สปอยล์ If You Wish Upon Me ตอนที่ 2

2

กยอรเยขับรถด้วยความเร็วที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล ยอนจูหลบข้างทางจึงทำให้ชุดของเธอเปื้อนโคลน จึงเป็นเหตุให้เธอกระโดดถีบกระจกข้างรถของเขาหลุด แต่เธอก็รับปากว่าจะชดใช้ให้

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ทุกคนในทีมจีนี่เป็นจิตอาสาที่ไม่มีค่าตอบแทน คุณตาคนหนึ่งเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ คังแทชิกและกยอรเยจึงไปที่บ้านเก่าของคุณตาเพื่อขอร้องครอบครัวซึ่งเป็นเจ้าของใหม่ให้พวกเขาย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวก่อน เพื่อจะพาคุณตากลับมาอยู่ที่บ้านเดิมนี้เป็นครั้งสุดท้าย แต่พวกเขายังไม่ตัดสินใจ

กยอรเยไม่ร่วมกินอาหารกับทีมจีนี่ แม้ว่าฝีมือการทำอาหารของคุณนายยอมซุนจาจะเป็นเลิศก็ตาม กยอรเยนำรถสปอร์ตของเขาไปขายคืนให้กับเต็นท์รถที่เขาซื้อมา เขาช่วยคังแทชิกทำงานอาสาที่หน้าบ้านของครอบครัวนั้นเพื่อให้พวกเขาเปลี่ยนใจ คุณนายยอมซุนจาทำอาหารและฝากมาให้ภรรยาเจ้าของบ้านอีกด้วย ในที่สุดครอบครัวนี้ก็ตกลงที่จะย้ายออกไปอยู่ที่ห้องเดี่ยวชั่วคราวเพื่อให้คุณตากลับมาอยู่ในระยะสุดท้าย

เช้าวันต่อมาพยาบาลยอนจูและคังแทชิกพาคุณตานั่งรถพยาบาลเพื่อกลับบ้าน คังแทชิกต่อว่ากยอรเยที่ขับรถเร็วเกินไปเพราะคุณตาเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในรถ พวกเขาจึงถกเถียงกันเพราะความคิดของกยอรเยที่ว่าถึงอย่างไรคุณตาก็ต้องตายอยู่ดี ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทาง ทีมจีนี่ที่เหลือก็ไปช่วยกันจัดบ้านเพื่อรอต้อนรับคุณตา

ต้นพลับหน้าบ้านที่คุณตาปลูกไว้ตั้งแต่ตอนหนุ่ม มันคือความทรงจำของท่านกับครอบครัวที่จากไปแล้ว แต่ตอนนี้มันดูโรยราและไม่ค่อยออกผล ยอนจูจัดเตียงพยาบาลไว้ที่ริมหน้าต่างเพื่อให้คุณตาได้เห็นต้นพลับ

จางซอกจุนยังคงตามหากยอรเย เขาจึงไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบถามคดีรถหรูที่กยอรเยขับและเกิดอุบัติเหตุ โดยอ้างว่าตนเองเป็นผู้เสียหายและยังไม่ได้แจ้งความ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าตอนนี้กยอรเยทำงานอาสาอยู่ที่โรงพยาบาล

คังแทชิก ยอนจู และกยอรเย ผลัดกันเข้ากะเพื่อดูแลคุณตาที่บ้าน กยอรเยไม่ยอมร่วมกินอาหาร ยอนจูจึงให้ไส้กรอกไว้หนึ่งแท่งเพราะเขาต้องเข้ากะคนแรก ในคืนนั้นเขาถามคุณตาว่าไม่กลัวความตายหรือ ส่วนตัวเขาเองกลัวความตายก็จริงแต่การมีชีวิตอยู่มันน่ากลัวกว่า คุณตาจับมือกยอรเยเพื่อให้กำลังใจและขอบใจที่ขับรถมาส่ง สัมผัสนั้นทำให้กยอรเยรู้สึกอบอุ่นและบอกคุณตาว่าหากต้องการอะไรก็ให้เรียกเขาได้ตลอด ยอนจูอยู่หน้าห้องจึงได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน

เช้าวันต่อมา ทุกคนเห็นต้นพลับออกผลเต็มต้น ซึ่งกยอรเยนั่งทำลูกพลับปลอมทั้งคืนและทาสีเพื่อนำไปติดไว้ที่ต้นให้คุณตาได้เห็น คังแทชิกจึงคิดว่ากยอรเยไม่ใช่คนหยาบกระด้างหรือเลวร้ายอะไร เขาจดจำในสิ่งที่คุณตาพูดถึงลูกพลับ และทำเพื่อท่านโดยไม่ได้บอกใคร

กยอรเยต้องกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อนำข้าวของที่เหลือของคุณตากลับมา เขาเดินตามหาน้องหมาที่อยู่ชั้นสองและเห็นห้องผู้ป่วยรายหนึ่งถูกล็อคไว้ แต่คังแทชิกห้ามไม่ให้เข้าไปเด็ดขาด