สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 13
คังแทลูบไล้ใบหน้าของมุนยองขณะที่เธอหลับแล้ว ในใจของเขายังคงครุ่นคิดเรื่องเดิมและอยากให้มุนยองเป็นกระป๋องเปล่าที่ไม่ต้องรับรู้อะไรเลยก็ดี
มุนยองแปะกระดาษโน้ตไว้ที่สูทตัวใหม่ เผื่อว่าคังแทจะเปลี่ยนใจตามไปที่สตูดิโอเพื่อถ่ายรูปครอบครัวด้วยกัน เธอนำตุ๊กตามังแทใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อและเขียนโน้ตไว้ว่า ตอนนี้เธอไม่ฝันร้ายอีกแล้ว เพราะมีคังแทและพี่ซังแทเป็นครอบครัว สุดท้ายขอให้คืนตุ๊กตาด้วย เพราะมังแทเป็นของเธอ จากนั้นคังแทจึงเปลี่ยนใจใส่ชุดสูท และตามไปถ่ายรูปครอบครัวพร้อมหน้ากัน
เมื่อประธานอีกลับมา ซึงแจจึงแอบซุบซิบถึงแผนการว่า ตอนนี้นัมจูรีเริ่มหลงกลแล้ว และห้ามไม่ให้ประธานอีพูดถึงเรื่องไปดูตัวฝ่ายหญิงก่อน แต่ประธานอีอดใจไม่ได้ เพราะต้องการรู้ท่าทีของจูรี แต่จูรีไม่สนใจและบอกเพียงว่าเธอต้องการอ่านหนังสือเพราะต้องไปอบรม
หลังจากถ่ายรูปแล้ว ทั้งสามคนก็ไปที่ห้องสมุดศิลปะ เพราะมุนยองนัดซึงแจที่นั่น มุนยองตาขมึงใส่ซึงแจทันทีเมื่อเธอเอ่ยปากชมคังแทในชุดสูท มุนยองเกิดอาการหึง จึงสั่งไม่ให้คังแทใส่สูทอีกโดยอ้างว่าใส่ชุดผู้ดูแลดูเท่กว่า ซึงแจให้ซังแทดูภาพประกอบที่จะใช้ในหนังสือของมุนยอง แต่ซังแทกำลังสนใจอ่านหนังสือและบอกว่าการพูดคุยในห้องสมุดถือเป็นการเสียมารยาท มุนยองเห็นคังแทหยิบหนังสือ “เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ” ขึ้นมาดู เธอจึงเปรียบเทียบว่าเหมือนคังแท เพราะแจซูบอกว่า คังแทเก็บความรู้สึกเก่งและไม่มีวันเปิดเผยออกมา ไม่มีประโยชน์ที่จะอยากรู้อะไรในใจมากไปกว่านี้ เธอจึงคิดว่าต่อไปนี้จะเลิกคิดและไม่สงสัยอะไรแล้ว จากนั้นคังแทจึงบอกเธอว่าเขาเหนื่อยและเบื่อที่ต้องปกป้องดูแลคนอื่น เพราะเขาเกิดมาเพื่อทำหน้าที่นั้นให้พี่ จึงคิดว่ามันเป็นงานที่จำใจต้องทำ ต่อไปนี้เขาจะคิดว่ามันเป็นเป้าหมายว่าเป็นการปกป้องครอบครัวโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน และจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องเด็ดขาด เมื่อมุนยองถามว่าในครอบครัวนั้นมีเธออยู่ด้วยหรือเปล่า คังแทจึงกุมมือเธอและตอบว่า ในเมื่อถ่ายรูปร่วมกันแล้วก็ถือเป็นครอบครัว
จู่ๆ พ่อของคนไข้ยูซอนแฮก็โทรมาหาเธอ ทั้งที่เขาไม่เคยสนใจมาเยี่ยมเธอเลย ตั้งแต่ขายเธอให้สำนักร่างทรงตั้งแต่เด็ก ยูซอนแฮไม่ต้องการพบพ่อ จึงบอกเจ้าหน้าที่พยาบาลทุกคนให้บอกว่า หากเขาโทรมาอีกให้บอกว่าเธอตายไปแล้ว
แม่ของจูรีนำอาหารเข้ามาให้ประธานอี ขณะที่เขานั่งทำงานอยู่ในห้อง จากนั้นพวกเขาก็ดื่มด้วยกัน แม่ของจูรีจึงบอกเคล็ดลับบางอย่างเพื่อให้เขาเข้าใจจูรีมากขึ้นว่า ตั้งแต่พ่อของเธอเสียไป จูรีจึงต้องเป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัว และไม่รู้วิธีพึ่งพาคนอื่น ถ้าหากมีใครสักคนที่เหมือนพ่อและสามารถพูดทุกสิ่งที่อยากพูด เธอก็คงอัดอั้นตันใจน้อยลงกว่านี้
มุนยองคิดจะนำรูปครอบครัวมาแขวนแทนรูปเก่า และตกแต่งบ้านใหม่เพื่อไม่ให้อึมครึม เธอเอ่ยปากชวนคังแทให้มานอนห้องเดียวกับเธอ แต่เขาปฏิเสธโดยบอกว่าเป็นห้องเก่าของพ่อแม่เธอ
จากนั้นจึงชวนมุนยองไปอยู่ที่อื่น แต่มุนยองเข้าใจว่าถึงเวลาต้องย้ายหนีผีเสื้อ เธอจึงบอกว่าไม่ต้องกลัวเพราะเธอจะเป็นคนฉีกผีเสื้อเหล่านั้นเอง คังแทดึงมุนยองเข้ามากอดและบอกว่า ต่อให้ผีเสื้อปรากฏตัว ก็ห้ามฆ่าเด็ดขาด จากนั้นมุนยองก็เกี่ยวก้อยสัญญากับเขาและประทับตราโดยการกระชากเขาเข้ามาจูบ
คังแทหน้าแดงกลับเข้าห้อง ขณะที่พี่ซังแทกำลังดูการ์ตูนดูลี่ เขาจึงถามน้องว่าเขินเพราะจุ๊บกันมาใช่ไหม เมื่อคังแทตอบว่าผิวเผินเท่านั้น พี่ซังแทจึงบอกว่าจุ๊บกันดีกว่าทะเลาะกัน และห้ามไม่ให้ทะเลาะกันอีก ไม่อย่างนั้นจะโดนพี่ดุ คังแทมองพี่ด้วยรอยยิ้มและถามพี่ว่าระหว่างเขาและมุนยอง พี่ชอบใครมากกว่า พี่ซังแทนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบว่าชอบโกกิลดง
คุณลุงคันพิลองไปยืนดูซังแทวาดรูปที่ผนังและคืนหนังสือนิทานให้ ซังแทจึงถามว่าชอบตอนไหนมากที่สุด คุณลุงตอบว่า “อย่าลืม เพราะถ้าผ่านมันไปได้ ก็จะเป็นเด็กน้อยที่จิตวิญญาณไม่เติบโต” ซังแทจึงบอกว่าเขาก็ชอบตอนนั้นเช่นกันและจะผ่านไปให้ได้ ซังแทยังตอบคุณลุงด้วยว่าตอนนี้หัดวาดรูปผีเสื้อทีละนิดในสมุดร่าง คุณลุงสงสัยว่าผีเสื้อจะได้มาอยู่ในภาพนี้ก่อนที่คุณลุงจะได้ออกจากที่นี่หรือเปล่า ซังแทจึงบอกว่าใครหาประตูได้ก่อนถือว่าคนนั้นเร็วกว่า คุณลุงบอกว่าให้ช่วยกันหาประตูและจะได้ออกไปพร้อมกัน
คังแทนำกระดาษโน้ตไปให้ ผอ.วิเคราห์ เขามีความเห็นว่า “ฉัน” น่าจะเป็นโดฮีแจ และคงเป็นคำเตือนจากผีเสื้อ เมื่อคังแทบอกว่าเป็นโน้ตที่ไม่มีรูปแบบและน่าจะได้รับมาจากคนอื่นอีกที ผอ.จึงคิดว่า เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นใน ร.พ. น่าจะมาจากเรื่องนี้ จึงสั่งคังแทห้ามไว้ใจคนอื่นแม้แต่ตัว ผอ.เอง และอย่าปล่อยซังแทให้อยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียว จากนั้นเขาจึงบอกพี่ให้ตรงกลับบ้านเลย โดยที่ไม่ต้องรอเขาเลิกงาน และห้ามคุยกับคนแปลกหน้า พี่ซังแทจึงบอกว่าเขาไม่ใช่เด็กและไม่ขี้ขลาดแล้ว และหยิบสมุดร่างภาพรูปผีเสื้อให้คังแทดู โดยบอกว่ากำลังฝึกวาด เพราะต้องหาประตูให้เจอก่อนคุณลุงคันพิลอง ต่อไปนี้จะไม่หนีอีกแล้ว คังแทดีใจและถามว่าต่อไปนี้พี่จะปกป้องเขาใช่ไหม พี่ซังแทจึงตอบว่าตอนนี้เขามีทั้งน้องชายและน้องสาวที่ต้องปกป้อง
คังแทโทรหามุนยองด้วยความเป็นห่วง โดยแนะนำให้ประธานอีหรือซึงแจมาอยู่เป็นเพื่อน และล็อคประตูบ้านด้วย แต่มุนยองไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายขณะที่เธอกำลังทำงาน ระหว่างนั้นมุนยองได้ยินเสียงคนไข้ยูซอนแฮเรียกคังแทว่าพี่ เขาขอให้เธอทำงานต่อและวางสายไป
ยูซอนแฮเป็นโรคหลายบุคลิก และโดนทำร้ายตั้งแต่เด็ก จึงสร้างตัวตนอื่นขึ้นมา พ่อแม่คิดว่าเธอโดนผีสิง จึงส่งไปเป็นลูกบุญธรรมที่สำนักร่างทรง ขณะที่คุยกับคังแท เธอมีสภาพจิตเป็นเด็ก และเมื่อรู้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล เธอจึงบ่นกับคังแทว่าเธอถูกซ้อมและโดนหามส่งโรงพยาบาลอีกแล้ว จากนั้นเธอก็แนะนำตัวเองว่าชื่อยูซอนแฮ เรียนอยู่ชั้น ป.1 อายุแปดขวบ ทันใดนั้นจูรีก็มาตามยูซอนแฮกลับไป
โกแดฮวานอาการโคม่า จึงถูกแยกไปอยู่ที่ห้องสังเกตอาการ หัวหน้าพยาบาลจึงฝากให้คังแทแจ้งโกมุนยองและขอให้เธอทำใจไว้ เมื่อกลับมาถึงมุนยองจึงถามถึงผู้หญิงเสียงเด็กที่เรียกคังแทว่าพี่ เขาตอบว่าเป็นคนไข้ที่อายุมากกว่าเธอสิบสามปี จากนั้นคังแทพยายามจะบอกเรื่องพ่อของเธอ แต่เธอไม่สนใจที่จะไปเยี่ยม คังแทจึงถามเธอให้แน่ใจว่าจะไม่เสียใจภายหลัง และเปรียบเทียบว่าโกแดฮวานเป็นพระราชาหูลา ที่ต้องระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจ และมุนยองอาจจะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว
ในคืนนั้นขณะที่โกแดฮวานอยู่ในห้องสังเกตอาการ ยูซอนแฮได้ยินเสียงคนเดินและฮัมเพลง เธอรู้สึกหวาดกลัวและอุ้มตุ๊กตาไปแอบอยู่ใต้เตียง
มุนยองจึงเล่านิทานในวัยเด็กให้คังแทฟัง เรื่อง”พ่อของจังฮวากับฮงรยอน” ซึ่งทำให้เธอเกลียดพ่อมาก เพราะต่อให้ลูกๆ ถูกแม่เลี้ยงรังแกอย่างไร พ่อก็ทำเป็นไม่รู้และยืนมองเฉยๆ เธอจึงคิดว่าคนที่ละเลยไม่ใส่ใจ แย่ยิ่งกว่าคนที่ลงมือรังแกเสียอีก และสุดท้ายคนที่ลงมือฆ่าจังฮวาและฮงรยอน ก็คือพ่อนั่นเอง
มุนยองดูภาพวาดของซังแท และขอให้เขาแก้ไขเพราะไม่มีภาพใบหน้านอกจากระบายสีทึบเท่านั้น มุนยองต้องการให้เห็นสีหน้าของตัวละคร แต่ซังแทบอกว่ายาก และไม่อยากวาดตามการ์ดแสดงอารมณ์ของบุคคล เพราะนั่นจะไม่ใช่ผลงานมุนซังแทจริงๆ เธอจึงให้การบ้านโดยเริ่มฝึกใหม่ด้วยการหัดสังเกตสีหน้าของคนอื่นๆ และสร้างการ์ดของมุนซังแทขึ้นมาเอง
ประธานอีมารอรับนัมจูรีที่ป้ายรถเมล์หลังจากที่เธอเลิกงานดึก โดยอ้างว่าไฟทางบางดวงเสียจึงเป็นห่วง เขายอมรับกับเธอว่าโกหกเรื่องไปดูตัวผู้หญิง เมื่อถูกถามถึงเรื่องสเปก เขาจึงนำคำพูดของแม่ตอบจูรีไปว่า เป็นผู้หญิงที่พึ่งพาเขาได้ยามที่เหนื่อยล้า สามารถบ่นได้ทุกเรื่อง เหมือนเป็นพ่อกับลูกสาว จูรีจึงว่าเขาเป็นโรคจิต
ยูซอนแฮแสดงความหวาดกลัวและแอบอยู่หลังคังแท เมื่อพ่อของเธอมาหาที่โรงพยาบาล ผอ.จึงเรียกพ่อของเธอเข้าไปต่อว่าที่เขาบังคับให้เธอปลูกถ่ายตับให้เขา จากนั้นพ่อของเธอก็มาตามหา ขณะที่คังแทพายูซอนแฮมานั่งเล่นในสวน ยูซอนแฮขอให้คังแทปกป้องเธอ โดยที่เธอหลบอยู่หลังคังแทและร้องไห้ระบายความในใจออกมาเหมือนตัวเองยังคงเป็นเด็กแปดขวบ เมื่อของเธอไปแล้ว คังแทจึงกอดเพื่อปลอบใจเธอ
ซังแทไปหาแจซูเพื่อทำการบ้านตามที่มุนยองสั่ง เขาขอให้แจซูทำสีหน้าอารมณ์ต่างๆเพื่อที่เขาจะวาดรูป แต่ไม่ว่าอารมณ์ไหน แจซูก็ทำได้เพียงสีหน้าเดียวเท่านั้น จนกระทั่งซึงแจเข้ามา ซังแทจึงขอให้เธอช่วยโดยให้ทำสีหน้าน่ารัก สีหน้าที่ซึงแจทำ ดันไปเข้าตาแจซูจนเอ่ยปากออกมาว่าเธอน่ารัก
มุนยองโทรชวนจูรีไปดื่มด้วยกันที่ปราสาทเพราะคังแทเข้าเวรดึก เมื่อแม่ของจูรีเห็นประธานอีกระสับกระส่าย จึงบอกเขาว่าจูรีไปดื่มกับมุนยอง
ประธานอีตั้งท่าจะไปรับกลับ แต่แม่ขอให้เพื่อนเก่าได้ปรับทุกข์กัน มุนยองบอกจูรีว่าเธอกลัวแม่มาก จึงพยายามเป็นลูกที่เชื่อฟังมาตลอด เพื่อจะได้ไม่โดนเกลียด ตอนนั้นไม่มีใครช่วยเธอเลย นอกจากเด็กชายคังแท เธออยากจะหนีไปกับเขา แต่ว่าแม่มาขวางไว้ พ่อปล่อยให้เธอถูกเลี้ยงตามวิธีของแม่ โดยสิ่งเดียวที่พ่อทำให้เธอได้ ก็คือการเล่านิทาน ซึ่งเป็นครั้งเดียวเท่านั้น และความทรงจำครั้งเดียวนั้น มันไม่เคยหายไปจากความทรงจำของเธอเลย
หัวหน้าพยาบาลเข้ามาดูอาการของโกแดฮวาน เขาจึงเล่าให้เธอฟังว่า เขาทำบาปใหญ่หลวงและไม่ใครที่เขาจะขอให้ยกโทษให้เขาได้เลย จากนั้นหัวหน้าพยาบาลจึงกุมมือของเขาไว้ โกแดฮวานเล่าต่ออีกว่า เขาฆ่าภรรยาตัวเอง เพราะหลังจากที่เธอฆ่าคนอื่นตายแล้ว ก็ยังกลับมาฮัมเพลงอยู่ได้ ตอนนั้นตัวเขาเพิ่งเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง ซึ่งจะทำให้เสียความทรงจำและมีอาการสมองเสื่อม
ในคืนนั้นขณะที่ฟังข่าวว่ามีการฆาตกรรม จึงถามภรรยาว่าแม่บ้านหายไปไหน และเมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนฆ่า เขาจึงรู้สึกเป็นห่วงมุนยองว่าจะเป็นปีศาจเหมือนกับแม่ หลังจากที่เขาตายไป แต่เธอเอาแต่หัวเราะชอบใจ เขาจึงผลักเธอตกลงมาจากชั้นบนและคิดว่าเธอตายแน่ๆ ขณะนั้นเองคังแทก็เข้ามาเยี่ยมและได้ยินว่าโกแดฮวานกำลังจะเล่าเรื่องมุนยองต่อ เขาจึงอยู่ฟังด้วย โกแดฮวานเล่าว่าตอนนั้นมุนยองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง จากนั้นเขาก็นำร่างของภรรยาไปขังไว้ในห้องใต้ดิน ในคืนหนึ่งเขากลับมาจากข้างนอกและเห็นมุนยองนั่งรออยู่ที่บันได เขาอ้างว่านอนไม่หลับเลยไปนั่งตกปลาที่อ่างเก็บน้ำ ทั้งที่จริงแล้วเขานำศพของภรรยาใส่กระเป๋าไปโยนทิ้งน้ำ มุนยองรู้ทุกอย่างแต่ไม่พูดอะไร โกแดฮวานตอบคังแทว่านั่นไม่ใช่สาเหตุที่เขาจะฆ่ามุนยอง แต่เป็นเพราะเขากลัวว่าเธอจะเป็นปีศาจเหมือนกับแม่ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ผิดอะไรเลย
คังแทเลิกงานกลับมาและเห็นมุนยองยังคงหลับอยู่ที่โซฟา เขาจึงกุมมือและมองหน้าเธออยู่อย่างนั้น ในขณะที่โกแดฮวานสิ้นใจในเช้านั้นเอง เมื่อเสร็จพิธีเก็บอัฐิแล้ว พี่ซังแทจ้องหน้ามุนยองและบอกว่าเธอกำลังเศร้า เมื่อมุนยองปฏิเสธ พี่ซังแทจึงบอกว่าความเศร้าไม่ใช่เรื่องน่าอาย ขณะที่ทุกคนกำลังเดินกลับออกมา มุนยองบ่นว่าหิว จู่ๆเธอก็หยุดเดินและหันกลับไปมองที่เก็บอัฐิของพ่อ และนึกถึงนิทานที่พ่อเคยเล่าให้ฟัง “ณ ปราสาทแห่งหนึ่งในป่าลึก เจ้าหญิงผู้เลอโฉมได้ถือกำเนิดขึ้นมา พระราชาจึงจัดงานฉลองและเชิญจอมเวท 12 คนมาร่วมงาน และพ่อบอกว่าได้สร้างปราสาทแห่งนี้ไว้ให้เจ้าหญิงอย่างเธอ
ขณะที่ทั้งประเทศกำลังรื่นเริงกับงานฉลองของเจ้าหญิง แม่มดที่กำลังโทสะก็ได้โผล่มาที่งานโดยไม่ได้รับเชิญ เพื่อทำลายงานฉลองของเจ้าหญิง…..”
แจซูคิดว่าโกแดฮวานเสียชีวิตเพราะหมดอายุขัย แต่แม่ของจูรีบอกว่าเขาตายเพราะความเศร้า
ประธานอีโล่งใจที่มุนยองมีคังแทและพี่ชายอยู่เป็นเพื่อน มุนยองนำรูปครอบครัวมาแขวนแทนรูปเก่าและปรึกษาคังแทว่าจะขายปราสาทหลังนี้ เพราะเธออยากเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง โดยตั้งสำนักพิมพ์ให้ประธานอี และเอาเงินที่เหลือไปซื้อรถบ้าน และเมื่อพี่ซังแทวาดรูปที่โรงพยาบาลเสร็จเมื่อไร ก็ให้คังแทลาออกจากงานทันที เพื่อไปเที่ยวเล่นอย่างไร้จุดหมายด้วยกันสามคน คังแทเห็นด้วยและขอให้เธอซื้อสูทชุดใหม่เพิ่มให้อีก เขาขอไปเที่ยวเซเรนเกตีและนอนห้องสวีทในโรงแรมหรู โดยขอให้เธอเลี้ยงเขาไปตลอดชีวิต มุนยองขอให้คังแทพูดสิ่งที่เขาต้องการจริงๆออกมา เขาจึงตอบว่าอยากเรียนหนังสือภาคค่ำ แต่มุนยองจะให้เขาเรียนออนไลน์เพราะไม่ต้องการให้เจอสาวๆ มุนยองตอบคังแทว่า ที่เธอต้องมาเป็นนักเขียนก็เพราะว่าเธอคือเจ้าหญิงที่รู้เรื่องของโลกนิทานดีที่สุด ซึ่งมีแค่ตอนจบเท่านั้นที่ดี คังแทคิดว่าแค่จบดีก็พอแล้ว
เช้านี้เมื่อทั้งสามคนไปถึงโรงพยาบาล คุณลุงคันพิลองชมซังแทว่าในที่สุดก็หาประตูเจอแล้ว พวกเขาจึงเดินไปดูรูปวาดที่ผนัง เมื่อซังแทเห็นรูปผีเสื้อซึ่งเขาไม่ได้วาดไว้ จึงเกิดอาการหวาดกลัวและพูดว่า นั่นคือผีเสื้อที่อยู่บนเสื้อของป้าที่ฆ่าแม่ มุนยองได้ยินดังนั้นจึงนึกถึงแม่ตนเองในชุดสีดำที่ติดเข็มกลัดนี้และบอกว่ามีตัวเดียวในโลก ซังแทยังคงพูดย้ำๆ ว่าผีเสื้อตัวนั้นฆ่าแม่ของเขา มุนยองตกใจและไม่เชื่อ จึงขอให้คังแทบอกเธอว่ามันไม่จริงก่อนที่จะวิ่งออกไป ในขณะที่หัวหน้าพยาบาลในชุดสีดำและติดเข็มกลัดผีเสื้อ กำลังขับรถและฮัมเพลงอย่างมีความสุข..