สปอยล์ The First Responders ตอนที่ 7

7

อันนาใช้เครื่องมือพิเศษตรวจสอบเส้นผมของลุงโกเพื่อหาสารไวไฟหากเขาเป็นคนวางเพลิงตัวจริง แต่ทว่าเธอไม่พบสิ่งผิดปกติ อัยการยอมซังกูใช้เครื่องมือนั้นตรวจเส้นผมของโฮแกและพบรอยไหม้ของเส้นผม ซงซอลเป็นพยานยืนยันได้ว่ารอยไหม้นั้นเกิดขึ้นตอนที่เขาต่อสู้กับคนร้ายคดีวางระเบิดมหาวิทยาลัยฮันกุก

หมอยุนนำผลตรวจเลือดมาแจ้งว่าเธอพบอีดีทีเอในเลือดของโฮแกจากที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสารต้านการแข็งตัวของเลือดที่อยู่ในหลอด เมื่อไม่นานมานี้โฮแกไปทำแผลที่ห้องฉุกเฉินและถูกเจาะเลือด เลือดที่เหลือจากการตรวจจะเป็นของเสียทางการแพทย์และถูกกำจัดทิ้ง ซึ่งเป็นไปได้ว่ามีคนนำเลือดที่เหลือของเขาไปหยดไว้ในที่เกิดเหตุ ส่วนรอยรองเท้าก็คือรองเท้าของโฮแกที่ถูกขโมยไปรวมทั้งขวดน้ำมันไฟแช็กที่หายไปจากห้องเก็บหลักฐานด้วย อัยการยอมซังกูไม่สามารถเอาผิดโฮแกได้ เขาจึงได้รับการปล่อยตัวและต้องตามหาคนร้ายตัวจริงต่อไป


เชือกที่ติดอยู่ที่เส้นคอของศพบังพิลกูและเชือกที่พบในที่เกิดเหตุเป็นคนละชนิดกัน โฮแกสงสัยว่าหากเป็นการฆาตกรรม ทำไมคนร้ายจึงใช้เชือกสองชนิดซึ่งจะเป็นหลักฐานมัดตัวได้ โฮแกและบงโดจินจำลองเหตุการณ์ทั้งหมดและสรุปได้ว่าบังพิลกูใช้น้ำมันราดตัวเองและถือไฟแช็กไว้ก่อนจะผูกคอตาย หมอยุนยืนยันว่าอาจเป็นไปได้เพราะเปลวไฟลักษณะแนวตั้งที่เห็นจากเงาสะท้อนหน้าต่างจากกล้องวงจรปิดคือลักษณะของคนกำลังถูกเผา หมายความว่าคดีนี้ไม่ใช่การฆาตกรรม

หัวหน้าแบคชัมอยากรู้ว่าหัวหน้าอัยการจินชอลจุง(พ่อของโฮแก)เป็นห่วงโฮแกจริงๆหรือกลัวว่าลูกชายตนเองจะไปขวางทางกันแน่ ซึ่งเขาตอบว่าทั้งสองอย่าง

บังพิลกูคือพ่อของเด็กสาวที่มาแทฮวาส่งไปเรียนต่างประเทศ เขาจึงยอมทำทุกอย่างตามคำสั่งของมาแทฮวาและผูกคอตายพร้อมกับวางเพลิงเองเนื่องจากเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่อยู่ได้ไม่ถึงสามเดือน มาแทฮวาใช้เหตุการณ์นี้พร้อมปลอมหลักฐานทุกอย่างเพื่อมัดตัวโฮแก

หัวหน้าอัยการจินชอลจุงเผาเอกสารการค้ายาเสพติดของมาแทฮวาบางส่วนทิ้งไปตามคำสั่งของส.ส.มาจุงโดที่ต้องการปกปิดความผิดของลูกชาย

ทนายยังชียองมอบเงินจำนวนหนึ่งและตั๋วเครื่องบินให้กับชเวซอกดู(ขี้ยา)เพื่อให้หลบไปอยู่ต่างประเทศสักพักหลังจากที่ทำงานให้มาแทฮวาเรียบร้อยแล้ว แต่ชเวซอกดูไม่ได้เดินทางและหลบไปใช้ชีวิตอยู่ในโมเตลแห่งหนึ่ง ชเวซอกจูคือขี้ยาที่มีรูปร่างลักษณะและความสูงใกล้เคียงกับมาแทฮวา มาแทฮวาจึงหลอกใช้เขาเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันที่อยู่ของตัวเองมาก่อนหน้านี้ในคดีคดีฆาตกรรมซอกมีจอง

โฮแกวางแผนตามหาชเวซอกดูเพราะเขาคือพยานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับมาแทฮวา โดยเริ่มจากร้านขายยาที่ชเวซอกดูต้องกินเป็นประจำเพื่อแก้โรคลมชักและโมเตลบริเวณนั้นที่คิดว่าซอกดูจะไปอยู่ มาแทฮวาให้เงินก้อนโตกับหัวหน้าแก๊งแดมูเจ้าหนี้นอกระบบเพื่อใช้ไปฆ่าปิดปากชเวซอกดู

ชเวซอกดูเกือบตายเพราะปริมาณสารเสพติดจำนวนมากที่ลูกน้องแก๊งเงินกู้ฉีดเข้าไปด้วยเครื่องปั๊มอัตโนมัติ โฮแกและมยองพิลไปช่วยได้ทันและกักตัวไว้เป็นพยาน เขาสารภาพว่าเป็นคนในภาพจากกล้องวงจรปิดขณะซื้อขายยาเสพติดเมื่อปีที่แล้ว

โฮแกและทีมบุกไปจับมาแทฮวาที่ออฟฟิศ แต่เขาไหวตัวทันและจุดไฟเผาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อทำลายหลักฐานและเตรียมตัวหนีโดยเฮลิคอปเตอร์ โฮแกตามขึ้นไปบนดาดฟ้าและใช้สายฉีดดับเพลิงเพื่อไล่ฮอไป เขาต่อสู้กับมาแทฮวาและใส่กุญแจมือ แต่มาแทฮวาเห็นเลือดจากแผลเดิมของโฮแก เขาจึงกระทุ้งไปที่แผลนั้นและใช้สายดับเพลิงรัดคอจนโฮแกหมดสติไป เจ้าหน้าตำรวจและกู้ภัยตามขึ้นไปช่วยและจับกุมมาแทฮวา

ซงซอลพยายามปั๊มหัวใจของโฮแกที่ไร้ชีพจรไปชั่วขณะหนึ่งและนำส่งโรงพยาบาล แต่ลำไส้ของเขาฉีกขาดและรับการผ่าตัด หมอต้องรอดูอาการทางสมองของเขาเนื่องจากชีพจรหยุดเต้นไประยะหนึ่ง ซงซอลเฝ้ารออยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยความเป็นห่วง พ่อของโฮแกมาคุยกับหมอและกลับไปโดยไม่ได้เข้าเยี่ยม

ทนายยังประกบมาแทฮวาเพราะเป็นลูกความของเขา คำให้การเท็จของมาแทฮวาที่บอกว่าโฮแกพยายามจะฆ่าเขาไม่อาจพิสูจน์ได้เพราะบนดาดฟ้าไม่มีกล้องวงจรปิด มยองพิลพยายามคิดว่าหากโฮแกไม่ได้เป็นอะไร ตอนนี้เขาจะไขคดีอย่างไร จากนั้นมยองพิลจึงชวนอันนาไปหาหลักฐานต่างๆ ซงซอลเฝ้าโฮแกที่ยังไม่ได้สติและร้องไห้ออกมาด้วยความสงสารและเป็นห่วง