สปอยล์ The Law Cafe ตอนที่ 4
ยูริพบศพสุนัขนูรุงกีและรอยเลือดในคาเฟ่ของเธอ ตำรวจสันนิษฐานว่ามันถูกฆ่าจากข้างนอกและลากเข้ามาในร้าน กล้องวงจรปิดทุกตัวไม่ทำงานซึ่งคาดว่าคนร้ายวางแผนมาอย่างดี
ในคืนนั้นจองโฮพายูริไปนอนพักที่บ้านของเขา เธอตื่นขึ้นมาในตอนบ่าย และพบชุดวอร์มกับกระดาษโน๊ตที่จองโฮวางไว้ให้ซึ่งเขาบอกว่าออกไปโรงพักและขอให้เธอไม่ต้องออกไปไหน ยูริลงไปที่คาเฟ่ของเธอชั้นล่าง พนักงานที่ร้านและเพื่อนบ้านช่วยกันเก็บกวาด ซออึนกังเดินผ่านผนังอิฐที่ถูกทุบเป็นโพรงและขึ้นไปที่ชั้นสอง เขาไม่พบสิ่งผิดปกตินอกจากตุ๊กตาผ้าและนำมาให้ยูริ
จองโฮกลับมาและขอให้เธอกลับขึ้นไปพักผ่อนที่บ้านของเขาต่ออีกสองสามวัน แต่ยูริไม่ต้องการรบกวนและอยากทำตามข้อตกลงที่ว่าจะไม่วุ่นวายกับเขา แต่จองโฮอ้างว่าเป็นห่วงเพราะเธอเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ขณะที่ทั้งคู่ถกเถียงกันต่อหน้าคนอื่นที่แอบลุ้นความสัมพันธ์ของพวกเขา ยูริจึงท้าทายให้เขานอนเตียงเดียวกับเธอและห่มผ้าด้วยกัน แม่ของยูริมาถึงและได้ยิน ถึงแม้ว่าแม่ของยูริจะรู้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ก็แอบลุ้นให้ทั้งคู่คบกันจริงๆ แต่จองโฮยืนกรานว่าไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด
ยูริมีน้องชายต่างพ่อหนึ่งคนและเธอก็เชื่อว่าสามีใหม่ของแม่เป็นคนดี พวกเขาอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปีหลังจากที่พ่อตาย แม่ของยูริยังสวมแหวนที่พ่อให้ไว้เพื่อรักษาสัญญาว่าจะใช้ชีวิตให้มีความสุขไปตลอดชีวิต
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคาเฟ่ของยูริเป็นฝีมือของลูกน้องประธานอีพยอนอุงที่ต้องการข่มขู่ นอกจากนั้นเขายังสืบรู้มาว่ายูริคือลูกสาวของหัวหน้าคนงานโกดังโดฮันที่ถูกไฟไหม้และเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน
ยูริออกไปเดินเล่นกับหมอพัคและเล่าให้เขาฟังว่าเธอเห็นเด็กผู้หญิงในกระจกเงาข้างครัวที่คาเฟ่ซึ่งมีท่าทางหวาดกลัวเธอ ขณะที่ในคาเฟ่ของเธอมีมือลึกลับจากใต้เคาน์เตอร์ยื่นมาหยิบกระเป๋าสตางค์ที่ยูริลืมไว้
หมอพัครับปากว่าจะให้ร่างทรงมาดูให้ จองโฮไปนอนค้างที่บ้านของยูริโดยบอกว่าไม่อยากปล่อยเธอไว้คนเดียว ถึงแม้ยูริจะบอกว่ามันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงก็ตาม จองโฮอุ้มยูริไปที่โซฟาเมื่อเห็นเธอเดินเตะขาโต๊ะอย่างแรงจนเล็บแตก ยูริไม่เข้าใจเหตุผลที่เขาทำดีและดูแลเธอในยามที่ลำบากทุกครั้ง เธอจึงบ่นออกไปว่าหากเขาแตะต้องตัวเธอหรือทำดีกับเธออีก เขาจะต้องเสียใจภายหลัง จองโฮเขยิบหน้าเข้าไปใกล้ๆ และถามด้วยรอยยิ้มแกมหยอกว่าเธอจะทำอย่างไร
ซงฮวาพาเพื่อนบ้านยังซูอินมารับคำปรึกษาจากยูริ ซูอินบอกว่าเธอกำลังถูกผู้ชายข้างห้องสะกดรอยด้วยการยืนมองทางหน้าต่างขณะที่พาลูกไปโรงเรียนและแอบถ่ายรูปเธอ ซึ่งเธอคิดว่าสามีเป็นผู้ว่าจ้างเพราะเธอกำลังทำเรื่องฟ้องหย่ากับเขา ต่อมาผู้ชายคนดังกล่าวไปหายูริและเล่าความจริงถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของซูอิน นอกจากจีอาที่เป็นลูกสาวคนเล็กของเธอแล้ว ยังมีเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งถูกขังอยู่ในห้องนั้น เขาถ่ายรูปเด็กคนนั้นไว้ซึ่งเธอมักจะถือตุ๊กตาผ้าและหนีออกมาในตอนกลางคืน ยูริจำได้ว่าเด็กคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่เธอเห็นในคาเฟ่ จากนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงไปแจ้งความที่โรงพักและพาเจ้าหน้าที่ไปค้นห้องของซูอินแต่ไม่พบเด็กคนดังกล่าวที่ชื่อว่าซูอา ซูอินอ้างว่าเธอทำโทษซูอาที่ชอบขโมยเงินแต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน จองโฮเปิดตู้ขนาดเล็กและพบที่นอนของซูอาพร้อมกับสายจูงจักรยานที่เธอถูกล่ามไว้ที่ระเบียง เมื่อซูอินรู้ว่าเจ้าหน้าที่กำลังเรียกพ่อของเด็กมารับจีอา เธอจึงอาละวาดและโทษว่าเป็นความผิดของยูริ ซูอาถือมีดจะเข้าไปทำร้ายยูริแต่จองโฮเข้าไปช่วยจนแขนของเขาได้รับบาดเจ็บ ซูอินเคยมีประวัติต้องโทษทารุณกรรมเด็กเมื่อสามปีก่อน ในตอนนั้นลูกของเธอถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวพ่อแม่บุญธรรม
หนูน้อยจีอาบอกกับยูริว่าเธอรู้ว่าพี่สาวเธออยู่ที่ไหน แต่ถ้าเธอบอกใคร ซูอาก็จะต้องกลับมาและถูกแม่ทำโทษต่อไป ยูริพาจีอาไปคุยกับหมอพัค เธอจึงยอมบอกว่าซูอาต้องหาเงินเพื่อเดินทางไกลไปหาลุงที่ใจดีและจะกลับมารับเธอ ยูริจึงแน่ใจว่าซูอาคือคนที่ขโมยกระเป๋าสตางค์ของเธอไป เมื่อตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตแล้วจึงรู้ว่าสถานที่นั้นอยู่ใกล้กับบ้านพ่อแม่บุญธรรมของซูอาซึ่งตอนนี้พวกเขาย้ายไปแล้ว จองโฮและเจ้าหน้าที่จึงรีบตามยูริไปที่ละแวกนั้นเพื่อตามหาซูอาแต่ก็ไม่พบ
จนกระทั่งพวกเขากลับมาและพบซูอากำลังขโมยของกินอยู่ที่คาเฟ ซูอาคืนกระเป๋าสตางค์ให้ยูริพร้อมกับขอโทษ แต่ยูริไม่ได้โกรธเคืองและพูดปลอบใจซูอาด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ ยูริรับปากว่าจะพาซูอาและจีอาไปอยู่ด้วยกันในที่ที่ปลอดภัยและมีความสุข ต่อมาพ่อแม่บุญธรรมของซูอาก็มารับเธอ
หลังจบเรื่องของซูอา ยูริสวมกอดจองโฮเพราะไม่ต้องการให้เขาเป็นทุกข์หรือถูกรบกวน แต่จองโฮบอกว่าหากเกิดเรื่องขึ้นอีก เธอก็สามารถกวนใจเขาได้ตลอดเวลา ยูริจูบจองโฮและบอกว่าเธฮไม่อยากเป็นครอบครัวแต่อยากเป็นอย่างอื่นมากกว่า จองโฮจึงจูบตอบกลับเธอ