สปอยล์ The Good Detective ตอนที่ 14
โอจองแทปฏิเสธว่าไม่ได้บงการฆ่าพัคกอนโฮ และยังอ้างอีกว่าตำรวจปิดคดีเป็นการฆ่าตัวตาย เมื่อพูดถึงนัมกุกฮยอน จองแทก็บอกว่าวงการตำรวจมีแต่เรื่องทุจริตและไร้ความสามารถ โดชางขอให้โอจองแทสำนึกผิดและรับสารภาพในคดีพัคกอนโฮ โอจองแทบอกโดชางเป็นนัยว่าคนที่ฆ่าสายสืบจางก็มีส่วนในการตายของอีแดชอลด้วย
จีฮยอกบอกโดชางว่าโอจองแทแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งที่จริงในใจรู้สึกหวาดกลัว และคราวนี้คงรู้ตัวว่าอาจติดคุก จึงคิดจะเอาความกลัวนี้เป็นข้อได้เปรียบโดยการไปหายูจองรยอลเพื่อหนีความกลัว
ผลตรวจดีเอ็นเอจากโครงกระดูกที่พบคือศพของโจซองกีซึ่งเป็นอดีตตำรวจ โดชางและจีฮยอกไปพบยูจองซอก เขายอมรับว่ารู้จักโจซองกีและได้พบกันเมื่อห้าปีก่อน โดชางจึงบอกว่าวันเวลาที่โจซองกีหายตัวไป ใกล้เคียงกับที่ยูจองซอกไปพบเขาเป็นคนสุดท้ายและตอนนี้จองซอกก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัย สายสืบจางก็ถูกฆ่าในวันเวลาเดียวกัน จองซอกจึงอธิบายตามข่าวของซอกยองว่า ศพของโจซองกีและสายสืบจางอยู่ห่างกัน และหากฆาตกรฆ่าคนทั้งคู่ ทำไมจึงต้องฝังห่างกันขนาดนั้น แต่จีฮยอกแย้งว่า หากฆาตกรคุ้นชินกับที่เกิดเหตุ ก็อาจใช้วิธีนั้นเพื่อตลบหลังตำรวจโดยเผารถและฝังศพไว้ข้างใต้ เพราะใช้มาตรการของตำรวจที่จะไม่วุ่นวายกับที่เกิดเหตุ จองซอกบอกว่าเป็นทฤษฎีที่ดี แต่หากจะให้เป็นจริงก็คงต้องทำงานหนักกว่านี้ โดชางจึงบอกว่าวันนี้เขามาพบจองซอกในฐานะพยาน เมื่อจองซอกกลับไปแล้ว โดชางคิดว่าลำพังเขาและจีฮยอกคงรับมือกับคดีนี้ไม่ไหว และอยากให้ ผกก.มุนช่วย
ผกก.สั่งอาหารมากินที่ห้องโดยเรียกอูบงชิคและโดชางมากินด้วยกัน ผกก.บอกพวกเขาว่าตนเองโดนปลดแล้ว และตอนนี้เป็นแค่รักษาการ ขอให้ทำคดีจนถึงที่สุดแม้ว่าเขาไม่อยู่แล้วก็ตาม ก่อนกลับไป ผกก.ยังพูดเป็นนัยอีกว่า เขาจะกลับมา
เมื่อซอกยองดูคลิปกลุ่มนักเลงทำร้ายร่างกายที่ยุนซังมีส่งมาให้ พวกเขาก็นัดเจอกัน มันเป็นคลิปที่คิมมยองซอนซ่อนโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ของหน่วยคำร้องพลเรือนแต่ก็ถูกลบไปทันที ซอกยองยังไมองไม่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับ รมต.ยูจองรยอลอย่างไร ซังมีจึงอธิบายว่า สินเชื่ออินชอนเจอิลเป็นของโอจองแท และโอจองแทได้ไปให้ปากคำในการไต่สวนการทุจริตของ รมต.ยู ซึ่งมีที่ดินอยู่ในเขตเลือกตั้งของเขา ยุนซังมีต้องการให้ซอกยองช่วยในฐานะสื่อ เพื่อให้การทำงานของตำรวจเข้มข้นขึ้น
อึนฮีดีใจเมื่อรู้ว่าแจอุงลูกชายของเธอไปเรียนยูโดเหมือนกับเธอ เธอจึงวานอีอึนฮเยนำเหรียญทองของเธอไปให้แจอุง และตอนที่เขาพักนอนกลางวัน อึนฮเยจึงโทรบอกอึนฮีให้รีบไปหาลูก ก่อนที่พ่อเขาจะมารับกลับ โดยที่อีอึนฮเยดูต้นทางให้อยู่ด้านนอก
โดชางเข้าไปในห้อง ผกก.มุน หลังจากที่เขาไม่มาทำงานอีกแล้ว เมื่อยุนซังมีมาถึง เธอจึงบอกความจริงกับโดชางว่ามันเป็นแผนของเธอที่ต้องการช่วยโดชาง เพื่อโค่นยูจองรยอล โดยให้ ผกก.ลาออกไปสักพักหนึ่งก่อน ในเมื่อเวลาเหลือน้อย เบื้องบนจะต้องส่งคนอื่นมาแทน ผกก. แน่ เธอจึงนำคลิปและเอกสารบางอย่างมาให้โดชาง จากนั้นเขาจึงสั่งลูกน้องให้ไปจับคนในคลิปมาสอบสวน
เมื่อมาที่ ส.น.แล้ว นักเลงที่อยู่ในคลิปไม่ยอมรับว่ามีคนจ้างให้ทำร้ายร่างกาย แต่บอกว่าตนเองไม่พอใจที่โดนจ้องหน้า และยังอ้างอีกว่าตนเองมีเส้นสายดี โดชางใช้แผนเรียกเพื่อนตำรวจมาเต็มโรงพัก จนในที่สุดเขาก็ยอมรับสารภาพ
เอกสารที่โดชางได้รับจากยุนซังมีคือบันทึกการโทรและการโอนเงิน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เลขานัมติดต่อนักเลงในคลิปทำร้ายร่างกายผู้อื่น
คิมกีแทไปพบยูจองรยอลซึ่งเขาไม่อยากจะต้อนรับเท่าไรนัก จนกระทั่งคิมกีแทพูดถึงยูจองซอกที่กำลังมีปัญหา และทุกอย่างมันก็เริ่มต้นที่อินชอน คิมกีแทจึงเสนอตัวที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ โดยยูจองรยอลต้องทำให้อัยการเขตอินชอนเข้าข้าง เพื่อให้เรื่องจบด้วยดี จองรยอลรับปากว่าจะทำตามนั้น คิมกีแทบอกว่าจะเข้าข้างจองรยอลสักพักหนึ่ง หากจองรยอลยอมช่วยเขา เขาก็จะช่วยยูจองซอก
โดชางพร้อมกับทีมของเขาไปจับเลขานัมที่สำนักงานข้อหาติดสินบนและยุยงให้เกิดความรุนแรง แต่เขาไม่ให้สัมภาษณ์ขณะที่ซอกยองถามว่า รมต.ยูจองรยอลเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไหม
ในที่ประชุม ยูจองซอกสั่งให้หัวหน้าแบคช่วยซอกยองทำข่าวใหญ่ เพราะนอกจากชาวอินชอนแล้ว ยังมีตำรวจยศสูงและพวกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องด้วย
โดชางและจีฮยอกพบกับโอจองแท ขณะที่เขาเดินออกจากศาลเขตอินชอน จีฮยอกบอกจองแททำตัวให้ชินกับการอยู่ในห้องขัง เพราะอีกไม่นานก็คงต้องติดยาว จองแทขู่โดชางว่าหากตกงานก็คงจะลำบาก ส่วนโดชางบอกจองแทว่าเชิญพักผ่อนตามสบายและทำเรื่องบ้าๆได้เลย จองแทจึงคิดว่าเขาต้องทำเรื่องบ้าๆอย่างที่โดชางบอกซะแล้ว เพราะนิ่งเฉยมานานเกินไป
ซอกยองไปสอบถาม ผกก.เขตอินชอนจากคลิปนักเลงทำร้ายร่างกายคิมจินเซ ซึ่งคิมมยองซอนลูกสาวของเหยื่อได้โพสต์ไว้ในเว็บของหน่วยคำร้องพลเรือน เธอแปลกใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินคดีนี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องจับเลขาของ ส.ส. ในตอนนั้นด้วย ซอกยองบอกว่านี่เป็นคดีใหญ่และตำรวจจะต้องประกาศจุดยืนของตัวเอง เมื่อรู้ว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับ รมต.ยูจองรยอล เขาจึงคิดว่ายูจองซอกสั่งให้เธอมาทำข่าว โดยการปกปิดปัญหาด้วยการโทษตำรวจ ซอกยองบอกเขาว่าผู้ให้ข้อมูลคือเจ้าหน้าที่หน่วยคำร้องพลเรือน และเธอกำลังให้โอกาสหาคนมารับผิดชอบเรื่องนี้
โดชางดีใจเมื่อรู้ว่าคังอึนฮีน้องสาวของเขาเลิกดื่มเหล้าได้แล้วก็เพราะกำลังใจจากอีอึนฮเยที่ต้องการให้เธอต่อสู้เพื่อที่จะได้ลูกกลับคืนมา อีอึนฮเยก็ดีใจและซาบซึ้งเมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอได้เป็นครอบครัวเดียวกับโดชางและอึนฮีแล้ว โดชางจึงขอให้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ยูจองรยอลมีสีหน้ากังวลเมื่อเห็นหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว อดีตเลขา รมต.ยู ถูกจับกุมข้อหาปลุกปั่นความรุนแรงและรับสินบน จองซอกบอกพี่ชายว่า หากปกปิดชื่อของเขาในข่าว คนก็จะสงสัยว่าเขาและพี่ชายร่วมกันปลอมแปลงคดี จึงขอให้พี่ชายยอมเผชิญหน้าไปเลย จองซอกถามพี่ชายหากรู้เรื่องที่เลขานัมรับเงินจากโอจองแท ยูจองรยอลบอกว่าเป็นเงินบริจาคของโอจองแท จองซอกจึงมองว่าเป็นคดีทุจริตส่วนตัว โดยให้พี่ชายรับผิดชอบแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น ยูจองรยอลแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงมาทำคดีในเวลานี้ และเป็นตำรวจจากสถานีซอบูชุดเดียวกันที่เคยมาจับโอจองแทต่อหน้าเขา และเป็นคนพบศพโจซองกีอีกด้วย จองซอกบอกพี่ชายว่ามีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่เชื่อมโยงคดีพวกนั้นได้ สำหรับคนอื่นก็เป็นคดีที่แยกกันหมด ยูจองรยอลกังวลว่าสักวันเรื่องจะต้องแดงขึ้นมา จากนั้นทีมข่าวก็มาขอสัมภาษณ์ รมต.ยูจองรยอล สดผ่านรายการ ซึ่งจองซอกอยู่ฟังด้วย
ยูจองรยอลให้สัมภาษณ์ว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เขามีส่วนเกี่ยวข้อง เขาเชื่อว่าความจริงจะต้องถูกเปิดเผยหลังการสืบสวน และคดีของเลขานัมไม่มีเจตนาทางการเมือง เขาจะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือมีส่วนร่วมในขั้นตอนการสืบสวนของตำรวจ
ข่าวต่อไปคือตำรวจโดนข้อกล่าวหาว่าเพิกเฉยคำร้องเรียนที่คิมจินเซ หัวหน้าสหภาพแวดล้อมในอินชอนถูกทำร้ายร่างกาย เพราะบางคนตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ผกก.เขตอินชอนเรียกโกฮยองโฮมาต่อว่าและสั่งให้รับผิดชอบกับข่าวนี้ เพราะคนให้ข้อมูลนี้ก็คือเจ้าหน้าที่ในหน่วยของเขา แต่โกฮยองโฮ ต้องการโบ้ยให้ ผกก.มุนรับผิดชอบ ซึ่งตอนนี้เขาถูกปลดจากตำแหน่งไปแล้วตามแผนของยุนซังมีที่ต้องการเล่นงานหัวหน้าของเธอ
จองซอกบอกพี่ชายว่าตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเขาคือคนที่ฆ่าโจซองกี ยูจองรยอลมีทางเลือกให้น้องชายสองอย่างคือ จองซอกบอกความจริงและยอมรับผิด หรือไม่ก็ปฏิเสธหัวชนฝาโดยที่เขาจะใช้อำนาจหน้าที่ช่วยปกปิดให้ แต่จองซอกไม่ต้องการให้พี่ชายของเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และต้องการให้เขาเล่นการเมืองเท่านั้น
ซอกยองบอกจีฮยอกว่า ตอนนี้ไม่มีใครขัดขวางการทำงานของเขาและโดชางอีกแล้ว เพราะยุนซังมีบอกเธอว่าหัวหน้าโกฮยองโฮกำลังจะลาออก จีฮยอกโล่งใจที่ยูจองรยอลจะไม่แทรกแซงการทำงานของตำรวจ ซึ่งหมายความว่าโอจองแทจะไม่มีโล่กำบังอีก ส่วนการจับกุมยูจองซอกก็เป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีหลักฐานใดๆเลยนอกเสียจากคำสารภาพของเขาเท่านั้น
โอจองแทบอกยูจองรยอลว่าไม่สบายใจที่เห็นเขาให้สัมภาษณ์ข่าวแบบนั้น และทวงสัญญาบางสิ่งซึ่งยูจองรยอลไม่เคยสัญญาอะไรกับเขาทั้งนั้น จองรยอลไม่ต้องกรให้จองแทลากเขาเข้ามาเกี่ยวข้องอีก และขอให้เขายอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ โอจองแทจึงขู่เขาเรื่องของยูจองซอก
ยุนซังมีขอให้โดชางรีบไขคดีให้ได้ก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง ผกก.คนใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของโดชาง โดชางและทีมของเขานำหมายยึดทรัพย์จากอัยการไปหายูจองซอกที่จองฮันเดลี่ เพื่อตรวจค้นเป็นการส่วนตัวในข้อหาฆาตกรรม ทำให้ซอกยองและพนักงานทุกคนไม่พอใจ จองซอกจึงบอกว่ายึดได้เฉพาะของที่ระบุไว้ในหมายเท่านั้น และเตือนตำรวจให้เลือกทางเดินอย่างระมัดระวัง ทุกคนในสำนักพิมพ์อลหม่านวุ่นวายเพราะไม่เชื่อสิ่งที่ตำรวจบอก
หลังจากที่ตำรวจกลับไปแล้ว ซอกยองถามจองซอกหากต้องการสู้กลับ เพราะเธอเองก็ไม่พอใจที่ตำรวจทำแบบนี้ แต่เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว เธอต้องการคำอธิบายจากจองซอกเช่นกัน เพราะจองฮันเดลี่ต้องอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อซอกยองอยากให้จองซอกอธิบายความจริง เขาจึงพูดต่อหน้าทุกคนว่า เขาฆ่าคนที่สมควรตาย