สปอยล์ The First Responders ตอนที่ 6
เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนเขา หลังจากดับเพลิงจนสงบแล้ว เจ้าหน้าที่พบศพชายอยู่ในซากกองเพลิงที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ แพทย์ชันสูตรพบเศษเชือกที่รอยย่นของคอ แต่ไม่พบเขม่าควันในหลอดลมซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้ตายจากเหตุเพลิงไหม้และน่าจะเป็นการฆาตกรรม เพราะกระดูกสันหลังคอหักที่เกิดจากการรัดคออย่างแรงจนทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต
หลังจากตรวจดีเอ็นเอแล้วจึงรู้ว่าชายที่เสียชีวิตคือบังพิลกูอายุ 57 ปีซึ่งเคยต้องโทษ13 ครั้งและเพิ่งได้รับการปล่อยตัว
ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พบร่องรอยการวางเพลิงสามจุดด้วยน้ำมันไฟแช็ก นอกจากนั้นยังพบรอยรองเท้าของคนร้ายที่กระโดดออกจากหน้าต่างที่แตก ทั้งรอยรองเท้าและรอยเลือดที่พื้นกับรอยนิ้วมือบนขวดน้ำมันไฟแช็กตรวจพิสูจน์แล้วพบว่าตรงกับดีเอ็นเอของจินโฮแก(หมาจินโด) บงโดจินตรวจรายชื่อคนที่แจ้งเหตุเพลิงไหม้เป็นคนแรกเพราะเชื่อว่าเขาคือผู้ที่น่าสงสัยที่สุดในคดีวางเพลิง
หลังจากที่อัยการยอมซังกูคุยกับมาแทฮวาเป็นการส่วนตัวและได้ไฟล์จากกล้องหน้ารถแล้ว เขาก็นำหมายค้นไปที่สถานีแทวอนและไปหาจินโฮแกในที่เกิดเหตุเพื่อควบคุมตัวข้อหาฆาตกรรมบังพิลกู เพราะไฟล์จากกล้องหน้ารถที่ได้มาจากมาแทฮวาปรากฏภาพของจินโฮแกหลังจากที่เขาได้รับโทรศัพท์และออกไปพบใครบางคนที่ไม่มาตามนัดก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ บงโดจินขอให้อัยการยอมซังกูโทรหาผู้แจ้งเหตุเพลิงไหม้คนแรกซึ่งก็เป็นหมายเลขของจินโฮแก นอกจากนั้นหมอยุนฮงก็นำเอกสารมายืนยันว่าดีเอ็นเอจากรอยเลือดก็เป็นของจินโฮแกเช่นกัน
จินโฮแกรู้แล้วว่าตนเองกำลังถูกจัดฉาก และคิดว่าหมอยุนถูกซื้อตัวเพื่อใส่ร้ายเขาเช่นกัน สายสืบมุนยองซูใส่กุญแจมือจินโฮแก และบอกว่าเมื่อเจ็ดปีก่อนเขาไม่สามารถจับได้เพราะขาดหลักฐานมัดตัว ทุกคนในที่นั้นต่างก็แปลกใจกับสิ่งที่เห็นและได้ยินถึงแม้จะไม่เชื่อว่าโฮแกเป็นคนร้าย แต่หลักฐานทุกอย่างก็มัดตัวเขาจริงๆ
หัวหน้าอัยการจินชอลจุง(พ่อของโฮแก)ตำหนิอัยการยอมซังกูที่ร่วมมือกับมาแทฮวา แต่อัยการยอมซังกูอ้างว่าเขาทำตามหลักฐาน และคิดว่าการที่โฮแกล้มไม่เป็นท่าแบบนี้ ก็น่าจะเป็นความต้องการของจินชอลจุงด้วยเช่นกัน มาแทฮวาสร้างหลักฐานมัดโฮแกทุกอย่าง เพื่อให้อัยการยอมซังกูปะติดปะต่อ และส่งโฮแกไปอยู่ในเรือนจำให้ได้ หัวหน้าแบคชัมเชื่อว่าโฮแกไม่ได้ทำความผิดแต่ต้องจำนนด้วยหลักฐาน โฮแกจึงบอกว่าเขาเคยรับผิดชอบคดีของมาแทฮวาก่อนที่ย้ายมาทำงานที่แทวอน
บงโดจินกลับไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานช่วยโฮแก โฮแกอยู่ห้องขังเดียวกับโจดูชิลคนร้ายที่เขาเคยจับ เขาตั้งใจยั่วยุดูชิลให้ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเพื่อจะได้ถูกนำตัวไปโรงพยาบาลและหลบหนีระหว่างทางที่ไป โฮแกขโมยเสื้อผ้าของชาวบ้านที่ตากอยู่เพื่อเปลี่ยนชุดและแอบไปเยี่ยมเด็กหนุ่มที่เขาช่วยชีวิตไว้ขณะไฟไหม้ จึงได้ข้อมูลว่ามีลุงไร้บ้านชอบแอบมานอนที่ร้านนั้นบ่อยๆก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ โฮแกขอให้เด็กหนุ่มคนนั้นติดต่อซงซอล
โฮแกบาดเจ็บสาหัสและไปที่หมู่บ้านคนไร้บ้าน ซงซอลตามไปที่นั่นและช่วยเย็บแผลให้กับเขา เธอช่วยโฮแกหารองเท้าที่กองอยู่ซึ่งมีโลโก้คล้ายกับของตำรวจ เขามองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนและขอบคุณในความช่วยเหลือของเธอ
บงโดจินดูรูปที่เกิดเหตุอีกครั้งและจำได้ว่าน้ำมันไฟแช็กขวดนั้นเหมือนกับที่โฮแกเคยนำไปไว้ที่ห้องเก็บหลักฐานจากคดีอูมียอง ซึ่งหมายความว่ามีรอยนิ้วมือของโฮแกอยู่บนขวดนั้น บงโดจินบอกสายสืบมยองพิลคู่หูของโฮแกเพราะเชื่อว่ามีคนในจงใจนำหลักฐานไปไว้ในที่เกิดเหตุเพื่อใส่ร้ายโฮแก มยองพิลจึงคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยสืบสวนภูมิภาคที่เข้าไปในห้องเก็บหลักฐานในวันที่มาตรวจค้นรวมทั้งรองเท้าของโฮแกที่กองอยู่บนสถานี
โฮแกพบรองเท้าต้องสงสัยในหมู่บ้านคนไร้บ้านซึ่งเป็นของลุงโก จากนั้นเขาจึงพาลุงโกไปที่สถานีตำรวจด้วยกันเพื่อสอบปากคำ