สปอยล์ Lovers of the Red Sky ตอนที่ 3
เมื่อพญามารในตัวฮารัมตื่นขึ้น และมุ่งหน้าไปที่ชอนกีเมื่อรู้ว่าดวงตาอยู่ที่นาง มันซูรีบมาแจ้งบัณฑิตจางที่วังหลวงหลังจากที่เห็นเหตุการณ์และฮารัมหายตัวไปจากเกี้ยว ในขณะที่พระเจ้าซองโจมีรับสั่งให้รีบตามฮารัมกลับมา เพราะพระองค์ทรงมีเรื่องจะปรึกษาหลังจากเห็นนกฮูกจำนวนมากยืนเกาะที่หลังคา พระองค์ทรงเกรงว่าอาจจะมีลางร้ายเกิดขึ้น
ชอนกีรอดพ้นเงื้อมมือของพญามารเพราะยายซัมชินช่วยเหลือโดยการทำให้นางหลับไปชั่วครู่และพรางตาพญามารเอาไว้ เมื่อตื่นขึ้นมาชอนกีจึงรีบร้อนกลับ พญามารจึงตามกลิ่นไปและได้ปะทะกับพยัคฆีเทพเจ้าผู้พิทักษ์เขาอินวัง พยัคฆีตรึงพญามารไว้บนต้นไม้ ยายซัมชินตามมาช่วยผนึกพญามารไว้ในร่างของฮารัม หากฮารัมตายไปพญามารก็จะเป็นอิสระอีกครั้ง จนกว่าสักวันหนึ่งชอนกีจะทำถ้วยโถนิรันดร์ได้ จึงสามารถผนึกพญามารไว้ในนั้นได้ตลอดกาล เพราะนางคือทายาทแห่งโชคชะตา ยายซัมชินจึงสั่งให้พยัคฆีดูแลปกป้องทั้งฮารัมและชอนกี
ฮารัมตกจากต้นไม้และสลบไป ชอนกีจึงแบกฮารัมไปดูแลที่เรือนย้อมบนเขา ฮารัมกระสับกระส่ายเพราะฝันถึงเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตจนน้ำตาไหลออกมา ชอนกีจึงช่วยเช็ดน้ำตาให้เขา
ขณะที่องค์ชายยังมยองกำลังชื่นชมภาพวาดอยู่กับอันกยอน พระองค์ทรงจับได้ว่าเป็นภาพเลียนแบบที่ฝีมือแนบเนียนมาก เมื่อพระเจ้าซองโจมีรับสั่งให้องค์ชายยังมยองออกตามหาฮารัมเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน องค์ชายจึงสั่งให้อันกยอนตามหาจิตรกรคนนั้น
องค์ชายจูฮยางทรงรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฮารัมในคืนเหมายัน พลทหารตายเป็นจำนวนมากและมีฝูงนกฮูกกู่ร้องที่วังหลวงในคืนเกิดเหตุ ร่างทรงมีซูจึงทูลว่าถือเป็นลางร้ายที่ต้องทำพิธี
เช้าวันต่อมาชอนกีนั่งมองฮารัมที่ยังคงหลับอยู่อย่างชื่นชม ทั้งใบหน้าที่งดงามและอาภรณ์อย่างดีที่เขาสวมใส่ซึ่งบ่งบอกถึงฐานะ เมื่อฮารัมตื่นขึ้นมา ชอนกีจึงบอกว่านางคือจิตรกรที่ขอหลบในเกี้ยวของเขาและพาเขาขึ้นมาพักรักษาที่เรือนย้อมบนเขาอินวัง ฮารัมรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงและคำพูดของนาง รูปผีเสื้อกลับมาปรากฏที่ต้นคอของฮารัมดังเดิม แต่เขาจำเหตุการณ์ไม่ได้และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชอนกีเองก็ไม่รู้เหมือนกัน นางรู้เพียงว่าเห็นเขาหมดสติอยู่ข้างทางและไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย อาการของฮารัมยังไม่ดีนักและเขายังคงปวดหัวมากจนสลบไปอีกครั้ง
ชอนกีจึงรีบวิ่งลงจากเขาเพื่อไปขอความช่วยเหลือที่สมาคมจิตรกรแบคยู แต่อาจารย์ชเววอนโฮลงโทษนางที่หายไปทั้งคืนด้วยการขังนางไว้และสั่งให้วาดรูปให้เสร็จก่อนพลบค่ำ แม่หญิงคยอนจูซึ่งเป็นแม่ครัวของสมาคมจิตรกรรับปากชอนกีว่าจะพาหมอฝังเข็มไปช่วยฮารัมที่เรือนย้อมเพราะคิดว่าชอนกีชอบเขาจริงๆ
ฮารัมฟื้นขึ้นมาและคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขาพบกับแม่หญิงที่มีกลิ่นน้ำหมึกติดตัว หลังจากที่ลงจากเกี้ยวแล้ว นางก็ควรเข้าเมืองแต่กลับพาเขามารักษาตัวที่นี่ เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาเสียท่านพ่อไป ความทรงจำที่หายไปของเขาและแม่หญิงที่คล้ายกับชอนกี แต่ทำไมความทรงจำในสวนลูกท้อจึงทับซ้อนกับแม่หญิงคนนี้ขึ้นเรื่อยๆ
ฮารัมส่งสัญญาณผิวปาก ทำให้มูยองที่กำลังขี่ม้าออกตามหาไปตามเสียงนั้น
ร่างทรงมีซูดูศพทหารที่ตายไปจึงรู้ว่าเป็นฝีมือของพญามาร นางกำชับทหารที่เฝ้าบริเวณนั้นให้ปิดปากว่าองค์ชายจูฮยางเสด็จมาด้วย โดยอ้างว่านี่เป็นราชโองการลับ จากนั้นกลุ่มขององค์ชายและร่างทรงมีซูก็ออกสำรวจต่อไป
องค์ชายยังมยองเริ่มออกเดินทางตามหาฮารัมพร้อมกับสุนัขดมกลิ่นโดยมีมันซูเป็นผู้นำทาง เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุที่มีศพพลทหารกองอยู่ องค์ชายได้รับรายงานว่าสภาพศพไม่มีรอยแทงจากหอกหรือดาบ มีเพียงเนื้อที่ฉีกขาดและรอยไหม้บางส่วนราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์และผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวก็คือบัณฑิตจางอุคจินแห่งซอมุนกวาน องค์ชายยังมยองมีพระบัญชาให้ตามฮารัมให้เจอก่อนจะพลบค่ำ สุนัขขององค์ชายได้กลิ่นอะไรบางอย่าง
ชอนกีและแม่หญิงคยอนจูกำลังวิ่งขึ้นเขาไปช่วยฮารัม ขณะเดียวกับที่มูยองขี่ม้าไปถึงที่นั่นก่อนและบอกฮารัมว่าตอนนี้องค์ชายยังมยองและสุนัขดมกลิ่นกำลังออกตามหาเขาเช่นกัน มูยองพาม้าคู่ใจไปหลบซ่อนตัวเมื่อชอนกีไปถึง นางดีใจที่เห็นฮารัมฟื้นแล้วและบอกว่านางลงไปตามหมอ แต่ฮารัมบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ฮารัมต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อรู้ว่าชื่อของนางเหมือนกับเด็กในสวนลูกท้อเมื่อสิบเก้าปีก่อน