สปอยล์ Lovers of the Red Sky ตอนที่ 9

9

ชอนกีตกใจเมื่อเห็นกรงเล็บแหลมคมของฮารัมและกำลังเข้าทำร้ายนาง พยัคฆีเข้ามาสะกดทุกอย่างให้หยุดนิ่งและรวบรวมพลังจากรูปปั้นสรรพสัตว์ทั้งหลายบริเวณนั้นส่งพญามารกลับไปผนึกยังที่เดิม ขณะที่ฮารัมยังคงนอนหมดสติ

บ่าวรับใช้มันซูทูลองค์ชายยังมยองว่าเหตุการณ์นี้คล้ายกับตอนที่ฮารัมหมดสติในเกี้ยวและเมื่อฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ องค์ชายยังมยองตั้งพระทัยว่าจะพาฮารัมไปสำนักตรวจการเพื่อหาความผิดปกติในตัวเขา แต่ชอนกีแย้งว่านางเคยเจอเหตุการณ์ประหลาดที่ตำหนักโคฮวาวอนเช่นกัน จึงอยากให้องค์ชายตรวจสอบสถานที่นั้นก่อน ชอนกีอยู่เฝ้าฮารัมทั้งคืนและใช้ผ้าเช็ดหน้าของเขาเช็ดหน้าและพันแผลที่คอให้จนกระทั่งนางรู้สึกง่วงและหลับไป ยายซัมชินปรากฏตัวและนำสร้อยคอรูปผีเสื้อใส่ไว้ในมือของฮารัมเพื่อรักษาอาการของเขาแม้จะเป็นการกักขังพญามารได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นก็ตาม จนกว่าดวงตาที่มีญาณของชอนกีจะเบิกกว้างและสร้างถ้วยโถที่ผนึกพญามารไว้ได้ชั่วนิจนิรันดร์

เช้าวันต่อมาชอนกีจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฮารัมฟังและบอกว่าเขาเหมือนถูกอะไรบางอย่างเข้าสิง ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงเข้ม มีเล็บงอกออกมาและแรงเยอะราวกับสัตว์ประหลาด แต่ฮารัมคิดว่านางฝันไป ฮารัมดีใจที่ชอนกียังเก็บผ้าเช็ดหน้าของเขาไว้จนถึงตอนนี้ มูยองได้ข้อมูลเกี่ยวกับพญามารจึงบอกฮารัมว่ามันเป็นวิญญาณร้ายที่ทรงพลังและเคยมีพิธีผนึกวิญญาณซึ่งเกี่ยวข้องกับภาพเหมือนของพระเจ้ายองจง ฮารัมอยากรู้เรื่องพญามารมากกว่านี้จึงวางแผนจะไปพบกับองค์ชายจูฮยางในฐานะอิลวอลซอง

ร่างทรงมีซูทูลองค์ชายจูฮยางว่าตอนนี้พลังของพญามารถูกข่มไว้โดยเหล่าทวยเทพจากรูปสลักสัตว์ที่อยู่ในพระราชวัง อันยองฮเวทูลขอให้องค์ชายทรงรออีกสักพักจนกว่าการบูรณะภาพเหมือนจะสำเร็จ เพราะเขาแน่ใจว่าฝ่าบาททรงรู้ว่าพญามารอยู่ที่ไหน มิเช่นนั้นคงไม่มีราชโองการให้บูรณะภาพนั้น

องค์ชายยังมยองตัดสินพระทัยแล้วว่าจะพาฮารัมไปที่สำนักตรวจการและขอให้เขาอยู่ห่างจากชอนกีไว้ก่อนเพราะในคืนนั้นพระองค์ทรงทราบว่าฮารัมทำร้ายนางจนมีรอยฟกช้ำ ขณะที่ชอนกีกำลังวาดภาพ นางเห็นพยัคฆีที่ออกมาจากภาพวาดและวิ่งเล่นวนเวียนอยู่ในห้องซึ่งบอกว่าได้ช่วยชีวิตนางไว้และขอให้ตัดขาดจากพญามารได้แล้ว พยัคฆีอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับชอนกีแม้จะต้องถูกยายซัมชินดุเอาก็ตาม ชอนกีไม่เข้าใจว่าพยัคฆีพูดถึงอะไร แต่จู่ๆ พยัคฆีก็หายตัวไปเมื่อบัณฑิตจูบูจางเดินเข้ามา แต่ชอนกียังคงได้ยินเสียงที่บอกว่าอีกไม่นานดวงตาของนางก็จะกลับคืนสู่เจ้าของที่แท้จริง

พระเจ้าซองโจทรงเล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับพญามารให้องค์ชายยังมยองฟัง และมีรับสั่งให้องค์ชายรับผิดชอบงานบูรณะภาพวาดให้สำเร็จลุล่วงให้ได้ ฮงอึนโออาการดีขึ้นบ้างหลังจากที่กินยาชองชิมวอน จนกระทั่งชอนกีเล่าให้พ่อฟังว่านางกำลังจะวาดภาพเหมือนกษัตริย์ที่โคฮวาวอน ทำให้อาการหวาดกลัวและฟั่นเฟือนของเขากำเริบขึ้นมาอีกครั้ง อาจารย์ชเววอนโฮจึงเตือนนางไม่ให้วาดภาพกษัตริย์โดยเด็ดขาด

เช้าวันต่อมาฮารัมรู้สึกได้ว่าเสียงของชอนกีไม่ค่อยสดใส เมื่อรู้ว่านางกลุ้มใจเรื่องการวาดโครงสร้างใบหน้าคน เขาจึงพานางไปเรียนรู้จากซินแสโหงวเฮ้งคนหนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็ไปเล่นว่าวด้วยกัน ฮารัมมอบแหวนหยกให้ชอนกีซึ่งเป็นแหวนที่ท่านพ่อเคยมอบให้ท่านแม่ของเขาและมีวงเดียวเท่านั้นในโลกนี้ เขาขอให้นางเก็บรักษาแหวนวงนี้ไว้ให้นานกว่าเก็บผ้าเช็ดหน้า จากนั้นฮารัมก็บอกรักนางและไม่ต้องเป็นห่วงหากเขาต้องไปสำนักตรวจการหลายวัน

ขณะที่องค์ชายยังมยองทรงบอกชอนกีว่านางคือจิตรกรผู้ถูกเลือกและทรงเล่าเรื่องพญามารให้ฟัง พระเจ้าซองโจเสด็จมาและทรงบอกกับนางว่าจะใช้ภาพนั้นผนึกพญามารตนนี้ไว้ เพราะตอนนี้พญามารอยู่ใกล้ตัวเรา

องค์ชายจูฮยางไปพบอิลวอลซองที่สวมหน้ากาก เมื่อเขาชวนพระองค์เล่นหมากล้อม องค์ชายทรงสังเกตว่ากระดานหมากล้อมเป็นแผ่นนูนซึ่งใช้กับคนตาบอด จึงทรงสงสัยว่าอิลวอลซองและฮารัมอาจะเป็นคนเดียวกัน ฮารัมแนะนำองค์ชายให้กำจัดคนรอบตัวที่ผูกพันธ์หากพระองค์ทรงประสงค์จะขึ้นเป็นกษัตริย์ ซึ่งองค์ชายจูฮยางทรงคิดว่าหมายถึงองค์ชายยังมยอง แผนการของฮารัมในครั้งนี้เพื่อล้มล้างราชวงศ์ที่เขาต้องการแก้แค้นมาโดยตลอด ฮารัมถามถึงเหตุผลที่องค์ชายทรงตามหาพญามาร พระองค์จึงทรงบอกว่าต้องการขึ้นครองบัลลังก์เพื่อกำจัดคนที่ไม่ภักดีต่อราชวงศ์และขอให้ฮารัมลงเรือลำเดียวกับพระองค์ จากนั้นองค์ชายจูฮยางทรงพูดถึงบัณฑิตฮาที่ตอนนี้พญามารอยู่ในร่างของเขา