สปอยล์ Mouse ตอนที่ 18

18

ดร.อี คุยโทรศัพท์กับใครบางคนว่าจองบารึมกำลังออกไปตามหารูปของเขากับน้องสาว เขากลัวว่าองค์กรโอซีจะรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เมื่อบารึมกลับมาหลังจากทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ จึงถาม ดร.อี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลนิรามที่ส่งที่อยู่ของซงซูโฮมาให้เพื่อให้เขาไปฆ่า หรือการเก็บกวาดทุกครั้งหลังจากที่เขาฆ่าคน เขาไม่รู้เป้าหมายของคนที่พยายามปลุกฆาตกรในตัวเขา และเชื่อว่าคนคนนั้นรู้แต่แรกแล้วว่าเขาเกิดมาพร้อมกับยีนส์นักล่า

อีกทั้งเขาและซองโยฮันก็คือหนูทดลองทั้งคู่ ดร.อี เล่าว่าเมื่อเขารู้ว่าโยฮันไม่ใช่ฆาตกรและต้องการหยุดบารึมแต่มันก็สายเกินไปแล้ว เขาจึงนัดซองโยฮัน และในคืนที่เขาถูกองค์กรโอซีทำร้ายจนเกือบตาย โยฮันเป็นคนช่วยเขาไว้โดยพาไปรักษาที่ห้องใต้ดินที่บ้านจนกระทั่งย้ายไปหลบที่โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นโยฮันจึงร่วมมือกับเขาเมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมด

ดร.อี ยังบอกอีกว่าเขาพยายามหยุดองค์กรนั้นแล้วเมื่อเห็นว่ามีคนตายเพิ่มมากขึ้น บารึมต้องการรู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใครจึงพยายามคาดคั้น ดร.อี ทันใดนั้นเองพีดีชเวมากดกริ่งหน้าบ้าน เขาจึงมัดมือและปิดปาก ดร.อี ไว้ พีดีชเวอ้างว่าจะมาขอสัมภาษณ์ แต่บารึมบอกว่าเขากำลังมีแขกจึงขอเลื่อนเป็นวันอื่น ขณะนั้นเอง ดร.อี หนีออกมาได้ และแอบอยู่ในรถของพีดีชเว ขณะที่บารึมเดินกลับเข้าบ้าน

ดร.อี ขอแวะไปเอารูปถ่ายที่เขาลืมไว้ และบอกพีดีชเวว่าเธอต้องเป็นคนจบเรื่องนี้ให้ได้ ดร.อี ไม่พบรูปถ่ายและถูกองค์กรโอซีจับตัวไป

หลังจากรู้ว่าบารึมคือคนฆ่าคังด๊อกซูและคิดว่าบารึมไซโคปาธ มูจีจึงทำร้ายบารึมเมื่อเจอกันบนโรงพัก ขณะที่ชุลมุนกันอยู่นั้นสายสืบอีแอบล้วงกระเป๋าเสื้อของมูจีและนำเมมโมรี่การ์ดไปทิ้งลงชักโครกเพื่อทำลายหลักฐาน หัวหน้าสั่งสอบสวนทั้งสามคน มูจี บารึมและสายสืบอี แต่ต้องปล่อยตัวทุกคนไปเพราะไม่มีหลักฐาน บารึมสงสัยว่าสายสืบอีเป็นคนขององค์กรโอซีจึงค้นประวัติของเขาแต่ไม่พบข้อมูลอะไร จึงแอบเข้าไปค้นบ้านของเขาและพบมูจีที่นั่น บารึมยอมรับว่าฆ่าคังด๊อกซูเพื่อช่วยบงอี และขอเลิกกับเธอเพราะรู้สึกผิด จากนั้นเขาขอโอกาสจากมูจีเพื่อตามล่าคนที่ฆ่านาชีกุก แล้วเขาจะยอมมอบตัว

บงอีบอกมูจีว่าเด็กที่เคยช่วยชีวิตเธอไว้ก็คือซองโยฮันซึ่งมีจิตใจดี และหากเขาไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าคุณยายของเธอ หลังจากนั้นมูจีจึงค้นหาหลักฐานคดีของซองโยฮันอีกครั้ง และพบเศษกระดาษที่โยฮันเผาทิ้งซึ่งเป็นเอกสารจากห้องทดลองพันธุกรรมมนุษย์ มูจีสงสัยว่าโยฮันเคยติดรูปของบารึมที่ห้องใต้ดินไว้ทำไม

ภรรยาของผู้กองพัคหายตัวไปเพื่อตามหาพีดีชเว เพราะเชื่อว่าพีดีคือลูกสาวของเธอ พลเมืองดีช่วยพาไปที่คอนโดของพีดีจึงได้พบกับจีอึนที่กำลังเลี้ยงอึนชงลูกของเธอในรถเข็นเด็ก ขณะที่เธอออกไปทำรายการนอกสถานที่ จีอึนพยายามโทรติดต่อพีดี เมื่อหันกลับมาอึนชงหายตัวไปพร้อมกับภรรยาของผู้กองพัค ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปส่งภรรยาของผู้กองพัคที่อุ้มเด็กกลับมาด้วย ผู้กองพัคกังวลว่าพ่อแม่ของเด็กจะเป็นห่วง จึงนำเด็กไปคืน แต่ภรรยาของเขาไม่ยอมและพยายามอุ้มเด็กหนีจนถูกรถชน เธอบาดเจ็บสาหัสเพราะพยายามปกป้องอึนชง ผู้กองพัคฝากอึนชงให้ผู้หญิงคนหนึ่งช่วยดูแลไปก่อน ขณะเฝ้าภรรยาที่โรงพยาบาล ผู้กองพัคได้พบกับจีอึนที่กำลังตามหาอึนชง จึงรู้ว่าเด็กคนนี้คือหลานของฮันซอจุน เขาไม่ยอมคืนเด็กให้จีอึนและขู่จะเอาชีวิตเด็ก ถ้าฮันซอจุนไม่ยอมบอกว่าทิ้งศพของลูกสาวของเขาไว้ที่ไหน

บารึมไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและได้พบมิคาเอล่าหรือแจฮีน้องสาวที่หายตัวไป เขาจึงรู้ว่าซงซูโฮคือคนที่บริจาคเงินให้สถานที่แห่งนี้มาโดยตลอดเพราะรู้สึกผิดที่ฆ่ายกครัว นอกจากนั้นโยฮันก็เคยมาหาแจฮีที่นี่และบอกว่าเขารู้สึกเหงาและหวาดกลัวเพราะไม่สามารถคุยกับใครได้ ก่อนโยฮันตาย เขาเคยขอให้คิมจุนซองหาข้อมูลจนกระทั่งรู้ว่ามีองค์กรโอซีที่มีเขาเป็นหนูทดลอง หลังจากคิมจุนซองถูกฆ่าตาย โยฮันจึงพยายามตามฆ่าบารึมเพราะจุนซองคือเพื่อนคนเดียวของเขา

บงอีนึกออกว่าเธอเคยฟันแขนฆาตกรที่ฆ่าบาทหลวงโกมูวอน แต่ไม่มีบันทึกคำให้การของเธอ ทั้งๆ ที่เคยบอกบารึมไปแล้ว เธอไปหาบารึมที่บ้านขณะที่เขากำลังหลับ เธอถลกแขนเสื้อบารึมและเห็นรอยแผลเป็นที่แขนของเขา บงอีตกใจและพยายามจะย่องออกมาแต่บารึมรั้งแขนของเธอไว้ ขณะที่จีอึนไปหาฮันซอจุนที่เรือนจำเพื่อช่วยอึนชงหลานของเธอ ส่วนมูจีเองก็ไปที่โรงอาบน้ำเก่าในเรือนจำเพื่อสืบหาความจริง..