สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 15
พี่ซังแทดื่มจนเมา และคิดว่ามุนยองกับคังแทยังโกรธกันอยู่ หัวหน้าพยาบาลหรือโดฮีแจเห็นอาการดังนั้น จึงลูบท้ายทอยของเขาและบอกว่าน่ารัก แต่ซังแทไม่ชอบให้ใครถูกบริเวณหัว หลังจากที่หลับไปแล้ว โดฮีแจแอบฉีดยาระงับประสาทให้ซังแท เมื่อคังแทมาถึงและพยายามปลุกพี่ โดฮีแจได้แต่ยืนหัวเราะอยู่อย่างนั้น และบอกว่าเธอน่าจะพามุนยองมานอนตรงนี้ด้วย จะได้รู้ว่าคังแทจะเลือกใคร คังแทไม่เข้าใจเมื่อโดฮีแจบอกว่าเขาเป็นคนทำลายมุนยองซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเธอ และเธอต้องการหล่อหลอมมุนยองให้เป็นเหมือนเธอทุกๆ อย่าง
คังแทตวาดออกไปว่ามุนยองไม่ใช่สิ่งของแต่เป็นคน โดฮีแจโมโหจึงปัดข้าวของบนโต๊ะหล่นกระจายและตะคอกใส่คังแทว่า เป็นเพราะเขา มุนยองถึงได้เสื่อมลง และผลงานที่ล้มเหลวก็ต้องถูกกำจัดทิ้ง จากนั้นเธอให้โอกาสคังแทพาพี่ชายหนีไปให้ไกลจากมุนยองที่สุด แต่เมื่อคังแทไม่ยอมทำตาม เธอจึงบอกให้ฆ่าเธอซะ เพื่อที่ว่าเมื่อมุนยองเห็น ก็จะได้ตัวตนเดิมตามสัญชาติญาณคืนมา และความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามก็จะเลวร้ายตามที่เธอต้องการ คังแทขอให้เธอเลิกล้มความคิดนี้เพราะถึงอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมแพ้เรื่องมุนยองเด็ดขาด โดฮีแจจึงบอกว่ามุนยองคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของคังแทต้องตาย และเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้เขาฟังโดยหยิบปากกาที่ใช้เป็นอาวุธขึ้นมาถือไว้
ในตอนนั้น แม่ของคังแทไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ปราสาทแห่งนี้ วันหนึ่งโดฮีแจมองลงมาจากระเบียงด้านบนและเห็นแม่ของคังแทกำลังคุยอยู่กับมุนยองซึ่งกำลังนั่งมองนกปีกหัก มุนยองคิดจะฆ่านกตัวนั้นเพราะถึงอย่างไรมันก็คงบินไม่ได้แล้ว ทำให้แม่คังแทรู้สึกตกใจและนำเรื่องนี้ไปเล่าให้โดฮีแจฟัง แต่โดฮีแจกลับชมว่ามุนยองเก่ง จากนั้นแม่คังแทแนะนำให้พามุนยองไปรักษาที่โรงพยาบาลเดียวกับซังแท ทำให้โดฮีแจไม่พอใจอย่างมากแต่ไม่แสดงอาการใดๆออกมา นอกจากกดปากกาลงบนกระดาษที่กำลังเขียนอยู่จนนทะลุ และนั่นคือวิธีที่เธอฆ่าแม่ของคังแทด้วยปากกาด้ามนั้น
เมื่อเล่าจบแล้ว โดฮีแจยังคงชื่นชมปากกาด้ามที่ถืออยู่และหัวเราะออกมาอย่างสะใจราวกับคนบ้า คังแทยืนฟังทั้งน้ำตาและไม่เข้าใจว่าเพียงเหตุผลเล็กน้อยนี้ เป็นเหตุที่ต้องฆ่าแม่ของเขา โดฮีแจจึงต่อว่าแม่ของคังแท ที่กล้าดีมาว่ามุนยองลูกสาวเธอเป็นโรคจิต โดยที่ไม่ดูสารรูปตัวเอง คังแทระงับอารมณ์ไม่อยู่ จึงโถมเข้าบีบคอโดฮีแจ แต่ทันใดนั้นเองคำพูดของมุนยองก็ผุดเข้ามา “ถึงอย่างไร แม่ก็คือแม่”
เมื่อคังแทปล่อยมือและเผลอตัว โดฮีแจจึงคว้าเข็มฉีดยามาแทงเขาจนเซถลา และพูดระคนสะใจว่าเธอกับมุนยองเหมือนกันตรงที่ว่าไม่ชอบคนอ่อนแอ มุนยองวิ่งเข้ามาต่อว่าแม่ไม่ให้พูดจาซี้ซั้ว แต่แม่ของเธอกลับตอบว่า เธอมีสายเลือดของแม่ไหลเวียนอยู่ในตัว มุนยองเถียงว่าเธอไม่ใช่ปีศาจอย่างแม่และคว้าปากกาด้ามนั้นเพื่อหวังจะแทงแม่ตัวเอง แต่คังแทเอามือรับไว้จนบาดเจ็บ และทวงสัญญาจากมุนยองที่เคยรับปากว่า “ต่อให้ผีสื้อปรากฎตัว ก็ห้ามฆ่าเด็ดขาด” จากนั้นคังแทก็สลบไปเพราะฤทธิ์ยา ระหว่างที่มุนยองตกใจและไม่รู้ว่าคังแทเป็นอะไร แม่ของเธอเดินมาต่อว่าที่เธอตัดผม จากนั้นก็จิกผมเธอและสั่งให้เชื่อฟังแม่ โดฮีแจคว้าปากกาจะแทงมุนยอง แต่ซังแทฟื้นขึ้นมาจึงเอาหนังสือรวมนิทานเล่มหนาฟาดหัวโดฮีแจ และด่าว่าเธอที่มายุ่งกับน้องๆ ของเขา
เมื่อ ผอ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง โดฮีแจบอก ผอ.ว่า ถึงอย่างไรเธอก็เป็นฝ่ายชนะ และพวกเขาสามคนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ เพราะมนุษย์เป็นพวกที่อ่อนแอเหมือนพวกคนไข้ที่โรงพยาบาล แต่ ผอ.จับนิ้วของเธอมาประกบกันและพูดว่า คนอ่อนแอต้องอยู่รวมกันและพึ่งพากันได้ จึงจะเรียกว่ามนุษย์ ก่อนจะถูกตำรวจนำตัวไป ผอ.ถามถึงพัคอ๊กนัน โดฮีแจตอบเพียงว่าพัคอ๊กนันเล่นละครได้เก่งตามที่เธอสั่งให้ทำทุกอย่าง และเมื่อการแสดงจบก็สมควรต้องลาเวทีไป ผอ.จึงเตือนว่าเธอเองก็ต้องลาเวทีได้แล้ว
เมื่อตรวจร่างกายของคังแทแล้ว ผอ.บอกมุนยองว่าอีกไม่กี่ชั่วโมง คังแทก็จะฟื้น พี่ซังแทถามถึงอาการของน้องชาย และบ่นว่าหัวหน้าพยาบาลเป็นคนไม่ดีที่โกหกและรังแกน้องๆของเขา และยังจับท้ายทอยของเขาอีกด้วย ผอ.ชมเชยซังแทที่ช่วยชีวิตน้องทั้งสองคนได้ ทำให้เขาภูมิใจมาก เมื่อได้รับคำชมเช่นนั้น ทำให้ซังแทพูดถึงวีรกรมของตัวเองซ้ำๆไม่หยุด มุนยองนั่งกุมมือคังแทและขอโทษทั้งน้ำตา ที่เขาต้องเจ็บตัวเพราะเธออยู่เสมอ และหากยังอยู่กับเธอก็จะมีแต่ความโชคร้าย
ประธานอีไม่สามารถโทรติดต่อใครได้เลย ขณะอยู่ที่สถานีตำรวจข้อหาขับรถล้ำเส้นกลางและกลับรถผิดกฎจราจรเพราะกวางตัดหน้า ระหว่างที่เถียงกับตำรวจอยู่นั้น ซึงแจและนัมจูรีตามมาช่วยประกันตัวออกไป เมื่อเห็นว่าประธานอีเป็นห่วงมุนยองและคังแท เธอจึงปลอบใจเขาและบอกว่าทุกคนถูกกำหนดโชคชะตามาแล้ว และเมื่อเผชิญกับความโชคร้ายไปจนหมด ต่อไปก็จะเจอแต่ความสุข
ซังแทไปหาแจซูและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดซ้ำเล่าซ้ำเล่าจนแจซูท่องได้ขึ้นใจ เมื่อได้รับคำชมจากแจซู ซังแทจึงหยุดเล่า แจซูห่วงว่าคังแทจะนอนเป็นเจ้าชายนิทรา พี่ซังแทได้ยินดังนั้นจึงพูดว่าเจ้าหญิงนิทราต้องจุ๊บๆ
หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาและเป็นห่วงพี่ชาย คังแทจึงรีบไปดูที่ห้องและเห็นพี่ซังแทหลับอยู่ มุนยองถามเขาว่าหลับสบายดีไหม คังแทบอกเธอว่าเขาฝันร้าย แต่มุนยองบอกว่ามันไม่ใช่ความฝัน และแม่ของเธอก็โดนจับไปแล้ว อีกไม่นานความจริงก็จะปรากฏ เธอขอให้เขาและพี่ชายไปจากที่นี่ เธอไม่ใช่กระป๋องเปล่า เพราะมีความรูสึกและจะไม่มีวันลืมที่เขาและพี่ชายต้องเจอเรื่องเลวร้ายที่นี่ก็เพราะเธอ และไม่อยากให้เขาต้องทรมานทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ คังแทจึงบอกว่าต้องไม่ลืมและผ่านมันไปให้ได้ จึงจะเป็นผู้ใหญ่ที่จิตวิญญาณเติบโต ขอให้เธอคิดซะว่าผ่านฝันร้ายมาด้วยกัน ซึ่งตัวเขาเองต้องทำได้แน่ๆ แต่มุนยองกลับบอกว่าเขาเสแสร้งแสดง ทั้งที่ทรมานแต่ทำเหมือนไม่เป็นไร เธอยืนกรานให้พวกเขาออกไปในวันรุ่งขึ้น เพราะต้องการอยู่คนเดียวเหมือนเดิม
คังแทไปปลุกพี่ชายในตอนเช้า เมื่อซังแทตื่นนอน จึงถามถึงอาการของน้อง บาดแผลที่มือ เมื่อน้องบอกว่าเจ็บ พี่จึงจะรีบพาน้องไปโรงพยาบาล แต่คัวแทคว้าพี่มากอดไว้และขอบคุณที่ช่วยทุกคนไว้ แต่พี่ซังแทยังติดใจสงสัยอยู่ว่าหัวหน้าพยาบาลเป็นคนดี ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ คังแทจึงตอบพี่ว่า เธอเป็นคนไม่ดีที่เสแสร้งเป็นคนดีและไม่ชอบเห็นคนอื่นมีความสุข ซังแทจึงพูดออกมาว่า “แม่มดตะวันตก” ซึ่งไล่ฆ่าคนที่มีความสุข คังแทไม่อยากให้พี่อ่านนิทานเรื่องนั้นอีก พี่ซังแทไม่รู้จะทำอย่างไรกับตุ๊กตาไดโนเสาร์แม่ดูลี่ที่หัวหน้าพยาบาลให้เขา เมื่อคังแทตัดสินใจจะนำไปทิ้ง แต่พี่ซังแทห้ามไว้และบอกว่า แม่ดูลี่ไม่ได้ทำอะไรผิด จากนั้นพี่ซังแทจึงปลอบใจดูลี่ว่าจะไม่ทิ้งแล้ว
มุนยองยังคงเก็บตัวและเสียใจกับเรื่องร้ายที่เกิดขึ้น ขณะที่คังแทกำลังเตรียมอาหารเช้า เขาถามพี่ว่าจะทำอย่างไรหากมุนยองบอกให้ไปจากที่นี่ แต่พี่ซังแทบอกว่าเป็นครอบครัวก็ต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าจะไปก็ต้องพามุนยองไปด้วย เพราะหากมุนยองอยู่คนเดียวก็จะเบื่อและไม่มีเพื่อนเล่น แต่ถ้าเธอจะไล่พวกเขาไปแค่สองคนก็ให้พูดว่าต้องข้ามศพพี่ซังแทไปก่อน ถึงจะชนะเธอได้
คังแทยื่นใบลาออกให ผอ.โดยบอกว่าเขาต้องการพัก เช่นเดียวกับ ผอ.ที่ต้องการลาออกเช่นกัน และให้เหตุผลว่าเขาอยากรับผิดชอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น คังแทขอคำปรึกษาจาก ผอ.ว่า ตัวเขาไม่แน่ใจว่าจะโอเค เพราะสิ่งที่โดฮีแจเล่า ทำให้ภาพที่แม่ถูกฆาตกรรมอย่างไม่เป็นธรรมยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขา และภาพที่พี่แอบดูการฆ่านั้น ทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก เขาโกหกมุนยองว่าจะผ่านไปได้ แต่มุนยองไม่เชื่อเขาเลย
ผอ.จึงบอกว่าไม่ว่าอยู่หรือจาก ก็ล้วนแต่ทรมานทั้งนั้น สู้อยู่ด้วยกันดีกว่า เขาถามคังแทว่าตอนนั้นอยากฆ่าโดฮีแจหรือเปล่า คังแทตอบว่าทำไม่ได้เพราะนึกถึงมุนยอง ผอ.จึงบอกว่า ใบหน้าที่เห็นแล้วทรมาน ช่วยให้มีชีวิตอยู่ต่อได้ เพราะในเมื่อคังแทเกือบจะระเบิด แต่มุนยองกลับเป็นคนช่วยไม่ให้ระเบิด จากนั้นคังแทจึงขออนุญาต ผอ.ปลูกต้นไม้ไว้ที่สวนของโรงพยาบาล
เมื่อมุนยองเดินลงมา พี่ซังแทจึงเรียกเธอกินข้าวที่คังแทเตรียมไว้ให้ และถามว่าเธอเจ็บหัวหรือเปล่าที่คุณป้านิสัยไม่ดีกระชากผมของเธอ เขาอธิบายให้มุนยองฟังว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะคุณป้าคนนั้นไม่ชอบเห็นคนอื่นมีความสุข จากนั้นเขาอยากให้มุนยองตรวจการบ้านให้ แต่มุนยองบอกว่าไม่ต้องทำการบ้านแล้ว เพราะเธอจะไม่ตีพิมพ์นิทานเรื่องนี้ และเมื่อคังแทกลับมาจากโรงพยาบาลก็ให้เก็บของออกไปได้เลย สัญญาวาดภาพเป็นอันยกเลิก พี่ซังแทจึงบอกว่าถ้าเช่นนั้นต้องจ่ายค่าปรับสามเท่า มุนยองจึงบอกว่ายินดีจ่ายให้เท่าที่พี่ซังแทต้องการและขอให้ออกไปภายในวันนี้ ทันใดนั้นเองพี่ซังแทจึงตะโกนออกมาซ้ำๆว่า ข้ามศพเขาไปก่อน
ประธานอีและซึงแจมาหามุนยองที่ปราสาท ขณะที่เธอกำลังเก็บข้าวของ เธอยืนกรานที่จะไม่เขียนนิทานอีกต่อไปและจะขายปราสาทแห่งนี้ ต่อไปนี้เธอให้อิสระแก่เขาแล้ว และขอให้เขาพาซึงแจกลับโซล ไม่ว่าประธานอีจะอ้อนวอนอย่างไร มุนยองก็ไม่เปลี่ยนใจและขอตัวไปพักผ่อนเพราะเธออดนอนมาทั้งคืน ซึงแจแนะนำประธานอีให้เซ็นสัญญากับนักเขียนคนอื่นแทน แต่ประธานอีบอกว่า เขาไม่ได้ต้องการเงินจากนิทานของมุนยอง แต่การเขียนนิทานเป็นช่องทางเดียวที่เธอสามารถสื่อสารกับโลก ซึ่งเป็นเหมือนปากและหลอดลมของเธอ และการบอกว่าจะเลิกเขียน นั่นก็แปลว่าเธอต้องการจะตายอยู่คนเดียว
มุนยองนอนร้องไห้ขณะที่ฝันเห็นเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เพิ่งผ่านมา เมื่อคังแทกลับมาเห็นจึงนำตุ๊กตามังแทใส่มือของเธอไว้ มุนยองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาและขอให้เขาย้ายออกไปวันนี้ โดยที่มีแค่มังแทก็พอแล้ว เธอบกว่าเคยอยู่คนเดียวอย่างดีมาได้ตลอด แต่คังแทบอกว่าตอนนี้เธออยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะได้รับรู้แล้วว่าความอบอุ่นและการอิ่มท้องเป็นอย่างไร คังแทสัมผัสแก้มมุนยองเบาๆและขอให้ยอมรับว่าเธอเป็นเพียงเด็กน้อยที่อยากได้รับความเอ็นดู มุนยองไม่โต้ตอบแต่นอนคลุมโปงและไล่เขาออกไป คังแทจึงเล่านิทานให้เธอฟัง
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องสองคนที่ยากจน แต่รักใคร่กลมเกลียวกัน เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว คนพี่เป็นห่วงน้อง จึงเกี่ยวข้าวใส่กระสอบและแอบไปวางไว้ที่หน้าบ้านของน้อง ในวันเดียวกันนั้น บ้านพี่ที่มีสมาชิกครอบครัวเยอะ น้องก็เอาข้าวใส่กระสอบของตนเอง และแอบไปวางไว้หน้าบ้านพี่ เมื่อตื่นมาตอนเช้า กระสอบข้าวยังวางอยู่เหมือนเดิมที่หน้าบ้านทั้งสอง สองพี่น้องคิดว่ามันแปลก แต่พอตกดึกก็เอาข้าวใส่กระสอบและไปวางไว้ที่หน้าบ้านของกันและกันอีก พวกเขาทำแบบนี้ซ้ำซากอยู่หลายวัน และนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกัน ควรอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ลำบากกันเปล่าๆ” มุนยองนอนฟังอยู่ใต้ผ้าห่มและบอกว่าไม่เห็นจะสอนใจตรงไหน คังแทจึงบอกว่าพี่ซังแทเป็นคนตีความเรื่องนี้ให้ และถามเธอว่าไม่ชอบพวกเขาสองคนพี่น้องจริงๆหรือ และถ้าหากว่าชอบ ก็ไม่ควรเลือกเดินทางผิดเพราะจะทำให้ลำบากเปล่าๆ เขาไม่สนว่าจะเป็นที่ไหน ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกันก็พอ มุนยองนอนฟังอยู่ใต้ผ้าห่มโดยไม่ตอบอะไรจนคังแทโมโหและขึ้นเสียง เธอจึงออกจากผ้าห่มและต่อว่าที่เขาตวาดเธอ คังแทจึงแก้ตัวว่าเวลาอยู่ในห้องนี้ เสียงของเขาจะสูงผิดปกติ ก่อนที่จะกลับห้องของตัวเอง
พี่ซังแทกำลังดูการ์ตูนและถามคังแทว่าคุยกับมุนยองหรือยัง คังแทบอกว่าเล่านิทานแล้วแต่ดูเหมือนจะแย่กว่าเดิม พี่ซังแทจึงต่อว่าคังแทว่าคงจะเล่าไม่สนุก และพึมพำว่า มุนคังแทน่าเบื่อสุดๆ
คังแทไม่เห็นมุนยองที่โต๊ะอาหารเช้า พี่ซังแทจึงบ่นว่าพี่เรียกแล้วไม่ตอบ เสียมารยาทสุดๆ เมื่อมุนยองเดินลงมา คังแทจึงเรียกเธอกินอาหารเช้าของโปรดของเธอที่เขาทำไว้ให้ แต่มุนยองต้องการคุยกับเขา และถามว่าทำไมยังไม่กลับไป คังแทอ้างว่าที่บ้านเก่าท่อน้ำแตก จากนั้นเขาก็โทรหาประธานอีเพื่อวางแผนบางอย่าง
จูรีโทรหามุนยองตามแผนการของคังแท และขอร้องให้มุนยองไปดูแม่ที่ป่วย เพราะเธอติดเข้าเวร มุนยองไปถึงบ้านจูรีและเห็นแม่ของเธอกำลังนั่งดูทีวีอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีวี่แววของคนป่วย มุนยองจึงบ่นว่าจูรีว่าตีสองหน้า จากนั้นแม่ของจูรีจึงเรียกมุนยองกินข้าวที่เธอได้เตรียมไว้ให้ มุนยองยืนมองด้วยความแปลกใจ แม่จึงบอกว่าแผนการนี้ต้องร่วมมือกันหลายคน เธอจึงยอมกิน และถามทั้งน้ำตาว่าทำไมทุกคนถึงดีกับเธอแบบนี้ แม่ตอบว่าเพราะความเอ็นดูในตัวเธอ
คังแทและพี่ชายช่วยกันปลูกต้นไม้ที่สวนของโรงพยาบาลและแขวนรูปครอบครัวไว้ เพื่อเป็นตัวแทนของแม่ เมื่อใดที่คิดถึงแม่ ก็ให้มาที่ต้นไม้นี้ จากนั้นพี่ซังแทก็คุยกับต้นไม้แม่และอวดว่า นี่คือรูปครอบครัวใหม่ของเขา เขาแนะนำว่ามุนยองสวยมาก แต่โดนคังแทตัดผมสั้น เขาและคังแทเติบโตมาอย่างดี และขอให้แม่โตไวๆด้วย คังแทรับปากแม่ว่าต่อไปนี้จะดูแลพี่ชายอย่างดี แต่พี่ซังแทเถียงว่าแม่ไม่ได้คลอดเขามาเพื่อปกป้องพี่ แต่เขาเป็นพี่ซึ่งต้องปกป้องน้อง เหมือนกับตอนที่เอาหนังสือฟาดหัวคุณป้าใจร้ายคนนั้น จากนั้นก็บอกคังแทว่าโตแล้ว ต่อไปให้ดูแลตัวเอง เพราะตอนนี้พี่ไม่ว่างแล้ว
หลังมื้ออาหาร แจซูนินทาคังแทให้มุนยองฟัง และหาว่าเขาบ้าที่อยากไปเที่ยวเซเรนเกตี ทั้งๆ ที่ไม่มีพาสปอร์ต มุนยองจึงตวาดว่าอยากเที่ยวเซเรนเกตีแล้วมันบ้าตรงไหน
มุนยองกลับมาด้วยอาการเมานิดหน่อย และเห็นพี่ซังแทกอดสมุดวาดภาพนั่งหลับรอเธออยู่ที่บันได เธอจึงไปนั่งข้างๆ พี่ซังแทบ่นว่าเหม็นเหล้า มุนยองขอให้พี่ถามคังแทว่าพรุ่งนี้จะใช้ข้ออ้างไหนอีกเพื่อจะอยู่ที่นี่ต่อ เพราะเธอรู้แล้วว่าที่บ้านนั้น ท่อน้ำไม่ได้แตกอย่างที่เขาอ้าง พี่ซังแทยังพูดคำเดิมว่า ข้ามศพเขาไปก่อน จนมุนยองหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความเอ็นดู พี่ซังแทส่งการบ้านให้มุนยองดู เพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปวาดภาพกับคู่หูคนอื่น เพราะมุนยองเลิกเขียนนิทานแล้ว ซังแทแอบวาดภาพคังแทตอนที่นอนหลับและยิ้มออกมาบอกว่า เขามีคนที่ชอบแล้ว ซังแทอธิบายว่าเป็นสีหน้าของคังแทตอนที่มีความสุขโดยไม่เสแสร้ง มุนยองมองภาพนั้นและน้ำตาไหล พี่ซังแทยินดีมอบภาพนั้นให้เธอตามที่ขอ แลบอกว่าเขาอยากเป็นนักวาดภาพในนิทานจริงๆ เพื่อจะนำไปอวดแม่ที่ต้นไม้ในโรงพยาบาล
วันต่อมามุนยองไปที่ต้นไม้นั้นเพื่อขอโทษ คังแทในชุดสูทเดินตามเธอมาและบอกว่าสะกดรอยตามเธอ แม้มุนยองไม่ขำ แต่คังแทก็บอกว่าเขาอยากเท่และจะพยายามต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะข้ามผ่านและเอาชนะมันให้ได้ จึงขอให้เธอเลิกผลักไสและยอมรับเขาไว้ มุนยองไม่ตอบและเดินจากไป คังแทจึงเดินไปทวงถามให้เธอชดใช้บาดแผลที่มือ มุนยองตอบเพียงว่าเธอขอโทษที่ทำให้เจ็บตัวและเดินจากไป แต่มุนยองต้องหยุดเดินทันทีเมื่อได้ยินคังแทบอกว่า เขารักเธอ จากนั้นเธอก็เดินต่อไป โดยที่คังแทเดินตามและยังคงบอกว่ารักเธออยู่อย่างนั้น จนกระทั่งกลับมาที่ปราสาทก็ยังบอกรักเธออีก จนมุนยองบอกว่าจะตีปากเขาหากพูดออกมาอีก คังแทจึงคว้าเธอมาจุ๊บเบาๆและอุ้มเธอนั่งบนโต๊ะ จากนั้นคังแทก็ค่อยๆโน้มตัวก้มลงจูบเธออย่างนุ่มนวล