สปอยล์ The Good Detective ตอนที่ 3

3

จีฮยอกต้องการให้อีอึนฮเยแอดมิทที่ รพ.เพื่อให้หมอตรวจโดยละเอียด แม้ว่าหมอจะคัดค้านว่าเป็นแค่อาการลมชักและไม่จำเป็นต้องแอดมิท จีฮยอกสั่งให้ตำรวจเฝ้าหน้าห้องของเธอในฐานะพยาน อีอึนฮเยไม่ให้ความร่วมมือกับจีฮยอกที่เขาต้องการจับพัคกอนโฮเข้าคุก จีฮยอกจึงขู่ว่าหลังจากออกจาก รพ.เขาจะจับเธอในข้อหาลักทรัพย์
 
ระหว่างมื้ออาหารที่ ผกก.มุน เป็นเจ้ามือเลี้ยงทีมอาชญากรรมรุนแรงสอง โดชางยังข้องใจกับคดีของอีแดชอล และพยายามจะถาม ผกก.มุน แต่โดชางกลับโดน ผกก.ต่อว่า หลังจากที่ทุกคนเมามายและ ผกก.มุนกลับไปแล้ว ลูกน้องบางคนบอกโดชางว่าอยากให้สืบคดีนี้ต่อ แต่โดชางเปลี่ยนใจ ส่วนอีเมล์ลับที่เขาได้รับ ก็ขอให้หยุดอยู่ที่เขา ขณะที่จีฮยอกเพิ่งตามมาถึงจึงได้ยินทุกอย่าง ระหว่างทางที่จีฮยอกขับรถไปส่งโดชาง เขาถามอีกครั้งหากโดชางจะไม่สานต่อคดีนี้ แต่โดชางบอกให้จีฮยอกปิดหูปิดตากับเรื่องนี้ไปซะ เพราะ ผกก.ไม่เปิดไฟเขียวให้

จีฮยอกไปที่ตลาดขายส่งนาฬิกาเพราะต้องการรู้ว่านาฬิกาที่เขาประมูลมา เจ้าของเดิมคือใคร เจ้าของร้านจึงให้เบอร์ติดต่อของจองยูซอน ซึ่งไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์มือถือ จีฮยอกเปิดคลิปเสียงเก่าของลุง ที่ถามถึงนาฬิกาของพ่อเขาที่หายไป และจองแทบอกว่าจีฮยอกเป็นคนขโมยไป

ทุกคนในทีมหารือกันเพื่อต้องการรื้อคดีของอีแดชอล แต่หัวหน้าอูบงชิกบอกว่าพัคกอนโฮเชื่อถือไม่ได้ เพราะต้องการปั่นหัวตำรวจ เมื่อโดชางเดินเข้ามา เขาถูกทุกคนรุมถามถึงคดีนี้ ขณะที่อัยการยาง ก็โทรมาถามเขาเรื่องพัคกอนโฮ ทำให้โดชางหงุดหงิดและออกไปนั่งใช้ความคิดเรื่องคดีนี้ เขาตัดสินใจบอกทุกคนว่า เขาต้องการได้รับการประเมินเลื่อนขั้น และขอให้ทุกคนหลับหูหลับตากับคดีนี้

หลังจากที่พัคกอนโฮ ถูกสำนักงานอัยการเขตอินชอนปล่อยตัว เขาโทรกลับหาชายคนหนึ่งซึ่งเคยจ้างให้เขาฆ่าอีแดชอลในคุก และจะปลดหนี้พนันให้เขา แต่คราวนี้พัคกอนโฮต้องการพบผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อต้องการเรียกเงินอีก

ซอกยองซึ่งกำลังมาสำนักงานอัยการ เธอเห็นพัคกอนโฮกำลังคุยโทรศัพท์ที่ด้านหน้า จึงขอคุยด้วย ซอกยองไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก พัคกอนโฮบอกว่าจะติดต่อเธอกลับไป หลังจากที่คนใส่ร้ายอีแดชอลมาพบเขา

จีฮยอกไปหาจองแทซึ่งเป็นลูกผู้พี่และเป็นเจ้าของบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อจะสืบเรื่องนาฬิกา จองแทแปลกใจที่จีฮยอกได้มาจากการประมูล ทั้งที่เขาเป็นคนขโมยไปเพื่อใส่ร้ายจีฮยอกที่ไม่เชื่อฟังเขาในตอนนั้น จองแทแสดงความเป็นห่วงที่เห็นจีฮยอกมัวแต่ไล่จับคนร้าย เพราะมีแผลในใจที่พ่อของเขาโดนฆาตกรรมตอนที่เขาเป็นเด็ก

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เล่าให้ซอกยองฟังว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2019 อีแดชอลถูกพัคกอนโฮซ้อมในห้องขัง แต่อีแดชอลบอกกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต่อหน้าพัคกอนโฮว่าเขาไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป จึงลงมือต่อยพัคกอนโฮก่อน เจ้าหน้าที่บอกซอกยองว่านักโทษประหารจะไม่โกหก และพัคกอนโฮก็เป็นคนดีไม่สามารถฆ่าใครได้ เธอจึงให้เขาดูคลิปที่โจบยองกิลนักฆ่าสิบเอ็ดศพอ้างว่าอีแดชอลถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำร้าย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าโจบยองกิลสติไม่ค่อยดี ซอกยองจึงย้อนถาม จนท ว่า เขาเพิ่งพูดเองว่านักโทษประหารจะไม่พูดโกหก ทำให้เจ้าหน้าที่คนนี้รู้สึกอึดอัดและลำบากใจ
จีฮยอกแวะไปดื่มกาแฟที่ร้านของจองยูซอน ตามที่ได้ข้อมูลจากตลาดนาฬิกา เธอเป็นภรรยาของนักสืบที่ถูกฆ่าตายในคดีอีแดชอล

คังโดชางได้รับคำชมเชยจาก ผกก.มุน ในที่ประชุม เพราะผกก.หวังจะให้โดชางได้รับคะแนนการประเมินจากคนเหล่านี้ด้วย หลังจากนั้นเขาขอคุยกับโดชางเป็นการส่วนตัวเพื่อให้เขาไปพักร้อน โดยอ้างว่าจะช่วยเคลียร์เรื่องการใช้งบประมาณเกินความจำเป็นที่ยุนซังมีกำลังกลั่นแกล้ง ผกก.ยังบอกโดชางอีกว่าให้อยู่ในขอบเขต และไม่ควรเล่นใหญ่เพราะจะทำให้ตัวเองเกิดอันตราย

ขณะที่ทุกคนเห็นข่าวคำสั่งประหารซึ่งมีรายชื่อของอีแดชอลอยู่ด้วย โดชางจึงลาทุกคนและบอกว่า ผกก.สั่งให้เขาลาพักร้อน ระหว่างที่ทุกคนกำลังออกไปกินอาหารกลางวัน จีฮยอกขอดูอีเมล์จากชิมดงอุคที่โดชางได้รับเมื่อวันก่อน หลังจากนั้นจีฮยอกก็ไปที่โรงงานที่อีแดชอลทำงานตามภาพในคลิป เขาจึงรู้ว่าโดชางเพิ่งมาที่นี่เพื่อสอบถามข้อมูลจากคนงาน โดชางเป็นห่วงจีฮยอกจึงไม่อยากให้ยุ่งคดีนี้ แต่เขาบอกโดชางให้ลุยไปด้วยกัน ทั้งคู่แปลกใจที่สายสืบจางจินซูเป็นผู้ได้คลิปนี้เมื่อห้าปีก่อนและรู้ว่าอีแดชอลเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ทำไมถึงปิดบัง จีฮยอกจึงถามโดชางว่าตอนนั้นจางจินซูเป็นคู่หูกับหัวหน้านัมกุกฮยอนเจ้าของคดีใช่ไหม

พัคกอนโฮไปตามนัดที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง และพูดคุยกับคนที่จ้างเขา แต่ไม่พบคนที่เขาต้องการเจอ หลังจากนั้นเขาถูกชายลึกลับรัดคอจากด้านหลังและโดนแทงที่ขา เกิดการต่อสู้ขึ้น ระหว่างที่พัคกอนโฮหลบซ่อนตัวอยู่นั้น เขาได้แอบถ่ายรูปเอาไว้ขณะที่ชายคนนั้นกำลังเดินตามหาเขา

ขณะที่ซอกยอง โดชางและจีฮยอกนั่งคุยกันถึงเรื่องคดีของอีแดชอล เธอบอกว่าพัคกอนโฮได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว และยังบอกอีกว่าพัคกอนโฮพยายามจะฆ่าอีแดชอลตอนที่อยู่ในคุก แต่อีแดชอลช่วยปกปิดให้ พัคกอนโฮจึงมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของอีแดชอล ขณะที่บาดเจ็บและซ่อนตัวอยู่นั้นพัคกอนโฮโทรบอกซอกยองว่าเจอคนนั้นแล้วและถ่ายรูปเขาไว้ พัคกอนโฮบอกว่าจะส่งรูปไปให้เธอและวางสายไป แต่ชายลึกลับเดินย้อนกลับมาซะก่อน พัคกอนโฮจึงซ่อนโทรศัพท์ไว้ในท่อที่โผล่มาจากพื้นตรงนั้น เมื่อจีฮยอกแกะรอยมือถือของพัคกอนโฮได้ พวกเขาจึงรีบตามไป และพบว่าพัคกอนโฮกลายเป็นศพและถูกโยนลงมาแต่ไม่พบโทรศัพท์อยู่ตรงนั้น

หัวหน้าอูบงชิกรีบตามไปที่เกิดเหตุตามที่จีฮยอกรายงาน โดชางสังเกตรอยแทงที่ขา จึงคิดว่านี่คือการฆาตกรรม เขาบอกอูบงชิกว่าคนร้ายคือคนร้ายตัวจริงในคดีอีแดชอล นัมกุกฮยอนนำทีมของเขามาสมทบตามคำสั่งของ ผกก.และบอกว่านี่คือคดีของเขา แต่ควอนแจฮงไม่พอใจและไม่เชื่อคำสั่งของนัมกุกฮยอน โดยบอกว่าทีมของเขาเป็นผู้พบศพก่อน นัมกุกฮยอนไม่พอใจและไล่พวกเขากลับไป พร้อมทั้งสั่งให้ทีมตัวเองค้นสถานที่เกิดเหตุ

จีฮยอกและโดชางย้อนไปที่เกิดเหตุในตอนค่ำโดยที่ทีมของนัมกุกฮยอนยังเฝ้าอยู่ที่นั่น จีฮยอกพยายามโทรเข้าเบอร์ของพัคกอนโฮ ซึ่งยังโทรติดอยู่ โดชางจึงคิดว่าโทรศัพท์ต้องถูกซ่อนอยู่บริเวณนี้โดยที่คนร้ายไม่รู้ พวกเขาจึงช่วยกันค้นหา แต่โดชางเกรงว่าการเปิดไฟฉายจะทำให้ทีมของกุกฮยอนรู้ พวกเขาจึงรอจนพระอาทิตย์ขึ้น
จีฮยอกและโดชางพบรอยเลือดและเดินตามไปจนกระทั่งพบโทรศัพท์ของพัคกอนโฮ เมื่อนัมกุกฮยอนได้รับรายงานจากลูกน้องว่า จีฮยอกสืบประวัติการโทรครั้งสุดท้ายของพัคกอนโฮ เขาจึงรีบขับรถไปยังที่เกิดเหตุทันที นัมกุกฮยอนเดินตามรอยเลือดไปเช่นกัน แต่ทว่าเขาไม่พบอะไรเลย

ขณะที่จีฮยอกและโดชางกำลังดูรูปในโทรศัพท์ของพัคกอนโฮ และพบว่าฆาตกรก็คือคนขับรถของอัยการคิมกีแท ซึ่งมีรอยสักที่คอและกำลังขับรถมารับซอกยอง