สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 5

5

หลังจากที่คังแทไปรับมุนยองแล้ว เขาพาเธอไปหาที่พักที่โมเต็ลเล็กๆ แห่งหนึ่ง
เมื่อรู้ว่ามุนยองออกมาโดยไม่พกกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย คังแทจึงต่อว่าหากเขาไม่ไปรับเธอจะทำอย่างไร เธอบอกว่าก็คงจะเดินตากฝนไปทั้งคืน ทำให้คังแทโมโหและใส่อารมณ์กับเธอ มุนยองจึงย้อนถามคังแทบ้างว่าโมโหทำไม ร้อนใจทำไม เป็นห่วงเธอ หัวเสีย หรือว่าปวดใจ ขณะที่เดินเข้าประชิดตัวคังแท เธอจึงถามอีกว่าชอบเธอ และต้อนถามเขาต่างๆนานา คังแทพูดไม่ออกจึงตัดบทด้วยการขอเปิดห้องพัก แต่ว่าทั้งคู่ไม่มีเงินติดตัวเลยสุดท้ายเลยต้องพามุนยองไปพักกับเขา

มุนยองถามถึงพี่ซังแทซึ่งเขาอยู่ข้างล่าง แต่คังแทห้ามไม่ให้เธอไปยุ่งกับพี่ของเขา เธอจึงคิดว่าเขาหึง เขาขอให้เธอมองสีหน้าและอารมณ์ของเขาในตอนนี้ แต่มุนยองไม่สนใจ คังแทเลยพูดถึงนิทานเรื่อง “เด็กน้อยซอมบี้” เด็กน้อยที่มีเพียงความหิว ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกหรือไออุ่นจากใครสักคน คังแทจับมือมุนยองและเอาหลังมือของเขาแนบที่แก้มของมุนยองและย้ำกับมุนยองว่า ไออุ่น คือสิ่งที่เด็กนั่นต้องการไม่ใช่แค่เพียงอาหาร แต่มุนยองปฏิเสธและบอกว่าสิ่งเดียวที่เด็กน้อยต้องการก็คืออาหารเพราะเขาไม่มีความรู้สึก และหนีเข้าห้องน้ำไป เธอใช้หลังมือแนบแก้มตัวเอง ถามตัวเองว่าใครห่วงใครกันแน่และพึมพำว่าคังแทเสแสร้ง

พี่ซังแทยังคงเสียใจและเอาหัวโขกผนัง คังแทขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่พี่ และเบี่ยงเบนความสนใจโดยเล่าเรื่องที่เขาโดนตบหน้าจนเลือดออกที่ปาก หูอื้อและแก้มบวมเหมือนตาเฒ่าเนื้องอก ทำให้ซังแทหันมาสนใจเรื่องตาเฒ่าเนื้องอกและหยุดโขกหัวทันที และตีคังแทที่เป็นคนโกหก คงแทยอมให้พี่ซังแทตีเพราะเขาโกหกโดยที่แม่ของจูรีและแจซูยืนฟังอยู่ด้านนอก

เมื่ออกมาจากห้อง แม่ของจูรีเตรียมอาหารไว้มากมายและชวนคังแทนั่งกินข้าว คังแทขอแบ่งอาหารขึ้นไปทานกับมุนยอง มุนยองกินอาหารด้วยความเอร็ดอร่อยและยังเรียกใช้คังแทให้ตักอาหารให้เธออยู่เรื่อย

เมื่อทานอาหารกันเสร็จ ขณะที่คังแทกำลังล้างจานอยู่นั้น มุนยองซึ่งนอนมองเขาอยู่ด้านหลัง บอกให้เขารีบมานอนและพูดว่า “น่าอร่อย” คังแทไม่ต้องการให้เธอนอนค้างที่นี่และจะให้ค่าแท็กซี่กลับ แต่มุนยองไม่ยอมและตะโกนเรียกพี่ซังแท คังแทจึงปิดปากเธอไว้ ขณะที่แจซูกำลังเดินมาหา คังแทจึงรีบวิ่งออกไปก่อนที่แจซูจะเข้ามาเห็นเธอ เมื่อแจซูเดินลงไปแล้ว คังแทกลับเข้าห้องไม่ได้เพราะมุนยองล็อกจากด้านใน เธอมีข้อแม้ว่าคังแทต้องยอมให้เธอค้างที่นี่ จึงจะยอมเปิดประตูให้ เมื่อคังแทรับปาก มุนยองจึงไปเปิดหน้าต่างให้เขาและบอกว่าฉากนี้เหมือนโรมีโอกับจูเลียต แต่คังแทบอกว่าเป็นศัตรูคู่แค้นซึ่งไม่น่ามาพบกันเลย มุนยองยังเถียงต่อว่ามันคือพรหมลิขิตและบุพเพสันนิวาส คังแทยังคงยืนคุยกับเธออยู่นอกหน้าต่าง

จากนั้นเธอก็เอ่ยปากชวนให้เขามานอนข้างๆ เมื่อคังแทไม่ยอม เธอก็ตะโกนเรียกพี่ซังแทอีกจนเขาต้องปิดปากเธอไว้ และโทรไปบอกแจซูให้ดูแลพี่ซังแท โดยโกหกว่าท่อน้ำแตกและน้ำนองพื้นห้อง ขณะที่ทั้งคู่นอนข้างๆ กันนั้น มุนยองบอกว่าในความโกหกของคังแท ยังคงมีความจริงใจแฝงอยู่ เขาจึงเล่าว่าพี่ซังแทจะมองหน้าเขาอยู่ตลอดเพื่ออ่านความรู้สึก เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่ต้องฝืนยิ้ม เพราะพี่จะเชื่อว่าเขามีความสุข มุนยองจึงขอให้เขายิ้มให้เธอบ้าง เมื่อเธอถามถึงผู้หญิงที่เขาเคยชอบเมื่อตอนเป็นเด็ก เขาบอกว่าไม่คิดถึงแต่อยากลืมมากกว่า และโทษตัวเองที่วิ่งหนีเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตลอด ทั้งๆที่เธอเป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้จากการจมน้ำ ก่อนที่มุนยองจะหลับไป เธอยังชมว่าเขาเท่ตอนที่ขับรถฝ่าสายฝนไปช่วยเธอเมื่อตอนหัวค่ำ

ในตอนเช้า มุนยองยืนดูภาพสีหน้าของบุคคลอารมณ์ต่างๆ ในขณะที่คังแทยังคงหลับอยู่ เมื่อนัมจูรีออกเวรกลับมา เธอจึงนำนมกล่องขึ้นไปให้คังแทที่ห้อง และพบมุนยองยืนอยู่ที่หน้าระเบียง มุนยองเพิ่งรู้ว่าที่นี่คือบ้านของนัมจูรี จึงต่อว่าจูรีที่เป็นคนชักชวนให้คังแทมาอยู่ที่นี่เพราะแอบชอบคังแท มุนยองจึงบอกจูรีว่าเธอได้สารภาพรักกับคังแทไปแล้ว เพราะเห็นแววตาที่คังแทต้องการอะไรบางอย่างจากเธอ และห้ามจูรีมายุ่งกับของของเธอ จูรีจึงว่ามุนยองว่าเป็นการให้ทาน พอได้สมใจแล้วก็จะโยนทิ้ง เมื่อมุนยองว่าจูรีเป็นคนเสแสร้งแกล้งไร้เดียงสาและตีสองหน้า นัมจูรีจึงตบหน้ามุนยอง พวกเขาทะเลาะกันเสียงดังจนทุกคนในบ้านออกมาดู คังแทขอให้มุนยองกลับบ้านโดยให้เงินเป็นค่าตอบแทนความรักที่เธอให้เป็น “ทาน” และบอกว่าเขาไม่ใช่ของของเธอ มุนยองจึงรู้ว่าเขายืนฟังอยู่นานแล้ว เธอชวนคังแทให้ย้ายออกจากที่นี่และไปอยู่กับเธอ แต่เขาปฏิเสธ

พี่ซังแทน้อยใจที่คังแทโกหกเรื่องท่อน้ำรั่ว และให้มุนยองสวมเสื้อผ้าของคังแท คังแทขอโทษพี่และสัญญาว่าคราวหน้าจะให้มุนยองสวมชุดของพี่ซังแทที่มีรูปไดโนเสาร์
 
ประธานอีรีบกลับเข้าบริษัททันที เมื่อยูซึงแจโทรบอกข่าวร้าย นักวิจารณ์มุนยองเข้ารับการผ่าตัดเส้นเลือดในสมอง และเรียกค่าเสียหายที่เขาบาดเจ็บเพราะโดนมุนยองเอาปากกาแทง มิเช่นนั้นเขาจะส่งมุนยองเข้าคุกหรือไม่ก็คว่ำบาตรหนังสือของเธอ
 
แจซูสงสัยในความรู้สึกที่คังแทมีต่อมุนยองและเตือนให้เขาระวังตัว ตั้งแต่วันแรกที่พบกันเธอก็ใช้มีดแทงที่ฝ่ามือของเขา แจซูจึงบอกคังแทให้ใช้แผลเป็นเป็นเครื่องเตือนสติ คังแทบอกว่าพักนี้เขาหลงลืมบ่อยๆแม้กระทั่งรอยแผลเป็นที่ฝ่ามือ ลืมเรื่องผีเสื้อ และเรื่องพี่ซังแท จึงอยากให้แจซูช่วยเตือนสติเขาบ่อยๆ

มุนยองหยิบเสื้อของคังแทมากระทืบด้วยความโมโห ที่เขาเห็นค่าของเธอเพียงเงินสามหมื่นวอนที่ให้เป็นค่ารถแท็กซี่ แต่ภาพที่คังแทใช้หลังมือแนบแก้มของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำ เธอจึงหยิบเสื้อมาแขวนไว้อย่างเดิม และรำพึงกับตัวเองว่าคังแทเป็นคนสองบุคลิก

ประธานอีมาหามุนยองเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น และบอกว่าตอนนี้เขาหมดตัวแล้ว หลังจากที่จ่ายค่าปิดปากนักวิจารณ์และหนี้สินต่างๆที่ค้างไว้ เขาขอมาอยู่กับเธอ แต่มุนยองปฏิเสธและบอกว่าอีกไม่นานจะมีคนมาอยู่กับเธอ

นัมจูรีไม่สบายใจที่คนไข้สองคนทะเลาะกันและเธอโดนคนไข้ตบหน้า จึงขึ้นมาบนดาดฟ้า และเจอคังแทที่นั่น พวกเขาคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ จูรีพยายามพูดให้คังแทรู้ว่าเธอมีใจให้เขา แต่เขาบอกว่าอย่ามีใจให้เขาเลย จูรียังคงยืนกรานว่าจะชอบเขาต่อไปแม้ว่าเขาจะย้ายไปที่อื่นก็ตาม เธอขอร้องว่าขณะที่ยังอยู่เมืองนี้ ขอให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอต่อไป เพื่อเห็นแก่แม่ของเธอที่ชอบเขามาก และเพื่อความสุขของพี่ซังแท

มุนยองแอบขึ้นไปเห็นสองคนนี้คุยกันหลังจากที่คุยธุระกับ ผอ.เสร็จแล้ว จากนั้นเธอเดินลงมาหาพี่ซังแทซึ่งกำลังวาดรูปอยู่ที่ผนังข้างบันได มุนยองชวนพี่ซังแทออกไปนั่งรถเล่นด้วยกันและพาเขาไปที่ปราสาท ซังแทบอกมุนยองว่าชอบที่นี่ เธอจึงชวนให้เขามาอยู่ด้วยกัน และให้เขาเซ็นสัญญาจ้างวาดภาพ

คังแทรู้ว่าพี่ซังแทออกไปกับมุนยอง แต่เขายังคงนั่งรออยู่ที่โรงพยาบาลและมองแผลเป็นที่ฝ่ามือเพื่อเตือนใจ จากนั้นเขาโทรหามุนยองและเตือนซ้ำอีกว่าอย่ายุ่งกับพี่ของเขา เธอจึงบอกให้เขามารับพี่ที่ปราสาทต้องคำสาป มุนยองแปลกใจที่คังแทไม่ถามที่อยู่ของปราสาท เขาจึงบอกว่าเคยไปที่นั่นแล้ว

หลังจากที่มุนยองช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อตอนเป็นเด็ก มุนยองจึงเพิ่งรู้ว่าที่จริงแล้วคังแทรู้มาตลอดว่าเธอคือเด็กผู้หญิงคนนั้น
 
ขณะที่คังแทกำลังไปที่ปราสาท มุนยองได้เล่านิทานปรัมปราให้พี่ซังแทฟัง….
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีสาวน้อยอาศัยอยู่ที่ปราสาทแห่งหนึ่งในป่าลึก ซึ่งแม่ของเธอพร่ำบอกอยู่ตลอดว่าเธอเป็นลูกที่พิเศษและไม่สามารถปรับตัวกับโลกภายนอกได้ จะต้องอาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้เท่านั้น แต่สาวน้อยกลับรู้สึกว่ามันคือคุก จึงอธิษฐานกับดวงจันทร์ว่า ขอให้มีเจ้าชายรูปงามมาช่วยเธอออกจากปราสาทแห่งนี้ เธอเฝ้ารอว่าเจ้าชายจะมาเมื่อไร….

ขณะที่กำลังเล่า มุนยองนึกถึงภาพในวัยเด็ก ขณะที่เธอยืนรอเจ้าชายและเห็นเด็กน้อยคังแทถือช่อดอกไม้มายืนที่หน้าปราสาท เธอจึงวิ่งลงมาหาเขาด้วยความดีใจ แต่แม่ของเธอยืนขวางอยู่ เมื่อออกมาหาเด็กน้อยคังแท เธอจึงใช้เท้าขยี้ช่อดอกไม้นั้นและไล่เขากลับไป…

พี่ซังแทหลับอยู่ที่โต๊ะในห้องโถงด้านล่าง คังแทกำลังเดินเข้ามาในปราสาทและแหงนขึ้นไปเห็นมุนยองยืนอยู่ที่ที่เคยรอเจ้าชาย..