สปอยล์ Mouse ตอนที่ 7

7

โกมูจียังไม่ได้คำตอบว่าหนูน้อยฮันกุกอยู่ที่ไหน เพราะหมอโยฮันสลบไปเสียก่อน บารึมและหมอโยฮันอาการสาหัสทั้งคู่และต้องได้รับการผ่าตัดทั้งคู่

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงค้นหาฮันกุกต่อไป โกมูจีได้เบาะแสว่าโยฮันไปที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาไม่พบฮันกุก แต่เจอเศษเอกสารพันธุกรรมที่หมอโยฮันนำมาเผาทิ้ง

การผ่าตัดช่องท้องของหมอโยฮันผ่านไปได้ด้วยดีและต้องดูอาการต่อไป ในขณะที่กะโหลกและสมองของบารึมได้รับบาดเจ็บและเสียหายอย่างรุนแรง หมอจึงต้องทำการผ่าตัดถึงสามครั้ง พีดีชเวไม่อาจทำใจกับการกระทำที่รุนแรงของหมอโยฮันได้อีกต่อไป เธอจึงตัดใจจากเขาและตัดสินใจทำแท้ง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและบารึมอาการสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนต่างก็เป็นห่วงและให้กำลังใจเขา รวมทั้งวิจารณ์การรับมือกับคดีฆาตกรรมของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้งสมัยหน้าในอีกไม่ช้า

บงอีโกรธแค้นหมอโยฮันที่ฆ่าคุณยายของเธอและทำให้บารึมอยู่ในอาการโคม่า เธอจึงแอบไปถอดเครื่องช่วยหายใจและใช้หมอนอุดใบหน้าของเขาในขณะที่เขายังไม่ได้สติ ต่อมาคณะแพทย์แถลงการณ์ว่าหมอโยฮันเสียชีวิตด้วยอาการช็อคจากการติดเชื้อ

บารึมฟื้นขึ้นมาแต่ว่ายังจำใครไม่ได้แม้แต่บงอี หมอบอกว่าต้องใช้เวลาสักพักความจำก็จะกลับคืนมา หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว น้าสาวของเขาจึงเป็นธุระให้บารึมย้ายบ้านไปอยู่ที่พองอัน เพื่อการบำบัดและพัฒนาร่างกาย

โกมูจีและสายสืบชินถูกสอบสวนทางวินัย กรณียิงหมอโยฮันซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ มูจีโดนพักงานเป็นเวลา 1 ปีและหักเงินเดือน 6 เดือน หลังจากนั้นเขาก็โดนย้ายไปทำงานที่แผนกเก็บหลักฐาน ขณะที่สายสืบชินโดนหักเงินเดือน 2 เดือนโดนย้ายไปที่สถานีพยองอัน

หนึ่งปีผ่านไป..
บารึมไปทำงานที่สถานีพยองอัน เพื่อไปแทนสายสืบชินที่กำลังจะย้ายกลับ ระหว่างที่สายสืบชินและบารึมออกลาดตระเวนด้วยกัน บารึมวิ่งไล่จับคนร้ายที่กระชากกระเป๋า และได้พบศพหญิงสาวบาร์โฮสต์คิมมินจูที่ถูกลากมาทิ้งในพงหญ้า สภาพศพคว่ำหน้าถูกมัดข้อมือและโดนแทงจากด้านหลัง กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ของเธอหายไป เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าเธอโดนปล้นและถูกฆ่า จากสภาพศพที่นอนคว่ำหน้า สายสืบชินวิเคราะห์ว่าเหยื่ออาจรู้จักกับฆาตกร เมื่อเจ้าหน้าที่พบรอยล้อรถของคนร้ายที่จอดบริเวณนั้นเพื่อลากเหยื่อไปทิ้ง บารึมแย้งว่าเป็นการฆ่าอำพรางคดี และฆาตกรก็ไม่ได้ฆ่าเธอเพื่อแก้แค้น

ดงกูสอบผ่านและได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตามที่เคยรับปากชีกุกไว้ โกมูจีได้รับหลักฐานจากที่เกิดเหตุคดีคิมมินจู และได้ข้อมูลลักษณะของเงื่อนที่คนร้ายใช้มัดเหยื่อ มูจีไปหาบารึมที่สถานีพยองอัน หลังจากที่รู้ว่าเขากลับไปทำงานแล้ว การพบกันครั้งนี้ของพวกเขาเหมือนกับตอนที่พบกันครั้งแรก ที่มูจีเกือบขับรถชนบารึม เหตุการณ์เดิมๆนี้จึงทำให้บารึมจำโกมูจีได้

บารึมให้มูจีดูรูปเหยื่อที่เขาถ่ายเอาไวในตอนที่พบศพ ข้อมือถูกมัดอย่างหลวมๆซึ่งเหยื่อสามารถดิ้นให้หลุดได้ บารึมยังบอกอีกว่าฆาตกรต้องการความสนุกที่เห็นเหยื่อมีความหวังว่าจะหลุดรอดไปได้ และการแทงจากด้านหลังก็ไม่ตั้งใจทำให้ถึงตายในตอนนั้นทีเดียว เพราะต้องการดื่มด่ำความเจ็บปวดของเธอ จากนั้นจึงค่อยบีบคอเหยื่อ และนี่ไม่ใช่เหยื่อรายแรกของไซโคปาธคนนี้ มูจีรู้สึกว่าบารึมเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน

จากคดีเก่าของฮันซอจุน ที่เหยื่อถูกมัดลักษณะเดียวกัน มูจีและบารึมจึงไปที่เรือนจำเพราะสงสัยว่าฮันซอจุนสอนลักษณะการผูกเงื่อนเช่นนี้ให้กับฆาตกร แต่ฮันซอจุนปฏิเสธ และบอกว่าเขาไม่เคยใช้เงื่อนหรือสอนใคร นอกจากนั้นเขายังบอกบารึมอีกว่าตอนนี้สายตาของบารึมเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็ให้บารึมดูลูกหนู บารึมเกิดอาการวี๊ดในสมองและภาพเก่าของเด็กชุดเหลืองก็ผุดขึ้นมา ในตอนที่ไปทัศนะศึกษาและโยนลูกหนูไปในกรงงู..