สปอยล์ Mouse ตอนที่ 15

15

เมื่อบารึมลงไปที่ห้องใต้ดินของบ้านเก่าและได้เห็นรูปภาพการฆาตกรรมที่ผ่านมา เขาจึงเริ่มจำได้ว่าที่จริงแล้วไม่ใช่หมอโยฮันที่เป็นคนก่อ แต่เป็นตัวเขาเอง บารึมทั้งรู้สึกผิดและเสียใจ นอกจากเหยื่อรายอื่นๆ แล้ว ทั้งบาทหลวงมูวอน คุณย่าของบงอี ก็ล้วนแต่เป็นการลงมือของเขาทั้งสิ้น แม้กระทั่งเพื่อนรักอย่างนาชีกุกที่เพิ่งฟื้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าฆาตกรต้องเป็นคนในที่ขโมยมีดของคุณย่าบงอีไปฆ่าคังด๊อกซู ในไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิด มูจีเห็นชายคนหนึ่งมีสัญลักษณ์ OZ บนนิ้วมือ ซึ่งเหมือนกับคนที่ตีหัวเขา

ขณะไปเยี่ยมชีกุก บารึมรู้สึกผิดและหวาดระแวงว่าชีกุกอาจจะจำเหตุการณ์ได้ แต่ชีกุกไม่พูดอะไรนอกจากขอกอดบารึม มูจีสังเกตเห็นท่าทางแปลกๆ ของพวกเขาทั้งคู่
บารึมไปที่โบสถ์ที่เขาลงมือฆ่าบาทหลวงมูวอนอย่างโหดเหี้ยม และทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสำนึกผิด เขาคิดว่านี่คือบทลงโทษจากพระผู้เป็นเจ้าที่ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมหันต์

ด้วยความสำนึกผิด บารึมจึงอยากคืนหนูน้อยฮันกุกให้กับแม่ของเขา แต่ทว่าร่างของเด็กไม่ได้อยู่ที่เดิมแล้ว เขาจึงคิดว่า ดร.อี เป็นคนเอาศพไปซ่อน แต่ ดร.อี ไม่รู้เรื่องนี้และขอให้เขาทบทวนอีกทีว่าซองโยฮันซ่อนฮันกุกไว้ที่ไหน บารึมกำลังสับสนว่านอกจากโยฮันแล้ว มีใครอีกที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา

ชีกุกบอกมูจีว่าเขาจำได้ว่าถูกทำร้ายในห้องอาบน้ำ แต่เขาไม่เห็นหน้าคนร้าย มูจีจึงบอกว่าคนร้ายตายไปแล้วและสังเกตว่าชีกุกมีสีหน้าสงสัย ชีกุกมีท่าทางหวาดกลัวเมื่อมูจีเอ่ยถึงชื่อบารึม

เมื่อเห็นแม่ของฮันกุกยังคงตามหาลูกชาย บารึมจึงคิดจะสารภาพกับเธอ แต่จู่ๆ ข่าวด่วนก็ประกาศการเสียชีวิตของฮันกุกที่โรงงานร้างในจังหวัดคยองกี บารึมจึงรีบไปที่เกิดเหตุและสงสัยว่าใครเป็นคนเอาศพเด็กมาทิ้งไว้ที่นี่ มูจีเสียใจที่ช่วยเด็กไม่ได้และโทษว่าเป็นฝีมือของซองโยฮัน ฆาตกรสวมนาฬิกาของชีกุกไว้ที่ข้อมือของฮันกุก

บารึมได้ความทรงจำกลับคืนมาแล้วและคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ ดร.อี บอกว่าถึงอย่างไรบารึมก็เหลือเวลาอีกไม่มาก เพราะฮันซอจุนไม่ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดสมองอย่างที่ทุกคนคิด จากหนูทดลองที่เขาทำวิจัยเมื่อ 21 ปีก่อน ดร.อี เข้าใจผิดมาตลอดว่าซองโยฮันคือนักล่า เพราะเขาเคยตรวจพันธุกรรมตัวอ่อนขณะที่ภรรยาของฮันซอจุนตั้งครรภ์

หลังจากนั้นเขาก็เดินทางกลับประเทศอังกฤษ จนกระทั่งพีดีชเวโทรถามเขาเรื่องไซโคปาธ เขาจึงกลับมาตามหาซองโยฮันซึ่งมีสัญญาณของไซโคปาธอย่างชัดเจน ต่อมาจึงรู้ว่าซองโยฮันคือไซโคปาธจำพวก 1% ที่มีความเป็นอัจฉริยะและจิตสำนึกที่ดี แต่ต้องตายไปอย่างไม่เป็นธรรมและถูกโลกจดจำว่าเป็นฆาตกรนักล่า บารึมจึงคิดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้โยฮัน ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป

พีดีชเวเห็นรอยช้ำที่แขนของลูกชาย เธอจึงติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้าน บารึมหาของบางอย่างไม่เจอ เพราะมันคือหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าเขาคือฆาตกร ไม่ใช่ซองโยฮัน แต่เขาสงสัยว่าโยฮันมีรูปเหยื่อของเขาได้อย่างไร และทำไมจึงไม่แจ้งตำรวจ

บงอีไม่ไปทำงานและปิดโทรศัพท์ หลังจากที่รู้ว่าพีดีชเวมีลูกกับซองโยฮัน เพราะเธอยังเชื่อว่าซองโยฮันคือฆาตกรที่ฆ่าคุณย่า

ในวันที่โยฮันและบารึมต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ โยฮันต้องการไปช่วยหนูน้อยฮันกุกที่ถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินและต้องการฆ่าบารึมเพื่อไม่ให้เขาไปทำร้ายคนอื่นอีก เพราะบารึมเป็นไซโคปาธกลายพันธุ์

บารึมเขียนจดหมายสารภาพทุกอย่างและกำลังจะฆ่าตัวตาย แต่จู่ๆ ก็ได้รับข้อความจากนาชีกุกที่ต้องการพบเขา มูจีตรวจสอบหลักฐานและพบว่าชีกุกถูกทำร้ายในห้องน้ำเรือนจำจริงๆ รอยช้ำและแผลเป็นบนลำตัวเกิดจากการกำมีดและพยายามจะหยุดคนร้าย แต่ทำไมเขาจึงโกหกว่าจำหน้าคนร้ายไม่ได้

ชีกุกอยากใช้ชีวิตกับแม่อย่างมีความสุข จึงขอให้บารึมมอบตัวเพื่อเป็นการสำนึกผิดต่อโยฮันและเหยื่อรายอื่นๆ มูจีกลับไปเยี่ยมชีกุกอีกครั้งและเห็นบารึม มูจีเข้าไปหาชีกุกซึ่งกำลังโคม่าเขารีบตามหมอแต่ทว่าสายเกินไปแล้ว มูจีรีบวิ่งไปเรียกบารึม..