซู ซอยูราบอกว่าฮีซูเป็นสัตว์ประหลาด ขณะที่มีสภาพยับเยินทั้งผิวหนังฉีกขาดและจุดหักหลายส่วน แต่พริบตาเดียวฮีซูก็หายเป็นปลิดทิ้ง 

โจแรฮยอกไปพบรอง ผอ.มินยองจุนแห่งสำนักวางแผนความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อรายงานโครงการพัฒนาผู้มีพรสวรรค์แห่งชาติ (เอ็นทีดีพี) ที่ตนเองรับผิดชอบมาสิบปี รองผอ.มินยองจุนกำชับโจแรฮยอกให้ดูแลเอกสารอย่างดีเพื่อไม่ให้รั่วไหลก่อนที่จะหาโอกาสเหมาะๆเพื่อทำลายทิ้ง หลังจากที่เหยื่อเกษียณสามรายถูกฆ่าตาย เมื่อก่อนสำนักวางแผนความมั่นคงแห่งชาติรเคยดำเนินภารกิจลับสุดยอดซึ่งอเมริกาเป็นผู้อนุมัติ เจ้าหน้าที่เกษียณทุกคนเหล่านั้นจึงเป็นหลักฐานที่ยังมีชีวิตอยู่ ฝ่ายตรงข้ามจึงพยายามกำจัดทิ้ง

หลังจากที่จอนคเยโดจบจากมหาวิทยาลัย เขาแยกตัวไปอยู่ตามลำพังและทำงานด้านการแสดงเป็นพอนแกมอนที่มีพลังไฟฟ้า แต่พลังในตัวของเขาทำให้อุปกรณ์ของบริษัทเสียหายหลายครั้งจนโดนไล่ออก และอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่มีกระแสแรงสูงได้พรากชีวิตแม่ของเขาไป ต่อมาเขาได้งานใหม่เป็นพนักงานขับรถบัสแต่ต้องหยุดงานไปหลังจากที่พ่อตาย

ชินฮเยวอนที่ฮีซูเคยช่วยไว้จากโรงเรียนเก่า ขอย้ายมาเรียนที่โรงเรียนจองวอนโดยระบุว่าขออยู่ห้องเดียวกับฮีซู อีคังฮุนโดนบังกีซูกลั่นแกล้งต่อหน้าเพื่อนๆที่โรงอาหารทำให้อับอาย แต่เขายับยั้งความโกรธและไปเก็บตัวอยู่ในโรงยิมตามลำพัง บงซอกและฮีซูช่วยเก็บแว่นตาของเขามาทำความสะอาดและนำไปคืน อีคังฮุนแอบชอบฮีซูอยู่เงียบและอยากให้เธอไปเที่ยวที่บ้านของเขาบ้าง

จอนคเยโดกลับมาขับรถบัสอีกครั้งเพราะไม่อยากคิดมากเรื่องพ่อที่ตายไป บงซอกดีใจที่ได้พบคเยโดอีกครั้งและบอกว่าเป็นห่วงในช่วงที่เขาหายหน้าไป แฟรงก์นั่งทบทวนอดีตของตัวเองขณะที่ยังไม่ได้รับคำสั่งใหม่ เขาถูกทหารซีไอเอรับไปเลี้ยงเป็นลำดับที่หกตั้งแต่ยังเล็ก ชื่อของเขาจึงเป็นอักษรตัว F ในภาษาอังกฤษ แฟรงก์ถูกฝึกซ้อมอย่างหนักจนเป็นนักฆ่าฝีมือฉกาจ 

แฟรงก์ไปที่ร้านทงคัตสึของมีฮยอน (แม่ของบงซอก) หลังจากที่ได้รับคำสั่งให้ไปกำจัดเธอ มีฮยอนมีประสาทสัมผัสที่ไวและรู้ว่าแฟรงก์กำลังเดินเข้าร้าน แม้ว่าแฟรงก์จะถอดกระดิ่งที่ประตูออกก็ตาม มีฮยอนรู้สึกไม่ชอบมาพากลและรีบส่งข้อความบอกบงซอกไม่ให้เขากลับบ้าน แต่โทรศัพท์ของบงซอกแบตหมด เขาจึงกลับบ้านตามปกติ มีฮยอนพยายามต้อนรับบงซอกราวกับลูกค้าคนหนึ่งเพื่อไม่ให้แฟรงก์รู้ว่าเขาคือลูกชายของเธอ แต่การสนทนาของแฟรงก์กับบงซอกทำใหม่อาจปิดบังได้ 

มาร์คคือเจ้าหน้าทีซีไอเอในคราบที่ปรึกษาสถานทูตอเมริกา รอง ผอ.มินยองจูรู้ดีว่าเขาคือคนที่ส่งแฟรงก์มากำจัดคนเกษียณทรงพลังเหล่านั้น รอง ผอ.มินยองจูขู่มาร์คให้ล้มเลิกภารกิจนี้ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะรายงานเรื่องที่มาร์คกำลังแอบทำสายพันธุ์รุ่นใหม่อย่างลับๆ มาร์คส่งข้อความบอกแฟรงก์ให้ยุติภารกิจทันที ก่อนที่จะลงมือฆ่าอีมีฮยอนและลูกชาย

ลำดับต่อไปที่แฟรงก์ต้องกำจัดก็คือกูรยงโพ (จางจูวอนพ่อของฮีซู) แม้ว่าแฟรงก์จะขับรถทับจางจูวอนบดไปบดมากี่ครั้งแต่ก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้ เพราะพลังพิเศษของเขาที่ไม่บาดเจ็บและฟื้นตัวได้เร็ว ทั้งสองคนปะทะกันอย่างห้ำหั่นจนแฟรงก์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้และตายด้วยน้ำมือของจางจูวอน 

หลังจากที่แฟรงก์ไปที่บ้านของอีมีฮยอนแล้ว เธอจึงเข้มงวดกับบงซอกมากขึ้นและสั่งให้กลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียน บงซอกและฮีซูจึงไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเหมือนแต่ก่อน ก่อนสอบซูนึงหนึ่งวัน ฮีซูจึงไปแถวบ้านของบงซอกและส่งข้อความให้กำลังใจเขา บงซอกลอยตัวและบินออกทางหน้าต่างเพื่อมาหาหาฮีซู เธอนำก้อนอิฐขนาดใหญ่มาวางบนตักของเขาเพื่อป้องกันการลอยตัว ก่อนจะบอกว่าคิดถึงเขาในช่วงที่ห่างกัน เช่นเดียวกับบงซอกที่คิดถึงเธอ 

การสอบซูนึงผ่านไปแล้ว แต่ครูชเวต้องการให้ลูกศิษย์ของเขาฝึกซ้อมร่างกายในโรงยิม โดยแยกให้ฮีซูไปฝึกอีกด้านหนึ่งโดยไม่ให้ใครรบกวน เพราะเธอต้องสอบเข้าวิทยาลัยพละศึกษา แป้นระดับความสูงที่ฮีซูกำลังซ้อมเกิดล้มลงมาเพราะน็อตหลุด อีคังฮุนใช้พลังความไวของตัวเองเข้าไปช่วยฮีซูไว้ได้ แต่บงซอกลอยไปไม่ทันเพราะถุงทรายที่ข้อเท้าถ่วงน้ำหนักของเขาไว้

บงซอกเสียใจและโมโหตัวเอง เขาจึงหนีแม่ออกมาฝึกบินโดยไม่ใส่ถุงทราย มีฮยอนต่อว่าลูกที่ไม่เชื่อฟัง บงซอกจึงระบายความรู้สึกทั้งหมดออกมาตั้งแต่เล็กจนโต เพราะเขาอยากจะบินแต่บินไม่ได้เพราะต้องทำตามคำสั่งของแม่ทุกอย่าง มีฮยอนจึงถามบงซอกว่าอยากมีจุดจบแบบพ่อหรือไง นั่นคือครั้งแรกที่แม่พูดถึงพ่อและเขาเองก็ไม่เคยบอกแม่เรื่องความฝันที่เขาเจอพ่อบ่อยๆในฝันนั้น เพราะมันเป็นความทรงจำที่ดีของเขา

ฮันบยอล นักเรียนเพื่อนร่วมชั้นของฮีซูถ่ายคลิปไว้ได้ขณะที่อีคังฮุนใช้ความไวเข้าไปช่วยฮีซู โพสต์ของเธอกลายเป็นข่าวโด่งดังและน่าสนใจ กระทรวงความมั่นคงของจีนกำลังจะส่งเจ้าหน้าที่มายังประเทศเกาหลี