สปอยล์ The Good Detective ตอนที่ 8

8

จีฮยอกเล่าให้ทนายโซฟังว่า นาฬิกาของเขาเป็นของที่ระลึกที่พ่อฝากลุงไว้ให้ แต่วันหนึ่งมันหายไป ลุงจึงโทรมาถามเพราะโอจองแทบอกว่าจีฮยอกเป็นคนขโมยไป นั่นคือครั้งแรกที่ลุงโทรมา ในวันที่ 6 พ.ย. 2015 สามวันหลังจากพบศพยุนจีซอน
 
นัมกุกฮยอนหนักใจเมื่อจองยูซอนเล่าว่า เธอบอกคังโดชางเรื่องนาฬิกา กุกฮยอนจึงบอกเธอว่าที่เขาเลือกเธอเพราะรู้สึกผิดต่อจางจินซูคู่หูของเขา โจซองแดแวะมาดื่มกาแฟที่ร้านของจองยูซอน หลังจากที่นัมกุกฮยอนโทรบอกว่ายูซอนเล่าเรื่องนาฬิกาให้โดชางฟังแล้วและเธอจะไปให้การในศาล

ผกก.มุน เรียกประชุมที่สองโดยที่ไม่มีโดชางและจีฮยอก เขาบอกว่าทุกคนเป็นเหมือนครอบครัว แต่หากใครคนใดคนหนึ่งทำร้ายครอบครัว ก็ถือว่าเป็นคนทรยศ หลังจากนั้นโดชางถูกย้ายไปอยู่แผนกอื่น และทุกคนต้องจับผู้ต้องสงสัยให้ได้วันละคน
ซอกยองไปหาอดีตอัยการคิมกีแทเพื่อถามเรื่องโอจองแทและหลักฐานใหม่ที่เขาจะให้ แต่คิมกีแทบอกให้เธอรอต่อไป จู่ๆซอกยองก็ได้รับคลิปเสียงการสนทนาของ ผกก.มุนกับอัยการจองซังอิล เรื่องคดีของอีแดชอล ยูจองซอกอนุญาตให้ซอกยองนำเรื่องนี้ไปตีพิมพ์ข่าวสำหรับวันรุ่งขึ้นได้ แต่ห้ามบอกใครจนกว่าข่าวจะออกมา จากนั้นยูจองซอกโทรหาท่านอธิบดีและบอกว่ามีเรื่องด่วนที่เขาต้องจัดการ


ทุกคนในทีมสองไปรวมตัวกันที่บ้านของโดชางเพื่อหารือคดีอีแดชอล จีฮยอกบอกว่ามีตำรวจบงการเรื่องนี้เพื่อใส่ร้ายอีแดชอลข้อหาฆาตกรรม และสิ่งที่มัดตัวอีแดชอลลก็คือเส้นผมของยุนจีซอนที่อยู่ในรถบรรทุกที่เขาขับ จากนั้นจีฮยอกจึงขอให้ทุกคนช่วยหาเส้นทางและตารางการตรวจสอบ และปกป้องพยานซึ่งก็คือจองยูซอน ส่วนโดชางและจีฮยอกไปสอบถาม รปภ.หมู่บ้านที่แดชอลเคยอยู่ จึงรู้ว่าแดชอลชอบพาลูกสาวนั่งรถบรรทุกไปด้วย

โดชางและจีฮยอกพาอีอึนฮเยไปคุยกันที่สำนักงานของทนายโซ เธอเล่าว่า ห้าวันหลังจากที่พบศพยุนจีซอน ในวันนั้นระหว่างที่เธอรอพ่ออยู่ที่รถ มีชายคนหนึ่งนำของบางอย่างมาใส่ไว้ที่ท้ายรถ เมื่อพ่อเธอเดินออกมา ชายคนนั้นก็วิ่งหนีไป แต่เธอจำหน้าเขาไม่ได้ โดชางขอให้เธอพยายามนึกให้ออก เพราะมันสำคัญต่อการพิจารณาคดีในวันนี้

เมื่อยูจองซอกบอกซอกยองถึงสาเหตุที่ข่าวของเธอไม่ถูกตีพิมพ์ว่า พวกเขากำลังสู้อยู่กับตำรวจและอัยการ จึงขอให้เธอลืมเรื่องนี้ไปซะ และคงไม่มีสำนักพิมพ์ไหนกล้าลงข่าวให้เธอ แต่ซอกยองบอกว่าแม้เธอจะปิดปากเงียบ แต่เรื่องนี้ก็จะติดตัวเธอไปตลอดชีวิต

หัวหน้าของยุนซังมีไปประชุมกับท่านอธิบดี และกล่าวชื่นชมเธอว่าเป็นผู้หมวดฝีมือดีในหน่วยคำร้องพลเรือน จากนั้นเขาสั่งให้เธอบอกทุกข้อมูลอย่างละเอียดในคดีอีแดชอลที่เธอเคยทำตอนนั้น

แจฮงและดงอุคไปรอจองยูซอนที่ร้านของเธอเพื่อพาไปที่ศาล เมื่อรอจนนานผิดปกติ และเห็นเธอนั่งรถของโจซองแดออกไป เมื่อตามไปจนถึงสำนักงานของโจซองแด แต่ไม่พบยูซอนที่นั่น จีฮยอกและทนายโซรอยูซอนที่ศาลด้วยความกระวนกระวายใจ ขณะที่โดชางไปเข้าเวรที่ห้องขัง ยูซอนโทรหาโดชางจากสนามบินและขอโทษที่เธอไม่สามารถไปให้การในศาลได้ เพราะกลัวว่าลูกของเธอจะตกอยู่ในอันตราย เมื่อวางสายแล้ว นัมกุกฮยอนนำตั๋วเครื่องบินมาให้เธอและบอกว่าจบคดีแล้วค่อยกลับมา โดชางบอกตัวเองว่าจะไม่ยอมปล่อยให้คนร้ายลอยนวลไปได้

โกจุนซอบแฟนของยุนจีซอนผู้ตาย ให้การต่อศาลว่าเคยเห็นนาฬิกาเรือนนี้ในห้องน้ำที่สตูดิโอของเธอ ซึ่งเธอบอกว่าเป็นของโอจองแท ทนายโซอ่านรายงานให้ศาลฟังว่า โอจองแทเคยโดนจับข้อหาเมาแล้วขับและกลับรถคร่อมเลนส์ ในคืนเดียวกับคลิปที่เขาไปโรงแรมแห่งหนึ่ง จึงยืนยันได้ว่าเป็นคลิปที่ปลอมแปลงขึ้นมา

ในคืนนั้นโอจองแทกลับรถเพื่อกลับไปที่ที่เหยื่อถูกทิ้ง เพื่อไปตามหานาฬิกาที่ทำตกไว้ และคนที่เก็บได้ก็รู้ว่าเป็นของโอจองแท จึงได้ทำข้อตกลงกันบางอย่าง ทนายโซตอบคำถามของศาลว่าตำรวจที่ทำคดีนี้ก็คือ นัมกุกฮยอน อัยการจองซังอิลคัดค้านเพื่อถามหาพยานหรือหลักฐานที่บ่งชี้ว่านัมกุกฮยอนเป็นคนเก็บนาฬิกาเรือนนั้น ในเมื่อไม่มีพยานหรือหลักฐาน จึงจำเป็นต้องพึ่งความทรงจำของช่างซ่อมนาฬิกาที่ทนายโซอ้างว่ามีเพียงแค่สองเรือนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ช่างซ่อมนาฬิกาอายุ 75 ปีแล้ว หลักฐานชิ้นต่อไปที่ทนายโซอ้างถึงก็คือเส้นผมที่พบในรถบรรทุกที่อีแดชอลเป็นผู้ขับ และชี้ให้ศาลเห็นว่าเส้นผมถูกพบห้าวันหลังจากที่พบศพ ซึ่งได้มีการทำความสะอาดและล้างรถไปแล้วหลังเกิดเหตุเพียงสามวัน และเมื่อทนายโซให้อีอึนฮเยดูคลิปที่นัมกุกฮยอนเคยให้สัมภาษณ์นักข่าว ซึ่งวันนั้นเขาสวมหมวกและกางเกงยีนส์ เหมือนกับที่อึนฮเยให้การ แต่ด้วยความกลัวเธอจึงบอกว่าจำไม่ได้

หลังเลิกศาลอีอึนฮเยรู้สึกผิดที่ไม่ยืนยันว่าเป็นนัมกุกฮยอน แต่ทนายโซก็ปลอบใจเธอว่าไม่โกหกศาลถือเป็นเรื่องที่ดี และหวังว่าทุกอย่างจะออกมาดี ขณะที่ซอกยองยืนอยู่ห่างๆและกำลังตัดสินใจว่าจะมอบคลิปเสียงให้เขาดีหรือไม่ เพราะยังคงกังวลกับคำพูดของยูจองซอกที่ว่า นอกจากอีแดชอลแล้ว พวกนั้นจะตามไล่ล่าและกำจัดทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ยุนซังมีไปพบอัยการจองซังอิลตามที่ ผกก.มุนบอก อัยการจึงบอกเธอว่าอีกไม่นานเธอจะได้เลื่อนขั้นพิเศษในฐานะที่ปกป้องเกียรติของตำรวจ

ยูจองซอกไปพบอดีตอัยการคิมกีแทเพื่อถามเรื่องไฟล์เสียงที่ซอกยองได้รับ แต่คิมกีแทปฏิเสธว่าไม่รู้และสิ่งที่เขาต้องการก็คือการได้ออกจากเรือนจำ จองซอกจึงขู่ว่าคิมกีแทได้เปิดกล่องแพนโดราแล้ว และเขาจะเป็นผู้ปิดมันเองเพื่อไม่ให้มีอะไรออกมา แต่จะเหลือที่ให้คิมกีแทไว้หายใจสักหน่อยเพื่อจะได้อยู่ต่อไปได้

ซอกยองไปดักรอจีฮยอกและเป่านกหวีดเรียกเขาโดยบอกว่าเป็นเรื่องฉุกเฉิน จีฮยอกบอกว่าคังโดชางจะขึ้นให้การในศาลสำหรับการพิจารณาคดีครั้งหน้า ซอกยองจึงถามว่าโดชางกำลังสู้กับใครอยู่ นัมกุกฮยอน อัยการจองซังอิล หรือว่าโอจองแท ทำให้จีฮยอกแปลกใจและสงสัยว่าเธออาจจะมีหลักฐานใหม่ แต่ซอกยองก็ปฏิเสธ

อัยการจองซังอิลเรียกอีแดชอลไปพบและขอให้เขาสารภาพว่าเป็นคนฆ่ายุนจีซอน แต่อีแดชอลยังคงยืนกรานปฏิเสธ เขาจึงพยายามจะยัดเยียดให้แดชอลยอมรับว่าฆ่าสายสืบจางจินซูโดยไม่เจตนา เพราะโมโหที่โดนไล่ล่าจนพลั้งมือฆ่าเขาตาย คังโดชางแต่งตัวเต็มยศเพื่อไปขึ้นศาล โดยลาป่วยและให้คนอื่นเข้าเวรแทน เมื่อ ผกก.มุนโทรมาถาม โดชางจึงท้าทายว่าถ้าอยากจะไล่เขาออกเลยก็ได้ และต่อว่าที่ ผกก.มุน เป็นคนทำลายชื่อเสียงของกรมตำรวจ

โดชางให้การว่า เขาเป็นคนทำอาวุธที่ก่อเหตุหายไป และยอมรับที่บกพร่องในหน้าที่เพราะความโกรธที่สายสืบจางถูกฆ่าตาย แต่ที่ไม่รายงานในตอนนั้นเพราะไม่คิดว่าตนเองทำผิด และไม่อยากให้เรื่องเล็กน้อยทำให้คนร้ายหลุดคดีไปได้ ตอนนี้เขากล้าเปิดเผยความจริงเพราะเห็นแก่ชีวิตและความเป็นความตายของคนคนหนึ่ง

จากนั้นยุนซังมีเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดีในฐานะพยาน อัยการจองซังอิลจึงเริ่มซักถามเธอถึงอุปนิสัยและการทำงานของคังโดชาง แต่ทนายโซคัดค้านว่านี่เป็นคดีของอีแดชอล ไม่ใช่คดีของคังโดชาง แต่ศาลไม่ฟังคำค้านโดยบอกว่าการบกพร่องในหน้าที่ของคังโดชางมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ยุนซังมีให้การว่าอาวุธไม่เคยหายไป เพราะเธอลืมไว้ในท้ายรถ แต่ที่คังโดชางให้การเท็จว่าเป็นคนทำหายเอง ก็เพราะต้องการปกปิดข้อผิดพลาดของเพื่อนร่วมงาน

โดชางระงับอารมณ์ไม่อยู่จึงตะโกนถามยุนซังมีว่า ทำไมเธอจึงไม่บอกว่าได้อาวุธคืนมาจาก ผกก.มุน แต่ยุนซังมีกลับตอบว่าโดชางเข้าใจผิดไปเอง บรรยากาศในห้องเริ่มเครียดเมื่ออัยการจองซังอิลเป็นฝ่ายได้เปรียบ แดชอลนึกถึงคำพูดของอัยการจองซังอิลก่อนหน้านี้ เขามองหน้าอัยการซังอิลก่อนตัดสินใจบอกศาลว่า เขาคือคนฆ่าสายสืบจางจินซูด้วยอารมณ์ชั่ววูบและไม่เจตนา เพราะโดนรังควานไม่เลิก แต่อัยการกลับหักหลังเขาโดยบอกต่อหน้าศาลว่า เมื่อห้าปีก่อนเขามาต่อรองกับอัยการเรื่องนี้เอง เพื่อให้บอกศาลว่าเขาแค่ฆ่าสายสืบจางและไม่ได้ฆ่ายุนจีซอน อีแดชอลถึงกับอึ้งและพูดไม่ออก จากนั้นอัยการจองซังอิลจึงประกาศว่าขอรับตัวเข้าศาลเลย เพราะถือเป็นการดูหมิ่นศาล ทุกคนออกมาจากห้องด้วยความเสียใจและผิดหวัง ซอกยองบอกจีฮยอกว่าเรื่องนี้ได้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

โดชางไปเยี่ยมอีแดชอลอีกครั้งเพื่อขอโทษทุกสิ่ง แต่อีแดชอลพอใจแล้วที่มีคนเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์ และขอร้องให้โดชางไปร่วมพิธีงานแต่งของอึนฮเยตามที่เคยรับปาก ขณะที่ถูกควบคุมตัวไปแดนประหาร อึนฮเยและโดชางยืนกุมมือกันและโบกมือลาพ่อของเธอเป็นครั้งสุดท้าย

โอจองแทมอบนาฬิกาเรือนใหม่ให้นัมกุกฮยอนเป็นของขวัญ โดยบอกว่าคราวนี้ไม่ต้องนำไปขายและต่อไปคงไม่ต้องพบกันอีก ก่อนกลับโอจองแทบอกนัมกุกฮยอนว่า เขารู้ว่าใครคือฆาตกรที่ฆ่ายุนจีซอน แต่สงสัยว่าใครคือคนที่ฆ่าสายสืบจางจินซู จีฮยอกแปลกใจที่เห็นยูจองซอก ในสถานที่เก็บอัฐิ ขณะที่เขาและโดชางไปเยี่ยมอัฐิของอีแดชอล..