สปอยล์ Flower of Evil ตอนที่ 6

6

เมื่อ 18 ปีก่อน
ในคืนที่ฝนตก ในขณะที่แบคฮีซองตัวจริงกำลังคุยโทรศัพท์ระหว่างที่กำลังขับรถอยู่
เขาได้ขับรถชนโทฮยอนซู แบคฮีซองกำลังจะโทรแจ้งกู้ชีพเพื่อนำตัวฮยอนซูส่งโรงพยาบาล แต่ฮยอนซูได้แต่บอกว่าเขานั้นไปโรงพยาบาลไม่ได้..

----------------
ปัจจุบัน
ในขณะที่ฮีซองถูนำตัวส่งโรงพยาบาล
เขาคิดถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นเมื่อ 18 ปีก่อน
ที่เขาพูดกับพี่สาวว่าให้เธอนั้นใช้ชีวิตปกติ และอย่าตามหาเขา
เขาเองก็จะไม่ใช้ชีวิตเป็นโทฮยอนซู..

ทันทีที่ฮีซองฟื้นขึ้นมา เขารีบลุกจากเตียงคนไข้และถอดสายน้ำเหลือ และเดินออกจากห้องและเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู เขาตกใจและเห็นภาพหลอนที่เจ้าหน้าที่กำลังใส่กุญแจมือเขา เมื่อได้สติจึงรู้ว่าเขาคิดไปเอง และเดินหนีออกมาจนเจอกับจีวอน ฮีซองเองยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร..

จีวอนวิ่งเข้ามากอดฮีซอง ฮีซองดูสีหน้าและท่าทางของจีวอน เขาจึงกอดปลอบใจจีวอนและบอกว่าไม่เป็นไรนะ..

ทางทีมแพทย์เข้ามาแจ้งอาการของฮีซอง หลังจากที่เขาฟื้น
ฮีซองหมดสติเพราะหัวใจหยุดเต้นไปนานกว่า 10 วัน
ทีมแพทย์ ตรวจสอบและซักถามฮีซอง เพื่อทดสอบความจำ ฮีซองแกล้งทำเป็นจำอึนฮา ลูกสาวไม่ได้จนอึนฮาน้อยใจ ซึ่งจริงๆแล้ว เขาอาการและความทรงจำเป็นปกติดี..


กงมีจาไม่สบายใจที่เห็นข่าวพัคคยองชุนถูกจับได้แล้ว เธอจึงรีบไปหาแบคฮีซองที่โรงพยาบาล และขอคุยเป็นการส่วนตัวกับเขาและแบคมันอูสามีของเธอ ในขณะที่จีวอนกับลูกสาวพร้อมทั้งแม่ยายก็อยู่ในห้องด้วย

จีวอนจึงพาแม่และอึนฮาออกมานอกห้อง ฮีซองบอกมีจาว่า เขาโกหกจีวอนว่าตามคิมมูจินไปที่นั่น เพราะอยากเห็นเวิร์กชอปเก่าของโทมินซอก เพื่อเป็นแนวคิดในงานของเขา แบคมันอูไม่ค่อยไว้ใจคิมมูจิน แต่ฮีซองบอกว่าเขารู้จุดอ่อนของมูจินดี เมื่อเห็นว่าภรรยาใจร้อนเกินไป แบคมันอูจึงให้เธอกลับไปก่อน และบอกฮีซองว่าพัคคยองชุนจะโดนหมายขังพรุ่งนี้ เขาจึงคิดว่าจะต้องลงมือจัดการพัคคยองชุนในคืนนี้โดยให้ฮีซองเป็นคนลงมือ โดยฉีดสารเสพติดเพื่อให้หัวใจวาย เพราะโดยปกติพัคคยองชุนก็ใช้ยาที่มีสารเสพติดอยู่แล้ว และอีกอย่างเขาไม่มีครอบครัวที่จะร้องขอให้ชันสูตร

พัคคยองชุนได้รับการผ่าตัดเนื่องจากกะโหลกร้าว นอกจากโรคมะเร็งที่เป็นอยู่แล้ว อาการโดยรวมก็เป็นปกติ แต่ที่ไม่ยอมตอบสนองกับการกระตุ้นภายนอกก็เพราะมีแผนในใจที่จะรอพบแบคฮีซองเท่านั้น อิมโฮจุนบอกจีวอนว่าพัคคยองชุนจะโดนหมายขังในวันรุ่งขึ้น และอยากได้คำให้การของเหยื่อซึ่งก็คือแบคฮีซอง

คิมมูจินโทรหาแบคฮีซองและบอกว่าเขาหลีกเลี่ยงที่จะไปให้ปากคำ เพราะยังไม่ได้วางแผนกับฮีซอง ฮีซองจึงบอกให้มูจินทำตามที่เขาบอก

คิมมูจินพยายามตามตื๊อจางยองฮี เพื่อให้เธอเล่าเหตุการณ์ในคืนที่จองมีซุกหายตัวไป เพราะเธอคือคนที่เห็นมีซุกเป็นคนสุดท้าย แต่จางยองฮีไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกเพราะเป็นห่วงตัวเองและลูกสาวจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะเธอรู้ดีว่าฆาตกรไม่ใช่โทมินซอกที่ตายไปแล้ว

อิมโฮจุนเตรียมกล้องเพื่อบันทึกคำให้การของฮีซองที่ห้องพักฟื้นของเขา แต่สายสืบชเวซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่นั่นขอเป็นคนสอบปากคำเอง ฮีซองให้การว่าพัคคยองชุนไม่พอใจการทำงานของตำรวจในคดีเมียของเขา และเขาสลบไปเพราะโดนแทง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังจะจมน้ำ สายสืบชเวสงสัยว่าทำไมพัคคยองชุนจึงไม่ฆ่าแบคฮีซองในทันทีแบบเดียวกับนัมซุนกิล แต่กลับยื้อเวลาและทรมานเขาแทน เขาอยากรู้ว่าพัคคยองชุนคิดอะไรอยู่ ฮีซองไม่พอใจคำถามของชเวแจซอบที่ว่า ทำไมเรื่องต่างๆถึงบังเอิญไปหมด ที่ว่าเขาไปที่นั่นกับคิมมูจิน ซึ่งบังเอิญเคยรู้จักกัน บังเอิญขึ้นรถแท็กซี่ของพัคคยองชุน และบังเอิญกลายเป็นเหยื่อลักพาตัวอีก ฮีซองจึงถามสายสืบชเวหากมีอคติกับเขา สายสืบชเวจึงบอกว่า คนที่คบกับเขามีเพียงสามประเภทเท่านั้น คือ คนที่เคยโกหก คิดจะโกหก และกำลังโกหก จากนั้นฮีซองจึงขอให้อิมโฮจุนเป็นคนสอบปากคำแทน

ภรรยาของนัมซุนกิลโทรมาขอบคุณจีวอนที่จับคนร้ายที่ฆ่าสามีของเธอได้แล้ว และบอกให้มาเอาของของโทฮยอนซูซึ่งสามีของเธอเก็บไว้นานแล้ว เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคดี จีวอนซึ่งยังไขปมโทฮยอนซูไม่ได้ จึงขอให้เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

เมื่อจีวอนเห็นข่าวของโทมินซอกว่าเขามีห้องใต้ดินที่เวิร์กชอป โดยใช้สายเคเบิ้ลมัดเหยื่อและขังไว้ในกรงเหล็กขนาดใหญ่ เธอจึงคิดจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง

จีวอนมาเยี่ยมฮีซองด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เขาจึงขอให้เธอกลับไปพักผ่อนที่บ้าน แต่จีวอนกลับโมโหและระบายอารมณ์ใส่เขา เพราะเธอเหนื่อยเกินไปและครุ่นคิดเรื่องโทฮยอนซูโดยที่บอกใครไม่ได้ จากนั้นเธอออกมาใช้ความคิด และนึกถึงเรื่องที่ฮีซองละเมอถึงโทแฮซูขณะที่เขาหมดสติ

จากข่าวของโทฮยอนซูและฆาตกรมต่อเนื่อง ทำให้โทแฮซูโดนให้ออกจากงาน เพราะโดนสื่อรบกวนเวลางานของเธอมากเกินไป

จีวอนอ่านบันทึกการให้คำปรึกษาที่โทฮยอนซูเคยได้รับ ซึ่งระบุว่าเขามีความผิดปกติทางจิตและต้องรับยารักษาทางจิตเวช เขาไม่เคยหัวเราะหรือร้องไห้ และไม่แสดงความเสียใจตอนที่มีคนพบศพแม่ของตัวเอง จากนั้นจีวอนจึงนำสารเรืองแสงไปพิสูจน์บางอย่างที่ห้องใต้ดินในเวิร์กชอปของฮีซอง เธอพบสายเคเบิ้ลที่เขาเคยใช้มัดคิมมูจิน เหมือนกับที่โทมินซอกเคยใช้มัดเหยื่อ เมื่อเห็นรถเข็นเด็กของอึนฮา ทำให้เธอนึกถึงภาพความรักและเอาใจใส่ที่ฮีซองมีให้ลูก


ฮีซองตัดสินใจลงมือจัดการพัคคยองชุน แบคมันอูจึงนำอุปการณ์ทุกอย่างมาให้เขา ฮีซองสวมชุดบุรุษพยาบาลเพื่ออ้างว่ามาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้พัคคยองชุน และให้ตำรวจที่เฝ้าอยู่ออกไปพักกินกาแฟ ฮีซองฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือและปิดตัวล็อคไว้ เพราะเปลี่ยนใจไม่ฆ่าพัคคยองชุน แต่ให้เขาใช้เวลาสองเดือนที่เหลืออยู่สืบให้ได้ว่าใครคือคนร้ายตัวจริงที่ฆ่าจองมีซุกและทำตามที่เขาสั่งเมื่อถูกตำรวจสอบปากคำ

 เมื่อตำรวจที่เฝ้าไข้รู้ว่ามีคนปลอมตัวไปทำแผลให้พัคคยองชุน เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปดู
แบคฮีซองออกจากโรงพยาบาลและทำงานในเวิร์กชอปตามปกติ ขณะที่ฟังข่าวของพัคคยองชุนซึ่งให้การกับตำรวจว่าเขาเป็นคนฆ่านัมซุนกิลและลักพาตัวแบคฮีซอง ก็เพราะไม่พอใจการทำงานของตำรวจในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เมืองยอนจู ฮีซองเพิ่งรู้ตัวว่านาฬิกาข้อมือหายไป

จางยองฮีเปลี่ยนใจไปให้ข้อมูลกับคิมมูจินที่สำนักพิมพ์ และเอาเทปตอบรับโทรศัพท์เมื่อสิบแปดปีก่อนไปด้วย ตอนนั้นเธอโดนคนร้ายโทรมาขู่ จึงต้องกลับคำให้การเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

ฮีซองไปรับอึนฮาที่โรงเรียน ขณะที่จีวอนไปหาภรรยาของนัมซุนกิลเพื่อเอาของของโทฮยยอนซูที่เธอบอกไว้ ในกระเป๋าใบนั้นจีวอนพบพวงกุญแจไม้รูปปลาและเครื่องเล่นเทปขนาดเล็ก เธอบอกภรรยาของนัมซุนกิลว่าไม่มีพยานเห็นว่าโทฮยอนซูเป็นคนลงมือฆ่าสามีของเธอ และคนที่เป็นโรคต่อต้านสังคมไม่สามารถดูแลสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่าพวกเขาได้

จีวอนเปรียบเทียบตัวเองและลูกเหมือนสุนัขที่ฮยอนซูดูแลมาเป็นสิบปี แต่ภรรยาของนัมซุนกิลยังปักใจว่าโทฮยยอนซูคือฆาตกร จีวอนจึงขอเวลารวบรวมข้อมูลเพื่อจับฮยอนซู และบอกว่าเธอเชื่อในสิ่งที่เห็นเท่านั้น..