สปอยล์ The Good Detective ตอนที่ 7

7

โดชางนำสำนวนการสอบปากคำอีแดชอลมาทบทวนอีกครั้งเพื่อหาข้อผิดพลาด ในตอนนั้นเขาเชื่อผลการสรุปคดีตามที่นัมกุกฮยอนบอก และไม่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้วยตัวเองอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าเป็นอาชญากรรมที่ไตร่ตรองไว้ก่อน ตอนนั้นเขาพยายามกำจัดความคิดที่เชื่อว่าอีแดชอลบริสุทธิ์ และจะทำคดีตามหลักฐานเท่านั้น เมื่อนำเรื่องนี้ไปปรึกษาทนายโซ เขาบอกว่ามันกว้างเกินไปและคงไม่มีผลกับการรื้อคดีนี้สักเท่าไร และตอนนี้ทนายโซมั่นใจว่าจะชนะคดีนี้แน่นอน

ทนายโซไปหาอีแดชอลและบอกว่ามีความหวังแล้ว แต่แดชอลขอให้ทนายโซปล่อยให้เขาตายไปอย่างเงียบๆ ดีกว่า เพราะเขาสิ้นหวังตั้งแต่เห็นคลิปอีอึนฮเยลูกสาวของตนเองเป็นลมชัก โดยมีนักโทษคนหนึ่งนำมาให้ดู

อีแดชอลขอให้โดชางหยุดทำคดีนี้ จีฮยอกจึงบอกว่าเขาเจออึนฮเยบ่อยๆ และตอนนี้โดชางเป็นคนดูแลเธออยู่ โดชางจึงพยายามโน้มน้าวแดชอล ถึงแม้ไม่สามารถชนะคดี แต่อย่างน้อยก็จะช่วยให้ลดโทษลงได้ เพื่อจะได้เห็นหน้าลูกสาวต่อไปอีก อีแดชอลโมโหที่ลากลูกสาวของเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง และโทษโดชางที่ทำให้อึนฮเยกลายเป็นเด็กข้างถนน โดชางจึงบอกว่าอึนฮเยเป็นคนขอร้องให้เขาช่วย และขอให้อีแดชอลสู้ต่อไปเพื่อลูก จีฮยอกพยายามถามอีแดชอลว่ารู้ข่าวอาการของอึนฮเยได้อย่างไร แต่เขาไม่ยอมบอก และขอร้องโดชางว่า ในวันที่อีอึนฮเยแต่งงาน ขอให้โดชางเข้าพิธีแทนเขาซึ่งเป็นพ่อ

ยูจองรยอลถูกคณะกรรมาธิการไต่สวนเรื่องที่โอจองแทได้รับอนุญาตให้เริ่มทำกองทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งโอจองแทไม่มีประสบการณ์ทางการเงินมาก่อน แต่ได้รับสิทธ์เพียงคนเดียวในอินชอน และโอจองแทก็อยู่ในเขตเลือกตั้งของยูจองรยอล แต่ยูจองรยอลปฏิเสธโดยบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องของโลกการเงิน และรู้แต่เรื่องกฎหมายเท่านั้น ส่วนเรื่องกึมจางโฮเพื่อนสมัยเรียนของเขา ขึ้นนั่งแท่นบริหารเป็นคณะกรรมาธิการการเงิน ก็เป็นเรื่องบังเอิญ

ยูจองซอกบอกโอจองแทว่า คณะกรรมาธิการเชิญให้เขาไปรับการไต่สวนด้วยเช่นกัน ซึ่งโอจองแทสามารถปฏิเสธได้และจ่ายค่าปรับในภายหลัง โอจองแทบอกยูจองซอกว่าช่วงนี้มีตำรวจมาหาเรื่องคดีอีแดชอล และเขาอาจจะถูกเรียกตัว เมื่อมีการพิจารณาคดีใหม่ จองแทบอกยูจองซอกเป็นนัยว่ามีเหตุการณ์ที่น่าสงสัย แต่เขาจะไม่มีวันยอมขึ้นศาล

ยูจองรยอลบอกจองซอกน้องชายว่า หากปล่อยให้จองแททำตามอำเภอใจ อีกหน่อยก็จะถูกเขาควบคุมได้ แต่จองซอกบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีทางเลือก จึงต้องตามน้ำไปก่อน ยูจองรยอลจึงสั่งให้น้องชายหาจุดอ่อนของโอจองแท เพราะหลังจากที่การไต่สวนจบลง เขาตั้งใจจะขยี้โอจองแทให้ได้ และยูจองซอกก็เห็นด้วย

ยูจองซอกไปเข้าร่วมรับฟังการไต่ส่วนของโอจองแท จองแทตอบคณะกรรมมาธิการว่า เขาเปลี่ยนใจมารับฟังการไต่สวน เพราะมีคนหนึ่งบอกว่าสามารถจ่ายค่าปรับได้ แต่เขามองเห็นว่าค่าปรับค่อนข้างสูง เขาตอบคณะกรรมาธิการว่ารู้จักกับยูจองรยอลที่สนามกอล์ฟและร้านเหล้าเป็นบางครั้ง ในขณะที่ยูจองรยอลเคยตอบไว้ว่ารู้จักกับพ่อของโอจองแท แต่ไม่เคยเจอจองแทเลย โอจองแทตอบแบบนี้เพื่อให้คณะกรรมาธิการมองว่ายูจองรยอลให้การเท็จ ยูจองซอกซึ่งยืนฟังอยู่ ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจ โอจองแทยังบอกอีกว่าโอจองซูพ่อของเขาเป็นคนจัดการเรื่องการอนุมัติเงินทั้งหมด และยอมรับว่าเขาไปพบยูจองรยอลเพื่อขอให้เขาช่วยจริงๆ แต่ว่าถูกปฏิเสธ

เขาจึงเตรียมการให้ละเอียดมากขึ้น และสุดท้ายยูจองรยอลก็ยอมช่วยโดยให้ผูกขาดข้อตกลง โอจองแทบอกคณะกรรมาธิการว่า หากตรวจสอบว่าไม่มีความยุติธรรมเกิดขึ้นในช่วงที่พ่อของเขาวางรากฐานการเงิน เขาก็ยินดีจะทิ้งโครงการทุกอย่างที่เขาดูแล
จีฮยอกไปหาอึนฮเยที่โรงอาบน้ำ จึงรู้ว่าพัคฮงดูตั้งใจทำให้เธอโกรธเพื่อให้เกิดอาการลมชักและอัดคลิปไว้ จากนั้นเขาก็ไปหาพัคฮงดู และบังคับให้เขาสารภาพความจริง โดยอัดคลิปไว้เพื่อนำไปให้อีแดชอลดู จีฮยอกบอกโดชางว่าโอจองแทสั่งให้โจซองแดมาจ้างพัคฮงดูอีกที

ยูจองซอกปรึกษากับพี่ชายว่า โอจองแทต้องมีหลักฐานอะไรสักอย่างถึงได้กล้าหักหลังพวกเขาแบบนั้น ยูจองรยอลจึงคิดว่า หากสักวันหนึ่งโอจองแทยอมทิ้งกองทรัพย์สินอสังหาและกำไรทั้งหมด แปลว่าวันนั้นตั้งใจจะต้อนให้จนมุมโดยไม่ต้องใช้หลักฐานอะไรเลย และสิ่งที่โอจองแทปกป้องก็ไม่ใช่เงินแต่ว่ามันคืออะไรกันแน่

ซอกยองนั่งดูคลิปการไต่สวนที่เพิ่งผ่านมา และได้เห็นหัวหน้ายูจองซอกอยู่ในนั้นด้วย จากนั้นเขาก็สั่งให้เธอหาหลักฐานการทำผิดของโอจองแทและนำมาให้เขา
จีฮยอกไปหาโอจองแทและบอกว่าถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย เขาจึงถามน้องชายว่าต้องทำอย่างไรถึงจะหลุดจากสถานะนั้น แต่จีฮยอกบอกให้เขาอยู่เฉยๆและขอร้องว่าอย่ายุ่งกับเด็กๆ

นัมกุกฮยอนรายงาน ผกก.มุน ว่าทนายโซกำลังจะยื่นฟ้องขอพิจารณาคดีอีแดชอลอีกครั้ง โดยมีคังโดชางอยู่เบื้องหลัง

จองยูซอนภรรยาของนักสืบจางจินซูไปหาคังโดชางเมื่อรู้ข่าวว่าเขากำลังจะรื้อคดีอีแดชอล เธอบอกว่าตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าสามีของเธอ เพราะอนาคตของเธอและลูกสาวสำคัญมากกว่าเรื่องนี้ ค่าชดเชยจากการตายในหน้าที่ถือว่าเพียงพอแล้วและเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากสามี แต่หากอีแดชอลพ้นผิด เธอเกรงว่าจะต้องคืนค่าชดเชยเหล่านั้น ในคืนนั้นนัมกุกฮยอนโทรหาเธอ เธอบอกว่าไปคุยคังโดชางมาแล้ว และสามีของเธออาจจะไม่ได้ตายในหน้าที่

เมื่อทุกคนกลับบ้านหมดแล้ว นัมกุกฮยอนจึงค้นหาของบางอย่าง จนกระทั่งเจอคลิปที่โต๊ะทำงานของชิมดงอุค และนำไปให้ ผกก.มุนดู เขาจึงแน่ใจว่าทีมอาชญากรรมสองทุกคนรู้เรื่องนี้แล้ว และสั่งให้กุกฮยอนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ จากนั้น ผกก.มุน จึงนำคลิปนี้ให้ฝ่ายตรวจสอบเช็คอีกครั้ง เขายืนยันว่าอีแดชอลยังคงทำงานในวันเวลาที่เกิดการฆาตกรรม จากนั้นผกก. จึงขอไดรฟ์ข้อมูลกลับคืน และบอกว่าจะไปคุยกับอัยการอีกครั้ง ฝ่ายตรวจสอบจึงย้ำกับ ผกก.มุนว่า ขอให้คุยจริงๆ

ผกก.มุนโทรปรึกษาอัยการจองซังอิลผู้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ โดยส่งคลิปให้ดูและบอกว่าคลิปนี้ถึงมือทนายแล้ว เขาจึงกำชับ ผกก. ไม่ให้คลิปนี้หลุดไปถึงมือคนอื่นอีก ไม่เช่นนั้นพวกเขาทั้งคู่ต้องลงจากตำแหน่งแน่ๆ

จีฮยอกและซอกยองส่งโดชางนั่งแท็กซี่กลับบ้านเมื่อเห็นว่าเขาเมามากแล้ว จากนั้นพวกเขาก็ไปดื่มกันต่อ ซอกยองบอกว่าโอจองแทคือจุดอ่อนของ ส.ส.ยูจองรยอล เมื่อซอกยองถามจีฮยอกถึงหลักฐานอื่นที่จะมัดตัวโอจองแทได้ แต่เขารู้ทันเสียก่อนว่าเป็นความต้องการของยูจองซอกที่จะปกป้องโอจองแทซึ่งเป็นจุดอ่อนของพี่ชายตัวเองและเป็นว่าที่ รมต.ยุติธรรม แต่ซอกยองไม่เชื่อว่าหัวหน้าของเธอจะเป็นคนเช่นนั้น
ทนายโซบอกคังโดชางว่า อัยการจองซังอิลเป็นผู้ถูกเลือกในการพิจารณาคดีใหม่ เพราะเขาเคยทำคดีอีแดชอลในตอนนั้น จีฮยอกต้องการเปลี่ยนใจอีแดชอลให้มาขึ้นศาล เขาจึงส่งคลิปคำสารภาพของพัคฮงดูไปให้อีแดชอล โดยจ้างนักโทษคนเดิมที่เอาคลิปอาการชักของอึนฮเยไปให้เขาดู

เมื่ออีแดชอลถูกนำตัวเข้ามาในห้องพิจารณาคดี อีอึนฮเยซึ่งนั่งอยู่กับคังโดชางได้ยิ้มให้กำลังใจพ่อ เพื่อนของยุนจีซอนผู้ตาย ได้มาเป็นพยานให้อีแดชอล โดยบอกว่าเธอและยุนจีซอนรู้จักกับจำเลย ก็เพราะเขาเป็นคนส่งอุปกรณ์ที่เธอสั่งจากต่างประเทศ และมาฝากให้ลูกสาวได้มาเรียนวาดรูปกับพวกเธอ เมื่อทนายโซอ่านรายงานว่า อีแดชอลแอบชอบผู้ตาย และชวนไปดื่ม แต่ผู้ตายปฏิเสธ เขาจึงขโมยชุดชั้นในของเธอในสตูดิโอ และพยายามลักพาตัวขึ้นรถตู้เพื่อไปข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืน จึงโดนบีบคอจนตาย แต่พยานยืนยันว่าเธอนอนที่สตูดิโอ และหากมีคนขโมยชุดชั้นในจริงๆ ก็คงเป็นเธอเท่านั้น

ทนายโซอ่านรายงานอีกฉบับซึ่งเขียนไม่เหมือนกัน และบอกว่าสำนวนนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อสามปีก่อนโดยตำรวจสถานีซอบูก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ และคนร้ายตัวจริงก็คือ คิมชีแซ ซึ่งอีแดชอลไม่เคยเจอเขามาก่อนด้วยซ้ำ ทนายโซมีความเห็นว่ารายงานทั้งสองฉบับนี้ถูกคัดลอกมาจากคดีของคิมชีแซ โดชางบอกจีฮยอกว่าเพิ่งเจอรายงานนี้เมื่อคืน ระหว่างที่ตรวจสอบแฟ้มคดีที่นัมกุกฮยอนเคยทำ จีฮยอกจึงบอกว่าถือเป็นข้อดีของการสอบสวนตำรวจด้วยกัน ขณะที่โดชางบอกว่าเขารู้สึกเหมือนแทงข้างหลังคนในครอบครัว


จากนั้นทนายโซได้เปิดคลิปขณะที่อีแดชอลกำลังทำงานในคืนเกิดเหตุ เพื่อยืนยันที่อยู่ของเขาในเวลาที่ศพถูกโยนทิ้ง จากนั้นเขาก็เปิดคลิปที่โอจองแทเข้าโรงแรมกับผู้หญิงคนหนึ่ง และบอกว่าคลิปนี้ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเป็นกาปลอมแปลงเวลาในคลิปด้วยการถ่ายวิดีโอต้นฉบับจากกล้องอีกตัวหนึ่ง

จากนั้นอัยการจองซังอิลจึงคัดค้านขึ้นมาว่าทนายโซได้สืบดูคลิปแรกที่ถูกปลอมแปลงหรือเปล่า และต่อว่าที่ทนายโซมีอคติเกินไป

จีฮยอกและโดชางไปสถานที่ที่โอจองแทเคยโดนตำรวจจับข้อหาเมาแล้วขับในคืนเกิดเหตุ ซึ่งในคืนนั้นจู่ๆ โอจองแทก็ยูเทิร์นกระทันหันขณะที่ฝนกำลังตกหนัก และรถของจองแทก็จอดอยู่ตรงนั้นหลังจากที่ถูกควบคุมตัวไป จีฮยอกตรวจสอบว่าจุดนี้ห่างจากจุดที่เหยื่อถูกทิ้ง 13 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาขับรถประมาณสิบนาที โดชางแปลกใจว่าทำไมโอจองแทจึงกลับรถเพื่อกลับไปยังจุดเกิดเหตุอีก จีฮยอกจึงให้เขาดูนาฬิกาข้อมือและบอกว่าโอจองแทคงจะลืมของสำคัญไว้

โอจองแทโทรไปกำชับยูจองซอก ไม่ให้มีชื่อเขาหลุดมาในข่าว ยูจองซอกรับปากโดยบอกว่าตราบใดจองแทไม่ล้ำเส้นอีก จากนั้นจองแทก็แสดงความยินดีที่ยูจองรยอลได้รับตำแหน่ง รมต.ยุติธรรม และบอกว่าขอให้ดำรงตำแหน่งได้นานๆ โอจองแทเรียกนัมกุกฮยอนไปต่อว่าที่เขาทำพลาด

จีฮยอกและโดชางไปพบจองยูซอนที่ร้าน เพื่อสอบถามเรื่องนาฬิกาที่มีชื่อเธอเป็นผู้ส่งเข้าประมูล เมื่อถูกกดดันมากๆเธอจึงเล่าความจริงว่านัมกุกฮยอนเป็นคนพบนาฬิกาเรือนนั้น และเธอจะยอมให้การในศาล โดยที่นัมกุกฮยอนจอดรถดูอยู่ด้านนอก