สปอยล์ Flower of Evil ตอนที่ 7
ในฤดูร้อนปี 2005 หลังจากที่โดนรถชนและได้รับบาดเจ็บจนสลบไป ฮีซองตื่นขึ้นมาในบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นเขาพยายามจะขโมยของมีค่า แต่แบคมันอูและกงมีจาออกมาเห็นเสียก่อน
จีวอนนั่งมองสามีที่กำลังหลับ เธอพยายามหาเหตุผลที่จะเข้าใจเพื่อยกโทษให้เขา เมื่อฮีซองตื่นขึ้นมา จีวอนได้ให้นาฬิกาแก่เขาเป็นของขวัญที่ได้ออกจากโรงพยาบาล และบอกว่าตำรวจหาเรือนเก่าไม่เจอ ก่อนที่จีวอนจะออกไปส่งอึนฮาที่โรงเรียน เขาบอกเธอว่ากุญแจห้องใต้ดินพัง จีวอนจึงโกหกไปว่าซอนมีเพื่อนของเธออยากได้รถหัดเดินของเด็ก และนึกออกว่าอึนฮาเคยมี แต่หากุญแจไม่เจอและเขาก็อยู่โรงพยาบาล เธอจึงงัดเข้าไป ฮีซองสงสัยว่าจีวอนจะเจอหลักฐานบางอย่างที่นั่นไหม จึงแกล้งถามเธอว่าห้องนั้นสกปรกหรือเปล่า แต่จีวอนตอบว่า มันสะอาดดี
จีวอนได้ข้อมูลทะเบียนบ้านของสามี ระบุว่าเขาเป็นลูกของแบคมันอูและกงมีจา จีวอนไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ของแบคฮีซองตัวจริงจึงยอมให้ความร่วมมือกับโทฮยอนซู เพื่อให้ใช้ชีวิตเป็นแบคฮีซองมาถึงสิบสี่ปี
คิมมูจินอัดคลิปของตัวเอง โดยบอกว่าเขามีข้อมูลพร้อมคลิปเสียงว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมืองยอนจู ซึ่งมียอดวิวถึง 1.5ล้าน ภายในวันเดียว จีวอนได้ฟังคลิปเสียงซึ่งจางยองฮีนำมาให้คิมมูจิน มันเป็นคลิปเสียงที่จางยองฮีโดนขู่ทางโทรศัพท์ หลังจากที่เธอขับรถชนท้ายรถคันหนึ่ง เมื่อเวลา 2.30 น. วันที่ 12 พ.ค. 2002 แต่เธอมองไม่เห็นหน้าเขา เพราะความมืดและเขาใส่หมวกปิดบังใบหน้า แต่เพราะจางยองฮีเมาขณะขับ จึงไม่อยากให้เรื่องถึงบริษัทประกัน จึงได้ให้เบอร์โทรกับคู่กรณี ตอนนั้นเธอเห็นจองมีซุกพยายามหนีออกมาจากรถคันนั้น แต่คนร้ายแกล้งพูดต่อหน้าเธอราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน เมื่อเขาพาจองมีซุกกลับขึ้นรถและขับออกไป เธอเห็นป้ายทะเบียน คยองกี58- 3194 หลังจากนั้นเธอก็ไปแจ้งความ
ตำรวจตรวจสอบทะเบียนรถและสืบสวนหลักฐานที่อยู่ของโทมินซอก แต่โทฮยอนซูเป็นพยานและให้การว่าในเวลาเกิดเหตุ เขาและพ่อดูหนังอยู่ด้วยกัน ซึ่งเขามีตั๋วหนังสองใบเป็นหลักฐาน จางยองฮีไปแจ้งความขณะที่เธอเมา จึงทำให้ขาดความน่าเชื่อถือและถูกเพิกถอนใบขับขี่ หลังจากนั้นอีกสองอาทิตย์โทมินซอกก็ฆ่าตัวตาย ระหว่างการสืบสวน ตำรวจพบเล็บหัวแม่มือและข้าวของของเหยื่อรวมทั้งของจองมีซุกในห้องทำงานของโทมินซอก หลังจากนั้นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องจึงกลายเป็นคดีปิดทันทีเมื่อถูกเปิดเผยต่อโลก ต่อมาโทฮยอนซูก็ฆ่าหัวหน้าหมู่บ้านและหลบหนีไปกลางดึก และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคดีลักพาตัวจองมีซุก ตำรวจพิจารณาว่าโทฮยอนซูอาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของโทมินซอก แต่ตำรวจไม่ได้ทำอะไรมาก จนกระทั่งโทฮยอนซูกลายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม สิ่งที่ตำรวจทำได้ก็แค่หาพยานไปเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นจางยองฮีถูกผู้สมรู้ร่วมคิดข่มขู่ เธอจึงถอนคำให้การทั้งหมด
จีวอนเปิดข่าวให้ฮีซองดูและบอกว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิด เธอกำลังจะเปิดคลิปเสียง แต่เขาไม่อยากฟังโดยอ้างว่าจะทำให้อารมณ์เสีย จากนั้นเขาก็ขอเปลี่ยนดูทีวีช่องอื่น จีวอนขอนัดกับฮีซองพรุ่งนี้ช่วงบ่ายโดยบอกว่าจะไปเดต เมื่อจีวอนเข้านอนแล้ว ฮีซองจึงออกไปฟังคลิปเสียงที่ระเบียง
ฮีซองโทรหาคิมมูจินเพื่อขอให้เขาเปลี่ยนมุมข่าว ฮีซองรู้ดีว่าโทฮยอนซูไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดหลังจากที่ได้ฟังคลิปเสียง เพราะคำให้การของเขาในฐานะพยานในตอนนั้นคือความจริงทั้งหมด เขาคิดว่าจะต้องมีบุคคลที่สามและอาสาจะช่วยคิมมูจินในเรื่องนี้ แต่มูจินไม่สนใจเพราะเขาถือว่าคดีนี้คือชีวิตของเขา และยังบอกอีกว่าเขาไม่ไว้ใจฮีซอง
หลังจากข่าวออกคลิปเสียงนั้น ทางสำนักงานใหญ่ตำรวจต้องการให้มีการสืบสวนคดีนี้ใหม่ หัวหน้ายุนจึงมอบหมายให้อูชอลรับผิดชอบ
จีวอนไปขอดูคลิปที่โทฮยอนซูเคยได้รับคำปรึกษาเมื่อตอนอายุสิบสาม เขาถูกระบุว่าเป็นโรคซึมเศร้าและก้าวร้าว ในตอนนั้นเขาต้องการฆ่าคุณคิม ซึ่งเป็นเจ้าของหมาที่เขาโยนลงบ่อน้ำ แต่เขาฆ่าคนไม่ได้เพราะว่าร่างกายมนุษย์กำจัดยากกว่า ส่วนอีกคลิปหนึ่งคือตอนที่โทฮยอนซูทำร้ายร่างกายเพื่อนที่ไปยุ่งกับเครื่องบันทึกเทปของเขา เจ้าหน้าที่บอกว่าหากเกี่ยวกับเทปนี้ เขาจะกลายเป็นคนโมโหร้าย
แบคมันอูต่อว่าฮีซองที่ไม่รักษาสัญญา เพราะฮีซองกำจัดพัคคยองชุนโดยที่ไม่ได้ฆ่า เขาไม่เชื่อเมื่อฮีซองบอกว่าคนในคลิปเสียงไม่ใช่เขา แบคมันอูจึงขอให้ฮีซองสัญญากับเขาอีกครั้งว่า หากตัวตนของฮีซองมีความเสี่ยงที่จะถูกเปิดโปงอีกครั้ง ขอให้เขาไปซะ ที่ไม่มีใครหาเจอ เพื่อทุกคน และเขาจะดูแลจีวอนกับลูกให้ตลอดไป
หลังจากที่โทแฮซูเห็นข่าว เธอตัดสินใจไปหามูจิน เขาจึงพาเธอมาที่ห้องของเขาเพื่อหลบนักข่าวคนอื่นที่คอยสะกดรอยตามเธอ
จีวอนพยายามฟังเทปของโทฮยอนซู แต่ฟังไม่รู้เรื่อง เธอจึงนำไปพบเจ้าของร้านอาหารจีน เขาบอกว่าทุกครั้งที่ฮยอนซูฟังเทปนี้ เขาจะมีสายตาแปลกๆเหมือนถูกสิง เธอจึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้าน ขณะที่ฮีซองฟังเสียงคนร้ายในคลิปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะอยากรู้ว่าเสียงเคาะที่แทรกอยู่ในคลิปนั้น มันคือเสียงอะไรกันแน่
คุณยายของอึนฮาฝากให้กงมีจาดูแลหลาน และจะกลับมารับหลานประมาณสองทุ่ม กงมีจาไม่เต็มใจนัก อึนฮาบอกว่าคนในครอบครัวอีกหน่อยก็รักกันไปเอง และเธอเชื่อว่าสักวันคุณย่าก็จะรักเธอเช่นกัน เมื่อกงมีจาเห็นอึนฮาทำการบ้านคณิตศาสตร์ของเด็ก ป.3 ทั้งที่ยังอยู่อนุบาล ทำให้เธอไม่พอใจและฉีกการบ้านทิ้ง เพราะคิดว่าจีวอนบังคับให้ลูกทำ แม้อึนฮาจะบอกว่าเธอสามารถทำได้ อึนฮาร้องไห้เสียใจและบอกคุณย่าว่าอยากกินทาร์ตไข่
ฮีซองแปลกใจที่เห็นจีวอนกลับมาพร้อมกับกระเป๋าของเขา จีวอนบอกว่าเป็นกระเป๋าของโทฮยอนซูที่นัมซุนกิลเก็บไว้ก่อนตาย และเธอต้องการจะจับโทฮยอนซูได้ ฮีซองพยายามทำตัวให้ปกติและถามจีวอนว่า แค่กระเป๋าใบเดียวจะจับได้อย่างไร จีวอนจึงขอให้เขาช่วย ขณะที่หยิบเทปและสมุดวาดภาพออกจากกระเป๋า เธอสังเกตเห็นฮีซองมีสีหน้ากังวลแต่ก็พยายามทำตัวปกติ ขณะที่ฮีซองเปิดสมุดเล่มนั้นดู จีวอนบอกกับตัวเองว่า เธอก็โกหกได้เช่นกันโดยที่ไม่ต้องกระพริบตาด้วยซ้ำ จีวอนบอกฮีซองว่า เธอเชื่อว่าโทฮยอนซูยังทำงานโลหะอยู่ จึงขอให้ฮีซองถามสมาคมเผื่อจะได้รายชื่อคนที่มีสไตล์เดียวกับภาพในสมุด ฮีซองจึงเหลือบไปมองงานของตัวเองที่อยู่บนโต๊ะและบอกเธอว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะดูจากภาพแล้วรู้ว่าเป็นใคร นอกจากจะได้เห็นงานจริงและวัสดุที่ใช้ เธอจึงชวนฮีซองไปที่เวิร์กชอปของโทมินซอก โดยอ้างว่าโทฮยอนซูเคยโดดเรียนบ่อยๆเพื่ออยู่ที่นั่น และเธอเห็นจากข่าวว่ามีผลงานอยู่ที่นั่นมากมาย
กงมีจาพาอึนฮาไปกินทาร์ตไข่ และกำลังจะขอโทษที่ฉีกการบ้านของเธอ แต่อึนฮาบอกว่าเธอจะไม่บอกพ่อ เพราะไม่ต้องการให้พ่อตวาดใส่คุณย่า กงมีจาเริ่มเอ็นดูอึนฮาจึงโน้มตัวไปเช็ดปากให้เธอ
มูจินตื่นเต้นที่ได้เจอแฮซูซึ่งเป็นรักแรกของเขา เมื่อพามาที่ห้อง เขาจึงเปิดเพลงและให้เธอดื่มไวน์ เขาสารภาพว่าคิดถึงเธอบ่อยๆ และเป็นห่วงเธอที่กลายเป็นเหยื่อรายใหญ่เพราะพ่อของเธอและโทฮยอนซู มูจินเชื่อว่าโทแฮซูเป็นคนปกติและไม่มีอคติใดๆต่อเธอ แต่ที่บอกเลิกตอนนั้น ก็ไม่ได้หมายความตามที่พูด แฮซูดื่มไวน์จนหมดแก้วและบอกมูจินว่าเสียงในคลิปนั้นไม่ใช่โทฮยอนซู เพราะเธอคือคนที่ฆ่าหัวหน้าหมู่บ้าน
เมื่อไปถึงเวิร์กชอปของโทมินซอกในตอนค่ำ ฮีซองมองรอยกรีดที่ต้นไม้ซึ่งแฮซูเคยใช้วัดความสูงของเขาในตอนเด็ก จีวอนเรียกฮีซองให้ตามเธอไป เมื่อเห็นว่าประตูถูกล็อคกุญแจ จีวอนจึงเดินอ้อมไปเข้าทางหน้าต่าง เธอหยิบตุ๊กตาเต่าและถามฮีซองว่าใช่ผลงานของฮยอนซูไหม ฮีซองตอบว่ามันเป็นขี้ผึ้งที่นำไปหล่อปูนปาสเตอร์และผลงานของมือสมัครเล่นเท่านั้น เขาพยายามพูดเพื่อให้จีวอนกลับ แต่เธอบอกว่าอยากลงไปดูที่ห้องใต้ดิน จีวอนลองใจโดยบอกให้ฮีซองไปรอที่รถ แต่ฮีซองบอกว่าเขาจะไปเป็นเพื่อนเธอและเดินนำหน้าไป ขณะที่จีวอนเหน็บปืนไว้ในเสื้อของเธอ เมื่อลงไปที่นั่นจีวอนเห็นฮีซองใช้แขนปิดจมูก เธอจึงบอกว่ามันเป็นกลิ่นเลือดเก่าซึ่งต้องทำความสะอาดด้วยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เท่านั้น จีวอนจับตาดูท่าทีของฮีซองตลอดเวลา ขณะที่ฮีซองยืนอยู่ด้านหน้าเธอและกำลังมองกรงเหล็กที่มีสายรัดอยู่ข้างใน จีวอนก็เปิดเทปเสียงนั้นซึ่งเคยเป็นของเขา มันเป็นเสียงของผู้หญิงที่ฮัมเพลงเศร้าๆ คล้ายกับว่ากำลังร้องไห้ จีวอนบอกว่ามันเป็นของโทฮยอนซูซึ่งเมื่อฟังเสียงนี้ครั้งใด เขาก็จะเกิดการกระตุ้นและใช้ความรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่มีใครรู้ว่าได้มายังไงและเป็นเสียงอะไรกันแน่ เทปนี้ได้ถูกบันทึกในขณะที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นและเธอคิดว่ามันเป็นที่นี่ จีวอนบอกเขาว่าเธอยังสับสนว่าโทมินซอกเริ่มฆ่าคนตั้งแต่เมื่อไร หรือบางที่โทมินซอกอาจจะใช้ลูกชายนำอาหารและน้ำมาให้เหยื่อในนี้ก็ได้ จีวอนไม่สนใจเมื่อฮีซองบอกว่าอยากจะออกไปจากที่นี่แล้ว แต่เธอยังคงพูดต่อไปว่า
ระหว่างที่ฟังเสียงในเทปนี้ โทฮยอนซูคงหวนคิดถึงสิ่งที่เขาทำไปเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน และคงเป็นช่วงเวลาที่แสนหวานของเขา ถึงได้คลั่งทุกครั้งที่ถูกขัดจังหวะ ฮีซองมีท่าทางอึดอัดและบ่นอยากจะกลับ เขาเพิ่งรู้ว่าจีวอนกำลังรอเจ้าของร้านอาหารจีน ซึ่งเธอนัดให้มาที่นี่ด้วย เพราะเขายังมีผลงานบางชิ้นของโทฮยอนซูและจะนำมาให้ ขณะที่จีวอนรับโทรศัพท์ว่าอีกห้านาทีเขาจะมาถึง เธอสังเกตเห็นฮีซองมีอาการกังวลมากขึ้น เธอได้แต่คิดในใจให้โทฮยอนซูแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาซะที เธออยากให้เขาเลือก เพราะนั่นหมายถึงอนาคตของพวกเขาสองคนขณะที่เธอค่อยๆล้วงมือเข้าไปในเสื้อ ฮีซองมีสีหน้าเคร่งเครียด มือสั่นจนทำไฟฉายตก และเดินเข้าไปหาจีวอน จีวอนคิดว่าเขากำลังจะบีบคอเธอ แต่ฮีซองทรุดลงตรงนั้นบอกว่าเขาหายใจไม่ออก และขอร้องให้เธอพาเขากลับบ้าน จีวอนพาเขาออกมาที่รถเมื่อเห็นอาการของฮีซองที่เขาบอกว่าเหม็นกลิ่นเลือด เธอถามตัวเองว่าใจร้ายกับเขามากเกินไปหรือเปล่า แต่ในใจก็ขัดแย้งว่าเขาหลอกเธอมาถึงสิบสี่ปี เธอจะใจอ่อนไม่ได้
ขณะที่ขับรถกลับ ฮีซองถามถึงเจ้าของร้านอาหารที่จีวอนนัดไว้ เธอจึงโทรหาเขาและบอกว่าต้องรีบกลับโซลเพราะสามีป่วย ในขณะที่เจ้าของร้านอาหารจีนอยู่ที่งานศพของนัมซุนกิล ฮีซองขอให้จีวอนเลิกทำคดีโทฮยอนซูโดยอ้างว่าเป็นห่วงเธอเพราะเขาคือฆาตกรต่อเนื่อง แต่จีวอนบอกว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยให้โทฮยอนซูเป็นอิสระ
ในกลางดึกฮีซองนอนไม่หลับและนึกถึงคำพูดของแบคมันอูให้เขาไปในที่ที่ไม่มีใครรู้ หากเสี่ยงจะถูกเปิดโปงตัวตน เขาลุกออกมาจากห้องนอน โดยที่จีวอนจับตาดูอยู่
มูจินแปลกใจที่ฮีซองไปหาเขากลางดึกในขณะที่เขากำลังทบทวนคำพูดของแฮซู เธอขอร้องให้เขาเลิกยุ่งกับฮยอนซู และอยากให้เขาทำข่าวที่เธอรับสารภาพว่าเป็นฆาตกร ฮีซองบอกว่าจีวอนบ้าไปแล้วและขอให้มูจินช่วยตามหาพี่สาวเพราะเขาต้องการเจอเธอ โดยนำเทปวิดีโอมาคืนมูจินและขอโทษที่เคยใช้ขู่เรื่องจุดอ่อนของเขา ฮีซองบอกว่าต้องหาตัวไอ้คนนั้นให้ได้ มูจินสังเกตว่าฮีซองใส่นาฬิกาเรือนใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าจีวอนได้สั่งทำให้ติดตั้งระบบจีพีเอสไว้