สปอยล์ Dr. Romantic 3 ตอนที่ 11
ในการพิจารณาคดีครั้งที่สอง อาจารย์ชาจินมันให้การต่อศาลจนเป็นฝ่ายชนะ แต่ส.ส.โกไม่ยอมพ่ายแพ้และจะยื่นอุทธรณ์ ส.ส.โกยื่นข้อเสนอกับอาจารย์คิมและผอ.พัคว่าเธอจะถอนฟ้องและพิจารณางบประมาณของศูนย์อุบัติเหตุต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องปลดอาจารย์ชาจินมัน เธออ้างถึงเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนที่หมออูซังมินประจำร.พ.มหาวิทยาลัยฮันกุกฆ่าตัวตาย เพราะทนแรงกดดันไม่ไหวจากคดีที่เขาพลาดทำให้คนไข้เสียชีวิต ทุกคนโทษว่าเป็นความผิดของอาจารย์ชาจินมันที่ไปกดดันเขา
อาจารย์คิมไม่ต้องการให้ผอ.พัคทำตามคำขู่ของส.ส.โก แต่การเป็นผู้นำจะต้องเผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์ เพื่อคนข้างหลังจะได้ไม่กังวลหรือหวั่นไหว มีคนนำกล่องปากกาสลักชื่อหมออูซังมินที่ตายไปแล้วไปวางไว้บนโต๊ะอาจารย์ชาจินมัน ทำให้เขาต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพราะรู้สึกว่ากำลังโดนข่มขู่
ชาอึนแจกดดันที่แม่ของเธอก้าวก่ายความสัมพันธ์ของเธอกับหมอซอ เธอยังรู้อีกว่ามือของหมอซออาจจะใช้งานได้ไม่เหมือนเดิม เธอจึงขอจดทะเบียนสมรสกับหมอซอไว้ก่อน แต่เขาปฏิเสธเพราะมันไม่ใช่วิธีที่เธอจะหนีปัญหา
หมอยุนอารึมยังคงเย็นชากับพยาบาลอึนทัก หมอจางที่แอบชอบหมอยุนจึงบอกกับเธอว่าให้ใช้เขาเป็นเครื่องมือด้วยการสนิทสนมกัน เพื่อให้พยาบาลอึนทักเกิดความหึงหวง แต่หมอยุนไม่รับข้อเสนอนี้เพราะไม่ต้องการเล่นกับความรู้สึกของใคร
คุณป้าชองกึมเป็นโรคสมองเสื่อมและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะตกบันได แต่ไม่สามารถติดต่อญาติได้เพราะท่านอยู่ตัวคนเดียว เมื่อเห็นหน้าพยาบาลอึนทักท่านจึงเรียกเขาว่าพี่ชายและเรียกหมออุงว่าที่รัก หมอยุนอารึมกับหมอจางกำลังรักษาคนไข้อีกเคสหนึ่ง พยาบาลอึนทักเห็นความสนิทสนมเป็นกันเองของคนทั้งคู่
หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว แต่ไม่เห็นหน้าคนที่เข้าไปในห้องทำงานของอาจารย์ชา เพราะเขาใช้ถุงกระดาษคลุมหัว อาจารย์ชาจินมันตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยฮันกุกและกำลังสงสัยหมออุง หมออุงเป็นลูกศิษย์ของเขาและเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับหมออูซังมินที่ฆ่าตัวตาย ในตอนนั้นอาจารย์ชาไล่หมออุงออกจากโรงพยาบาลฮันกุกเพราะเห็นว่าคุณสมบัติไม่เหมาะสม อาจารย์ชาจึงคิดว่าหมออุงอาจจะแก้แค้นแทนเพื่อนและตัวเองที่เคยถูกไล่ออก แต่หมออุงยืนกรานว่าตนเองไม่เคยเข้ามาในห้องทำงานของอาจารย์ชา
เมื่อถูกไต่สวนต่อหน้าผอ.พัคและอาจารย์คิม อาจารย์ชาต้องการให้ปลดหมออุงออกจากทลดัมทันดีด้วยเหตุผลเรื่องปากกาและตาบอดสี แต่ทั้งผอ.พัคและอาจารย์คิมต่างก็บอกว่าหมออุงไม่เคยปกปิดเรื่องสายตาและเคยผ่าตัดเส้นเลือดที่ต้นขาของคนไข้สำเร็จมาแล้ว ส่วนเรื่องคนที่ลอบเข้าไปในห้องทำงานก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นใคร ผอ.พัคบอกกับอาจารย์คิมว่าเขาได้เผชิญหน้ากับคลื่นลูกใหญ่ตามคำแนะนำแล้ว ทำให้อาจารย์คิมคิดอะไรบางอย่าง
หมออุงกลับเข้าห้องทำงานของตัวเองด้วยความวิตกกังวลและมือสั่นเทา ที่ลิ้นชักที่โต๊ะทำงานของเขามีถุงกระดาษที่ใช้คลุมหัวอยู่ในนั้น