สปอยล์ The King's Affection ตอนที่ 14

14

จีอุนขอร้องพ่อให้ช่วยหางานในวังโดยที่เขาไม่เกี่ยงว่าจะเป็นตำแหน่งใดก็ตามเพราะเขาต้องการปกป้องฝ่าบาท ต่อมาเขาได้เป็นอาลักษณ์ประจำสำนักราชเลขา จีอุนทูลฝ่าบาทว่าเขาขอเวลาเพียงแค่สองเดือนโดยจะไม่พูดหรือแสดงความรู้สึกใดๆ ขอเพียงแค่อยู่เคียงข้างพระองค์จนกว่าแผลที่แขนจะหายดีก็พอแล้ว และขอให้พระองค์ทรงคิดเสียว่าเขาไม่มีตัวตน โนฮากยองบุตรสาวของท่านโนฮักซูได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระมเหสี นางหมั่นเขียนจดหมายรักให้ฝ่าบาทอยู่เสมอและรอคอยวันที่จะได้ร่วมหอกับพระองค์

หมอหลวงตรวจชีพจรของฝ่าบาทและทูลว่าตอนนี้ชีพจรของพระองค์ดีขึ้นมากแล้ว จากนั้นจีอุนก็เข้ามาทำแผลให้พระองค์โดยที่ไม่มีใครรู้ เพราะเขานำกล่องยาสมุนไพรซ่อนไว้ในรายงานฎีกา จองซอกโจสงสัยว่าผู้ใดทำแผลให้ฝ่าบาท

ท่านซังฮอนเร่งรัดสำนักดาราศาสตร์ให้หาฤกษ์เข้าหอของฝ่าบาทให้เร็วที่สุด นอกจากนั้นเขายังตัดสินใจงานราชการต่างๆด้วยตัวเองโดยที่ฝ่าบาทเป็นเพียงหุ่นเชิดและรับฟังการถวายรายงานเท่านั้น

เมื่อถึงคืนที่ต้องร่วมหอกับพระมเหสี ฝ่าบาทตัดสินพระทัยไปที่ตำหนักของพระนางโดยไม่หาข้ออ้างใดๆ ตามที่คิมซังกุงแนะนำ แต่พระองค์ทรงตรัสกับพระมเหสีอย่างตรงไปตรงมาว่าต่อไปนี้พระองค์จะประทับที่นี่กับพระนางทุกคืนโดยไม่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งและขอให้พระมเหสีเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

คิมกาอนไม่ได้กลับไปเป็นองครักษ์แต่เขาซุ่มดูเหตุการณ์อยู่นอกวังและได้ข่าวว่าขันทีของฝ่าบาทองค์ที่แล้วได้ผูกคอตายเพราะสำนึกผิดที่วางยาพิษพระองค์ พระพันปีทรงตัดพ้อกับฝ่าบาทว่าท่านซังฮอนไม่รามือให้กับสายเลือดของพระนางบ้างเลย แม้แต่องค์ชายเจฮยอนก็ถูกเนรเทศไปอยู่แดนไกล จองซอกโจสังเกตเห็นรอยฝังเข็มที่ต้นคอของฝ่าบาท ทำให้เขายิ่งสงสัยบางอย่างมากขึ้น เพราะในตอนนั้นพระชายาอาจจะทรงใช้วิธีฝังเข็มกับทารกเพศหญิงเพื่อให้หยุดหายใจชั่วขณะเพื่อทำให้ทุกคนเชื่อว่าทารกตายไปแล้ว

สำนักราชเลขาแปลกใจว่าเหตุใดข้าวสารที่ส่งไปทางเรือสินค้าถึงไม่เพียงพอกับราษฎร อาจจะมีคนขโมยระหว่างทางหรือไม่ก็มีใครพยายามแอบใช้เรือสินค้าเพื่อเรื่องส่วนตัว จีอุนเห็นฝ่าบาทเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ในกลางดึกไปยังเรือนหลังหนึ่งโดยมีขันทีฮงตามเสด็จเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาแอบตามไปและได้ยินการสนทนาของฝ่าบาทกับท่านนายพลยุน (อดีตหัวหน้าราชองครักษ์) ที่ลักลอบเข้ามาและรายงานว่าท่านซังฮอนใช้เรือสินค้าเพื่อลำเลียงอาวุธไปที่ยอยอน ฝ่าบาทจะทรงสืบเรื่องนี้เองเพื่อเปิดโปงเรื่องกองทหารลับและหลักฐานในการวางยาพิษกษัตริย์พระองค์ก่อน พระองค์ทรงเชื่อว่าตอนนี้ท่านซังฮอนไม่สงสัยในตัวพระองค์ที่ยอมเป็นหุ่นเชิดให้เขา เมื่อได้หลักฐานครบทุกอย่างแล้ว พระองค์จะเป็นผู้ทำลายท่านซังฮอนเอง

จีอุนที่แอบอยู่ใต้ถุนเรือนนั้น รีบคว้าฝ่าบาทมาหลบในอ้อมกอดของเขาเพื่อให้พ้นสายตาของทหารลาดตระเวน ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง จีอุนเป็นห่วงที่พระองค์ทรงกำลังทำเรื่องที่อันตราย ฝ่าบาททรงตรัสของร้องเขาให้แสร้งทำเป็นไม่รู้และไม่ได้ยิน หลังจากนั้นจีอุนก็ทำแผลให้พระองค์และทูลว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย

องค์ชายจาอึนเปิดใจกับจีอุนว่าพระองค์ทรงหลงรักฝ่าบาทข้างเดียวมาโดยตลอดและรู้มานานแล้วว่าพระองค์คือสตรี แต่ที่ปิดงำไว้ก็เพื่อปกป้องพระองค์ องค์ชายอยากให้จีอุนตัดใจจากฝ่าบาทเช่นกันเพราะเขากำลังรักคนที่ไม่ควรรัก

จีอุนขอร้องท่านเสนาบดีการคลังให้นำบัญชีการส่งข้าวไปถวายฝ่าบาท เพราะเขาแน่ใจว่าพระองค์จะทรงหาวิธีตรวจสอบการลักลอบขนส่งอาวุธของท่านซังฮอนได้

ฝ่าบาทเสด็จออกเดินเล่นในยามค่ำคืนและทอดพระเนตรเห็นจีอุนกำลังจุดโคมตามทางเดิน ซึ่งเขาทูลว่าเกรงว่าพระองค์จะทรงล้มและบาดเจ็บอีก ฝ่าบาททรงตรัสให้เขาอยู่ทำงานที่วังต่อไปแม้ว่าแผลของพระองค์จะหายดีแล้วก็ตาม เพราะทรงต้องการให้เขาอยู่เคียงข้าง จีอุนที่รอฟังคำนี้มานานจึงโผเข้าสวมกอดและทั้งคู่ก็จุมพิตกัน โดยที่จองซอกโจยืนมองเหตุการณ์อยู่ห่างๆและนึกถึงดัมอีเด็กสาวที่จีอุนเคยหลงรัก