สปอยล์ Mouse ตอนที่ 10
ย้อนไปเมื่อตอนที่ภรรยาของฮันซอจุนท้องแก่ใกล้คลอด เธอเข้าไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล จากนั้นเธอก็ห้ามแม่คนหนึ่งพยายามฆ่าลูกตัวเองและจะฆ่าตัวตายจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ตกตึกตายโดยที่ลูกของเธอยืนมองอยู่ด้านบน เด็กคนนั้นก็คือทนายอูฮยองชอลในปัจจุบัน
บารึมไม่ได้ใช้หินทุบหัวของมูจีตามเสียงของจิตใต้สำนึก แต่เขาใช้หินก้อนนั้นทุบมือตัวเองจนบาดเจ็บ จากนั้นเขาก็ประคองมูจีเข้าไปนอนในบ้าน เช้าวันต่อมามูจีจำอะไรไม่ได้เพราะเมามาก รู้แต่เพียงว่ามีเรื่องชกต่อยกับบารึมเพียงนิดหน่อยเท่านั้น บารึมเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของตัวเองที่เกือบจะฆ่าคนตาย ฮันซอจุนบอกว่าบารึมเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายสมองกลีบหน้าเฉพาะส่วนที่เสียหายเท่านั้น
เมื่อผู้กองพัคดูซอกรู้ว่าร่างในหลุมศพนั้นไม่ใช่พัคฮยอนซู แต่เป็นลูกสาวของจองมันโฮที่ถูกอูแจพิลฆ่า เชาจึงไปถามฮันซอจุนว่าลูกสาวของเขาอยู่ที่ไหน แม้ฮันซอจุนจะรู้ว่าพีดีชเวคือพัคฮยอนซู แต่เขาก็บอกผู้กองพัคเพียงว่าจำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะมันผ่านมานานถึงยี่สิบห้าปี
มูจียังไม่พบเข็มกลัดของคุณยายในห้องเก็บหลักฐานที่บงอีอยากได้กลับคืน จากนั้นเขาก็ไปรับเธอเพื่อให้มาอยู่ที่บ้านของเขาก่อนเพื่อความปลอดภัย บงอีรู้ว่าคังด๊อกซูพ้นโทษออกมาแล้ว แต่เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขามาหาแม่ที่พยองอันซึ่งอยู่ในละแวกบ้านของเธอ เธอยืนกรานว่าจะอยู่ที่นี่และจะไม่หนีอีกต่อไป จากนั้นเธอก็บอกมูจีว่าในคืนที่โดนอูแจพิลทำร้ายนั้น เธอแปลกใจว่ามือของเขาอ่อนนุ่มและสัมผัสได้ถึงโลหะเย็นๆที่นิ้วของเขา ซึ่งไม่น่าจะใช่คนที่เคยทำงานบริษัทขนย้ายที่มือควรจะหยาบกร้านกว่านี้
มูจีและบารึมช่วยกันสืบคดีฮงนารีที่ถูกฆ่าและมัดโดยเงื่อนหลวมๆ พวกเขากำลังสงสัยทนายอูฮยองชอลลูกชายของอูแจพิล มูจีทดลองทำแผนโดยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อและให้บารึมลงมือ ขณะที่บารึมบีบคอมูจีนั้น จิตใต้สำนึกสั่งให้เขาบีบแรงขึ้นๆเรื่อยๆแล้วจะรู้สึกดี แต่ทว่าเสียงนาฬิกาปลุกที่มูจีตั้งไว้ ช่วยชีวิตเขาได้ทัน มูจีบอกบารึมว่าตั้งแต่ผ่าตัดสมอง บารึมก็เปลี่ยนไปราวกับอ่านความคิดของฆาตกรได้หมด ต่อมาบารึมและมูจีไขปริศนาคดีฆาตกรรมฮงนารีได้ อูฮยองชอลจึงถูกจับกุม ต่อมาได้รับการปล่อยตัวเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
บารึมอยากได้รับการผ่าตัดสมองอีกครั้ง เพราะไม่ต้องการให้โยฮันยึดความเป็นตัวตนของเขาไป แต่หมอบอกว่าไม่สามารถผ่าตัดได้อีก หลังจากนั้นเขาก็ไปหาบงอีด้วยท่าทางซึมเศร้าและวิตกกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง บงอีจึงปลอบใจเขา บงอีถามมูจีเรื่องของบารึม มูจีจึงบอกว่าช่วงหลังๆ ดูเหมือนบารึมไม่ค่อยสบายและอ่อนไหวเท่านั้นเอง
บารึมไปอธิษฐานที่โบสถ์เพื่อขอให้พระผู้เป็นเจ้าปกป้องเขาไม่ให้เป็นปีศาจเหมือนโยฮัน เกิดเหตุคดีฆาตกรรมนักเรียนหญิงในย่านพยองอัน ซึ่งรูปแบบการฆ่าเหมือนกับโยฮันที่ใช้นิ้วและเลือดของเหยื่อวาดรูปไม้กางเขน บารึมไปที่เกิดเหตุและได้กลิ่นมินต์อีกครั้ง จึงขออนุญาตมูจีดูรูปห้องใต้ดินที่บ้านหมอโยฮัน และคลิปวิดีโอที่คนร้ายถ่ายทอดสดในคดีหนูน้อยคิมฮันกุก บารึมกำลังคิดว่าหมอโยฮันไม่ใช่ฆาตกร และกลีบสมองในหัวของเขาก็ไม่ใช่สมองของฆาตกรเช่นกัน เพราะจากคลิปวิดีโอที่เห็นนั้น ไม่ใช่ห้องใต้ดินที่บ้านของโยฮัน แต่มูจีไม่เห็นด้วย
เมื่อได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวผูกคอตาย บารึมได้กลิ่นมินต์ในที่เกิดเหตุและนิ้วกลางของศพยังคาอยู่ที่เชือก นอกจากนั้นยังพบสร้อยคอของบาทหลวงโกมูวอนและเข็มกลัดของคุณยายติดอยู่ที่เสื้อผ้าของศพ หลังจากบารึมแจ้งเจ้าหน้าที่นัมยุนบอมและคนอื่นๆ เมื่อกลับมาอีกครั้งปรากฏว่าทั้งสร้อยคอและเข็มกลัดได้หายไปแล้ว จึงไม่มีใครเชื่อว่าบารึมได้เห็นสิ่งของเหล่านั้นจริง และคิดว่าเป็นอาการทางสมองของเขาที่หมกมุ่นเรื่องโยฮันมากเกินไป ในกระเป๋าถือของเหยื่อ มูจีพบนามบัตรร้านหมอนวดที่เขาเคยเห็นมันตกอยู่ในสำนักงานของอูฮยองชอล เขาเชื่อว่านี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตายแต่เป็นคดีฆาตกรรม
บารึมบอกตัวเองว่าต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่าสมองใหม่ของเขาไม่ใช่ของฆาตกร ขณะที่มูจีเริ่มสืบเกี่ยวกับอูฮยองชอล ซึ่งเกี่ยวข้องกับพัคฮเยวอนและคิมยองฮีที่หายตัวไปและเคยเป็นเพื่อนกับบยอนซุนยองซึ่งเป็นเหยื่อในคดีเมื่อหลายปีก่อน อูฮยองชอลไปขอวิตามินเสริมธาตุเหล็กจากหมอที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน และเห็นพีดีชเวอุ้มลูกไปหาหมอ
สายสืบชินแปลกใจที่บารึมสามารถอธิบายลักษณะการตายของเหยื่อและกายวิภาคของมนุษย์ได้อย่างคล่องแคล่วราวกับแพทย์ ทั้งๆที่เขาไม่ได้เรียนมหาวิทยาลับและจบเพียงมัธยมเท่านั้น
มูจีไปยี่ยมจองมันโฮเพื่อบอกความจริงว่า อูแจพิลไม่ใช่ฆาตกรแต่เขายอมรับผิดแทนลูกชายอูฮยองพิล เมื่อมูจีได้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของอูฮยองชอล เขาจึงไปสอบปากคำชางซูซึ่งเป็นลุงของอูฮยองชอล มูจีสงสัยหลุมศพที่มีดอกไม้ปลกคลุมอยู่ เมื่อขุดดูจึงพบอาวุธมีดและศพผู้หญิงถูกฝังอยู่
ดงกูไม่สามารถติดต่อแฟนสาวได้ เพราะใกล้จะถึงวันแต่งงานของพวกเขาแล้ว บารึมและดงกูจึงรีบไปหาเธอที่ห้อง เพราะบารึมจำได้ว่าฆาตกรจะฆ่าเหยื่อผู้หญิงที่เลวทรามในสายตาของเขา และครั้งหนึ่งอูฮยองชอลก็เคยร่วมโต๊ะอาหารกับพวกเขาและรับรู้เรื่องราวของคิมซึลกีแฟนของดงกู ฮยองชอลกำลังจะฆ่าซึลกี แต่บารึมไปช่วยได้ทันและไล่ล่าฮยองชอล
บารึมเสียท่าถูกจับมัดอย่างหลวมๆ และพยายามหลอกถามฮยองชอล เขายอมรับว่าฆ่าเหยื่อหลายรายที่มีพฤติกรรมเลวทรามเหมือนกับแม่ที่ถูกเขาฆ่าตาย เพราะรู้ว่าแม่คบชู้และมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง นอกจากนั้นแม่ของเขายังเอาเส้นผมไปให้ ดร.แดเนียลอี ซึ่งระบุว่าเขาเป็นไซโคปาธ แต่ฮยองชอลไม่ยอมรับว่าเขาฆ่าคุณยาย เมื่อหลุดจากเชือกได้ บารึมชกหน้าฮยองชอลรัวๆ ขณะที่ต่อสู้กันนั้น ภาพการฆ่านักมวยและคุณยายก็ผูดขึ้นในหัว บารึมจึงรู้ว่าเป็นฝีมือของโยฮัน จากนั้นจิตใต้สำนึกก็สั่งให้เขาบีบคอฮยองชอลแรงๆ จนหมดสติไป บารึมคิดว่าฮยองชอลคงตายแล้ว จากนั้นเขาก็เห็นภาพหมอโยฮันยืนอยู่ตรงหน้าและถามว่ารู้สึกตื่นเต้นไหมที่ได้ฆ่าคน