สปอยล์ Lovers of the Red Sky ตอนที่ 12

12

เมื่อฮารัมจับมือชอนกี ทั้งคู่จึงได้เห็นตัวตนของพญามารซึ่งกำลังจะครอบงำฮารัม ตอนนั้นฮารัมกลับมามองเห็นและได้เห็นหน้าชอนกีเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาตาบอด พญามารพยายามแย่งดวงตาคืนจากชอนกี ชอนกียกมือขึ้นปิดหน้าและพลังของแหวนวงนั้นได้ช่วยนางไว้ หลังจากนั้นฮารัมก็หมดสติไป ชอนกีส่งเสียงร้องด้วยความเป็นห่วงและตกใจ องค์ชายยังมยองจึงรีบเสด็จเข้ามาและขอให้ชอนกีออกไปก่อน นักโทษชราใช้มนต์รักษาฮารัมให้เป็นปกติโดยไม่มีใครรู้ แหวนที่ชอนกีสวมอยู่นั้นเป็นเศษเสี้ยวของพลังเทพที่ช่วยควบคุมจิตใจของฮารัมให้เป็นปกติแม้ขณะที่พญามารสิงร่างอยู่ก็ตามและเป็นสิ่งเดียวที่จะต่อกรกับพญามารได้ จนกว่าจะถึงวันพิธีปิดผนึก

ชอนกีตั้งใจวาดภาพกษัตริย์ให้เสร็จทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องเสี่ยงอันตรายเหมือนกับพ่อ นางบอกกับองค์ชายยังมยองว่ารักฮารัมมากและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้พญามารออกจากร่างของเขา

องค์ชายจูฮยางไม่พอพระทัยเมื่อรู้ว่าพระเจ้าซองโจจะทรงแต่งตั้งองค์ชายยังมยองให้เป็นองค์รัชทายาทแทนองค์เดิมที่กำลังประชวรหนัก จึงรับสั่งกับร่างทรงมีซูและอันยองฮเวให้กรีดท้องฮารัมเพื่อนำพญามารออกมาให้ได้ จองซอนรเยกราบทูลองค์ชายจูฮยางว่าอิลวอลซองคือฮารัม

องค์ชายยังมยองเสด็จไปเยี่ยมฮารัมและพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาไปร่วมพิธีปิดผนึก แต่ทันใดนั้นเองฮารัมทูลองค์ชายให้หลบไปซ่อนตัวก่อนเพาะเขาได้กลิ่นเลือด ซึ่งองค์ชายจูฮยางกำลังเสด็จเข้ามาพอดีและขอพญามารจากฮารัม โดยอ้างว่าเขาจะได้เป็นอิสระเพราะไม่เช่นนั้นหลังจากเสร็จพิธีปิดผนึก ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็จะต้องตายอยู่ดี องค์ชายยังมยองทรงได้ยินทุกอย่างที่องค์ชายจูฮยางตรัสกับฮารัมและเรียกเขาว่าอิลวอลซอง องค์ชายยังมยองเข้ามาขัดขวางเมื่อองค์ชายจูฮยางต้องการชิงตัวฮารัมไป ทั้งคู่จึงโต้เถียงกัน

องค์ชายจูฮยางทรงต่อว่าองค์ชายยังมยองที่กำลังแย่งตำแหน่งของพระองค์ไป ทันใดนั้นฝ่าบาทก็เสด็จมาพอดีเพราะทรงทราบว่าองค์ชายจูฮยางมาตามหาพญามารในร่างของฮารัม จากนั้นพระองคจึงทรงคุยกับองค์ชายจูฮยางเป็นการส่วนพระองค์ องค์ชายจูฮยางทรงตัดพ้อที่ตนเองไม่ได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทและฝ่าบาทก็ทรงมอบหมายงานบูรณะภาพเหมือนให้องค์ชายยังมยองดูแล พระเจ้าซองโจไม่พอพระทัยกับนิสัยขององค์ชายจูฮยางและตรัสว่าจะเนรเทศไปอยู่เกาะเชจู จากนั้นพระองค์ก็ทรงกระอักเลือดและหมดสติไป หมอหลวงทูลองค์ชายจูฮยางว่าฝ่าบาททรงเป็นโรคตับมานานแล้วและเหลือเวลาอีกไม่มากนัก องค์ชายจูฮยางทรงคิดจะยึดตำแหน่งองค์รัชทายาทเสียเองเพราะฝ่าบาทยังมิได้ทรงแต่งตั้งองค์ชายยังมยองอย่างเป็นทางการ

ชอนกีไม่กลัวว่าตนเองจะต้องเสียสติหรือตายหลังจากวาดภาพเสร็จ ขอเพียงได้ช่วยฮารัมให้ปลอดภัยจากพญามารก็เพียงพอแล้ว ฮารัมวางแผนการในใจเมื่อรู้ว่าพระเจ้าซองโจทรงหมดสติและความโกลาหลกำลังใกล้เข้ามา จากนั้นเขาก็จะส่งต่อพญามารให้องค์ชายจูฮยางและช่วยชอนกีให้ปลอดภัย

องค์ชายยังมยองไม่เห็นด้วยที่องค์ชายจูฮยางจะปล่อยตัวฮารัม เพราะพระองค์ทรงทราบดีว่าองค์ชายจูฮยางทรงต้องการพญามารซึ่งจะทำให้บ้านเมืองพังพินาศไปด้วย เหล่าขุนนางส่วนใหญ่เห็นสมควรที่จะให้องค์ชายจูฮยางเป็นองค์รัชทายาท แม้ส่วนน้อยจะไม่เห็นด้วยเพราะรู้ว่าฝ่าบาททรงมีพระประสงค์จะแต่งตั้งองค์ชายยังมยอง แต่ทรงพระประชวรกะทันหันเสียก่อน องค์ชายจูฮยางวางแผนจะชิงพญามารให้ได้เสียก่อนที่จะมีพิธีปิดผนึก

องค์ชายยังมยองเสด็จไปที่กองตำรวจและเห็นฮารัมกำลังได้รับการปล่อยตัวตามคำสั่งขององค์ชายจูฮยาง องค์ชายจูฮยางทรงสั่งให้องค์ชายยังมยองเร่งพิธีปิดผนึก โดยที่พระองค์จะเป็นคนควบคุมพิธีเอง ชอนกีกังวลใจเมื่อรู้ว่าพระเจ้าซองโจทรงหมดสติ เพราะจะไม่มีผู้ใดทำพิธีในวันปิดผนึก นางแอบเห็นฮารัมได้รับการปล่อยตัวและกำลังจะไปพักที่ตำหนักขององค์ชายจูฮยางจนกว่าจะถึงวันพิธี ขณะที่ฮารัมบอกตัวเองว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องพญามารอีกต่อไป เพราะตอนนี้ราชวงศ์กำลังโกลาหลและเขาตั้งใจที่จะแก้แค้นให้สำเร็จ

ชอนกีแอบอยู่ในเกี้ยวของฮารัมซึ่งกำลังเดินทางไปตำหนักขององค์ชายจูฮยาง โดยที่องค์ชายทรงม้านำหน้าขบวน ชอนกีบอกฮารัมว่านางกังวลใจเรื่องพิธีปิดผนึกเพราะฝ่าบาททรงหมดพระสติอยู่ แต่ฮารัมบอกว่าถึงอย่างไรพิธีก็จะต้องถูกจัดขึ้น ทันใดนั้นเองคนแบกเกี้ยวสะดุดลื่นทำให้เกี้ยวเสียหลัก องค์ชายจึงสั่งให้หยุดเกี้ยวและสงสัยบางอย่าง พระองค์ทรงแทงดาบเข้าไปในเกี้ยวและสั่งให้ฮารัมเปิดประตูออกมา