สปอยล์ The Good Detective ตอนที่ 1-2

1-2

ในคืนฝนตกหนักมีชายคนหนึ่งนำศพของเด็กนักเรียนหญิงไปโยนทิ้งแม่น้ำ และเขาได้ทำนาฬิกาข้อมือหล่นไว้บริเวณที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่มีใครพบ คังโดชาง(ซนฮยอนจู)นำกำลังไปจับกุมอีแดชอล ต่อหน้าอีอึนฮเยลูกสาวของเขาที่เพิ่งกลับจากโรงเรียน เมื่อศาลอ่านคำตัดสินให้ประหารชีวิต อีแดชอลพึมพำกับตัวเองว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมจึงเป็นเขา และไม่มีใครเชื่อเขาเลย..

ห้าปีต่อมา

หลังจากที่หมวดโอจีฮยอก(จางซึงโจ)ประมูลนาฬิกาเรือนหรูได้แล้ว เขาก็กลับไปนอนที่สถานีตำรวจอินชอนซอบู และตื่นขึ้นมาเพราะได้รับโทรศัพท์แจ้งว่ามีการฆาตกรรม เขาจึงขับรถไปดูที่เกิดเหตุแต่ทว่าไม่พบอะไรเลย หลังจากถูกพักงานไปหนึ่งปี เขาถูกส่งมาทำงานที่แผนกอาชญากรรมสอง ที่ สน.ซอบู หัวหน้าอูบงชิกจึงให้เขาเป็นคู่หูกับคังโดชาง ซึ่งเขากำลังจะถูกประเมินการเลื่อนขั้น

โอจีฮยอกได้รับแจ้งว่าอีอึนฮเยหายตัวไป จึงไปขอเบอร์โทรของผู้แจ้งจากห้องควบคุม จากนั้นจีฮยอกออกไปสืบหาข้อมูลโดยนัดพบกับเพื่อนของอีอึนฮเย แต่เมื่อเธอไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมาก นอกจากรูปถ่ายที่อีอึนฮเยใส่ชุดสีเหลือง เขาจึงชวนเธอไปหาที่คุยต่อที่อื่น เด็กสาวยอมไปด้วยเพราะเห็นนาฬิกาเรือนหรูที่จีฮยอกใส่ เมื่อเปิดห้องหรูที่โรงแรมแห่งหนึ่งให้เธอแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ข้อมูลอีก จึงเสนอให้เธออยู่ฟรีอีกหนึ่งเดือน โดยให้เวลาสองวันไปสืบว่าอีอึนฮเยอยู่ที่ไหน

จินซอกยอง(อี เอไลจาห์)ไปพบคิมชินชอลที่สำนักพิมพ์จองฮันแดลี่ เขาจึงให้ดูคลิปนักโทษโจบยองกิลที่ติดคุกมาเจ็ดปี ข้อหาฆ่าคนสิบเอ็ดคน และรอการประหารชีวิต คิมชินชอลขอให้ซอกยองไปสัมภาษณ์ครอบครัวของเหยื่อและส่งฉบับร่างให้เขาในวันพรุ่งนี้

ขณะที่จีฮยอกกำลังดูคลิปคดีของอีแดชอลเมื่อห้าปีก่อน และฟังคลิปเสียงของผู้แจ้งคดีฆาตกรรมเมื่อเช้านี้ คังโดชางก็ได้รับโทรศัพท์ว่าเกิดเหตุฆาตกรรม ทั้งคู่จึงออกไปด้วยกัน ขณะขับรถจีฮยอกคิดว่าเป็นการแจ้งความเท็จและเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้าให้คังโดชางฟัง สถานที่ที่เขาไปเมื่อเช้าคือที่เดียวกับอีแดชอลทิ้งศพนักเรียนหญิง ส่วนครั้งนี้คือที่ที่อีแดชอลทิ้งศพนักสืบที่เขาฆ่า เขายังบอกโดชางอีกว่าอีอึนฮเยที่หายตัวไป คือลูกสาวของอีแดชอล

เมื่อโดชางและจีฮยอกไปถึง พวกเขาไม่พบอะไรนอกจากทุ่งดอกอ้อ ซึ่งมีเพียงกล้องสังเกตสัตว์ป่าเท่านั้น จีฮยอกจึงจะขอภาพมาดู ระหว่างทางกลับและแวะกินอาหาร โดชางบอกว่าเขากำลังอยู่ในช่วงประเมินเลื่อนขั้น จึงไม่อยากทำคดีที่พัวพันกับคดีอื่น จีฮยอกจึงบอกว่าหากโดชางอึดอัด เขาก็จะทำคดีนี้คนเดียว

ขณะที่จีฮยอกกำลังแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำและถอดนาฬิกาข้อมือวางไว้ข้างๆ เขาได้พบกับนัมกุกฮยอน หัวหน้าแผนกอาชญากรรมรุนแรงหนึ่ง จีฮยอกแปลกใจที่นัมกุกฮยอนบอกเขาว่าไม่ควรใส่นาฬิกาปลอมและให้โยนทิ้ง เขาจำได้ว่าในงานประมูล มีนาฬิกาแบบนี้เพียงแค่สองเรือนเท่านั้น

ขณะที่คังโดชางชวนจีฮยอกออกไปทำคดีของพัคโดชอล ซึ่งเป็นเหยื่อและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่แทบไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานอะไรเลย ก่อนออกไปจีฮยอกจึงโทรเช็กหาข้อมูลของพัคโดชอลโดยละเอียดได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่าพัคโดชอลฉ้อโกงเงินประกัน จึงไม่ต้องออกไปทำคดีและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทประกัน

ซอกยองไปขอสัมภาษณ์ภรรยาของนักสืบที่เป็นเหยื่อของอีแดชอล แต่เธอไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้และขอตัวออกไปข้างนอก ซึ่งหัวหน้านัมกุกฮยอนจอดรถรออยู่

ก่อนที่โดชางจะกลับบ้าน จีฮยอกขอให้เขาดูวิดีโอจากกล้องสังเกตสัตว์ป่า โดยมีอีอึนฮเยและชายอีกคนอยู่ในภาพนั้น ระหว่างที่ทุกคนกำลังดูอยู่นั้น พัคกอนโฮเข้ามาแจ้งความ โดยบอกว่าเขาคือคนที่ลักพาตัวและฆ่าอีอึนฮเย และยืนยันว่าเขาคือชายในวิดีโอนั้น แต่จำไม่ได้ว่าฆ่าทำไม และไม่รู้ว่าฆ่าจริงหรือเปล่า โดยอ้างว่าตนเองไม่ค่อยมีสติ เขายังบอกอีกว่าฝังเธอไว้ในดิน และอ้างว่าเธอเป็นคนยั่วเขาเองและพาไปที่นั่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอึนฮเยเป็นผู้เยาว์ พัคกอนโฮเกิดอาการชักขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง เมื่อทุกคนรีบวิ่งมาดู ก็เห็นเขาอยู่ในอาการปกติ เขาอ้างว่าเป็นอาการที่เกิดจากความเครียด

ขณะที่นั่งรถพาพัคกอนโฮไปยังจุดเกิดเหตุ คังโดชางได้อ่านประวัติและรู้ว่าพัคกอนโฮเคยเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาและบุลากรทัณฑสถานที่อีแดชอลอยู่ พัคกอนโฮว่าอีแดชอลว่าสมคววรได้รับความเจ็บปวดเหมือนกับพ่อแม่ของเหยื่อที่ถูกฆ่า จีฮยอกยังพบว่าอีอึนฮเยเคยมีประวัติอาชญากรรมและพัคซองกยูเป็นผู้ทำคดี คังโดชางพยายามโทรหาพัคซองกยูแต่ไม่สามารถติดต่อได้

ทุกคนพยายามหาจนทั่วพื้นที่ทุ่งต้นอ้อแล้ว แต่ก็ไม่พบศพของอีอึนฮเย พัคกอนโฮบอกว่าจำไม่ได้ โดยที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ทำให้คังโดชางโมโหและหาว่าพัคกอนโฮแกล้งปั่นหัวตำรวจ จีฮยอกแยกตัวเดินคุยกับพัคกอนโฮตามลำพัง เขาแปลกใจที่ไม่เห็นอุปกรณ์ขุดดินฝังศพ หรืออาการตื่นตระหนกของคนที่บอกว่าขาดสติ พัคกอนโฮจึงบอกว่าเขาคงเลือก สน.ผิด เพราะไม่คิดว่า สน.นี้จะมีตำรวจที่ฉลาดอย่างจีฮยอก
คังโดชางกลับมาสอบปากคำต่อที่ สน.และขอความร่วมมือจากพัคกอนโฮ แต่เขาบอกว่าหาศพอีอึนฮเยและอาวุธสังหารให้ได้เสียก่อน และหากตรวจดีเอ็นเอตรงกับเขา เขาจึงจะยอมบอกทุกอย่าง

ระหว่างทางที่คังโดชางและจีฮยอกไปดูศพนักเรียนมัธยม ตามที่ควอนแจฮงรายงาน คังโดชางประเมินว่าพัคกอนโฮเพ่งเล็งอีอึนฮเยตั้งแต่แรก แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฆ่าเธอ จีฮยอกเชื่อว่าต้องเกี่ยวข้องกับอีแดชอล คังโดชางมองไม่เห็นเหตุผลที่เอาความแค้นมาลงที่ลูกสาวอย่างอีอึนฮเย ขณะที่พัคกอนโฮกำลังนั่งสวดพระคัมภีร์อยู่ในห้องขัง


แม้ศพที่พบยังไม่ได้ทำการพิสูจน์ แต่คังโดชางมั่นใจว่าไม่ใช่อีอึนฮเย เพราะเขาจำหน้าเธอได้ พัคกอนโฮยังคงนอนผวาอยู่ในห้องขัง เพราะภาพที่เขาทุบตีอีแดชอล เมื่อครั้งทำงานเป็นบุคลากรทัณฑสถาน เขาจึงลุกขึ้นมานั่งสวดภาวนาถึงพระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง
ผกก.มุน สั่งหัวหน้าอูบงชิกให้ถอนกำลังค้นหาศพอีอึนฮเยที่ทุ่งต้นอ้อ แต่คังโดชางคิดว่าผู้กำกับฯมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้

ในขณะที่นัมกุกฮยอนเข้าไปที่แผนกอาชญากรรมรุนแรงสอง และรู้ว่าทุกคนกำลังเร่งทำคดีของอึนฮเย จีฮยอกนั่งมองหน้านัมกุกฮยอนด้วยความสงสัย และนึกถึงเรื่องนาฬิกาที่เขาเคยพูดไว้ คังโดชางคุยกับนัมกุกฮยอนเป็นการส่วนตัวและถามถึงเรื่องคดีอีแดชอล หากมีอะไรผิดพลาดตอนที่ทำคดีนี้เมื่อห้าปีก่อน แต่นัมกุกฮยอนยืนยันว่าไม่มีและบอกคังโดชางว่าอย่าให้พัคกอนโฮปั่นหัวได้

คิมกีแท อดีตหัวหน้าอัยการเรียกนักข่าวซอกยองไปพบที่เรือนจำซอบู และบอกว่าอีแดชอลบริสุทธิ์ เพราะเขาคือคนตัดสินความในครั้งนั้น ทั้งนักสืบ อัยการและผู้พิพากษา ร่วมมือกันสร้างเรื่องทั้งหมดเพื่อใส่ร้ายอีแดชอล

เมื่อจีฮยอกได้ตัวพัคฮงดูซึ่งเป็นเพื่อนของอีอึนฮเยแล้ว คังโดชานตรวจสอบโทรศัพท์ของเขาและเห็นข้อความของอีอึลฮเยเมื่อสามวันก่อน เธอบอกว่าไม่ต้องตามหา เพราะเธอจะหายตัวไป คังโดชางได้รับโทรศัพท์ยืนยันแล้วว่าศพที่พบ ไม่ใช่อีอึลฮเย
พัคกอนโฮ ขอโทรศัพท์มือถือโดยอ้างว่าจะติดต่อทนายส่วนตัว จีฮยอกกลับคิดว่าพัคกอนโฮ กำลังมีแผนที่จะติดต่ออีอึลฮเยมากกว่า เมื่อคังโดชางและจีฮยอกนำโทรศัพท์ไปให้ พัคกอนโฮเปลี่ยนใจไม่โทรและท้าทายว่า พิสูจน์ให้ได้ว่าเขาคือฆาตกรตัวจริง
ซอกยองยอมบอกคังโดชางว่า อดีตอัยการคิมกีแทบอกเธอเองว่าอีแดชอลเป็นผู้บริสุทธิ์ คังโดชางจึงเล่าเรื่องอีอึลฮเยและพัคกอนโฮให้เธอฟัง ระหว่างที่ซอกยองและคังโดชางคุยกันอยู่นั้น นักข่าวฮงแจวอนแอบเข้าไปหาพัคกอนโฮ และตีพิมพ์ข่าวการรับสารภาพของเขาในวันรุ่งขึ้น เมื่อรู้ถึงหูอัยการเขต เขาจึงโทรต่อว่า ผกก.มุน และต้องการให้ส่งตัวพัคกอนโฮไปที่ สนง.อัยการ

จีฮยอกคิดออกเรื่องความเคลื่อนไหวบัตรเครดิตของพัคกอนโฮ จึงชวนคังโดชางออกสืบจนกระทั่งพบตัวอึนฮเย ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถ พัคกอนโฮพูดต่อหน้านักข่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้เผยแพร่ศาสนา เขาขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของอีแดชอล และขอให้รื้อคดีนี้ใหม่ ทันใดนั้นอีอึลฮเยก็มาพร้อมกับคังโดชาง เธอขอให้พัคกอนโฮถอดใจและยุติเรื่องนี้ แต่พัคกอนโฮบอกว่าจะไม่ยอมแพ้ เมื่ออึนฮเยถูกนักข่าวรุมถาม เธอจึงกัดปากตัวเองจนเลือดออก และวิ่งหนีไป

เมื่อยุนซังมีเห็นข่าว เธอนึกถึงเมื่อห้าปีก่อนที่ทำหลักฐานหายไป ขณะที่คังโดชางกำลังต่อว่าเธอ ผกก.มุน ก็นำหลักฐานมาคืนให้และพูดเป็นนัยว่า ยุนซังมีแค่ฝากเขาไว้และลืมเอากลับมาเท่านั้นเอง

อีอึลฮเยซึ่งอาศัยอยู่กับพัคฮงดูพร้อมกับเด็กจรจัดอีกหลายคน เขาโมโหที่เธอเป็นต้นเหตุให้พัคกอนโฮพ่อของเขาต้องโดนข้อหาฆาตกร พัคฮงดูจึงตบตีและไล่เธอออกไป โดยที่จีฮยอกแอบซุ่มดูอยู่ เขาเดินตามเธอไปจนเห็นอึนฮเยหักบัตรเครดิตของพัคกอนโฮ และขโมยสินค้า จีฮยอกวิ่งตามเธอไปและเห็นว่าเธอนอนชัก เขาจึงเรียกรถพยาบาล

คังโดชางได้รับอีเมล์ ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไม่มีการตัดต่อ พร้อมทั้งวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งแสดงว่าอีแดชอลเป็นผู้บริสุทธิ์..