สปอยล์ Doctor John ตอนที่ 9-12

9-12

ตอนที่ 9 -10


ย้อนไปเมื่อครั้งเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ระหว่างไปปีนเขา ของชียองกับคุณพ่อ คุณพ่อของชียองพลัดตกจากเขาระหว่างที่กำลังปีนเขาอยู่และทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเพราะตอนนั้นเกิดพายุและลมแรงทำให้ทางตำรวจไม่สามารถตามหาพวกเขาได้ คุณพ่อของชียองรู้ตัวดีว่าท่านไม่สามารถที่จะประคองสติและอดทนรอได้กว่าจะมีคนมาช่วย
คุณพ่อบอกกับชียองว่า

ช่วงเวลาที่รู้สึกเจ็บปวดที่สุด คือเมื่อรู้ว่าคนไข้ไม่ดีขึ้นและหมดหวังแล้ว
และบอกให้ชียองปล่อยมือที่ชียองกดบาดแผลห้ามเลือดคุณพ่อเอาไว้
และบอกชียองว่าเธอไม่ได้ฆ่าพ่อแต่นั่นจะทำให้พ่อสงบลง..
ชียองปล่อยมือจากพ่อ และพ่อก็หมดสติไป..
------

ปัจจุบัน

ในขณะที่แม่ของชียองพยายามช่วยชีวิตพ่ออยู่ ชียองบอกให้แม่หยุดเพราะรู้ว่าพ่อเจ็บปวดเหลือเกิน แต่มีแรก็ไม่ยอม เธอปั๊มหัวใจคุณพ่อจนหัวใจของคุณพ่อกลับมาเต้นอีกครั้ง และก็ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจกับคุณพ่อเอาไว้เช่นเดิม และทันทีที่คุณพ่อพ้นช่วงวิกฤตไปได้ มีแรตบหน้าชียอง ที่ชียองบอกให้หยุดช่วยชีวิตคุณพ่อ มีแรบอกว่าจะไม่ยอมถอดเครื่องช่วยหายใจของคุณพ่อเด็ดขาดถึงแม้คุณพ่อจะต้องนอนติดเตียงแบบนี้ก็ตาม

ทนายฮัน เตือนหมอชาไม่ให้เข้าไปยุ่งกับอาการของท่านประธานคังหรือพ่อของชียอง
ให้หมอชาทำเป็นไม่รู้อาการป่วยใดๆและห้ามไปให้คำแนะนำอะไร..

หมอชาคิดถึงตัวเองตอนที่เขาตัดสินใจฉีดยาเพื่อทำให้ยุนซองกยูตาย
เขากับซองกยูไม่ได้เป็นอะไรกัน และซองกยูเป็นอาชญากรใจโฉดที่ฆ่าเด็กสองราย
ตอนที่เขาฉีดยาให้ซองกยู เขายังรู้สึกทั้งกลัวและหนักใจมาก
แต่กับชียอง ชียองที่ต้องหยุดหัวใจของพ่อด้วยมือของเธอเอง
ชียองต้องเจ็บปวดและกลัวขนาดไหน..

ชียองนั่งดูรูปที่เธอถ่ายกับพ่อเป็นครั้งสุดท้ายที่ร้านอาหารใกล้โรงพยาบาล เธอพยายามไปตามหาร้านนั้นแต่ก็จำไม่ได้ว่าคือร้านไหน หมอชาที่อยู่แถวนั้นและเห็นชียอง เขาจึงช่วยชียองตามหาร้านนั้นจนเจอ
ก็คือร้าน "ร้านบาบีคิวสุขสันต์"
หมอชาชวนชียองเข้าไปทานอาหารด้วยกัน หลังจากทานเสร็จชียองขอบคุณหมอชา หมอชาให้กำลังใจชียองและบอกว่าถ้าเขาเป็นชียองคงอยากหนีไปให้ไกลกว่ามาดากัสการ์ ชียองขอบคุณและบอกว่าเป็นคำชมที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอ หมอชาจึงบอกว่าเขาเองก็ชมตัวเองเพราะว่าเขาทำให้ชียองกลับมาเป็นหมอได้อีกครั้ง...

และเพราะฮยองอูให้สัมภาษณ์เรื่องที่หมอชาช่วยชีวิตเขาไว้ และบอกว่าเป็นหนี้บุญคุณหมอชา ทำให้ที่ศูนย์รักษาความเจ็บปวดต่างมีคนไข้กรูกันเข้ามารักษามากมาย

มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บที่แขนอย่างสาหัส สีหน้าเขาไร้ความรู้สึกทั้งที่บาดแผลฉกรรจ์ หมอชารีบนำตัวคนไข้คนนี้มารักษา
และจากวินิจฉัยเบื้องต้น คนไข้มีภาวะไม่รู้สึกความเจ็บปวดตั้งแต่กำเนิด
หรือ ซีไอพีเอ : คนที่ไม่ไวต่อความเจ็บปวดหรืออุณหภูมิ

หมอชาและทีมแพทย์ต่างต้องตรวจสอบเพื่อวินิจฉัยโรคนี้ว่า นักเรียนคนนี้เป็น ซีไอพีเอ จริงหรือไม่

อัยการซนไปหาหมอชาและเจอกับชียอง เขาเป็นอัยการที่รับผิดชอบคดีที่ทำให้หมอชาต้องติดคุก ทนายฮันเห็นอัยการซนอยู่กับชียองจึงรีบโทรบอกหมอชาทันที
ชียองไม่เข้าใจว่าอัยการซนบอกเรื่องนี้กับเธอทำไม
และอัยการซนยังถามชียองว่า ถ้าหมอชาพยายามทำเรื่องเหมือนกับ 3 ปีก่อน ชียองจะแจ้งเรื่องนี้หรือจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือจะเห็นด้วยกับหมอชา
หมอชาเห็นชียองกับอัยการซน เขาโทรหาอัยการซนและบอกให้ถอยและอยู่ให้ห่างจากแพทย์ฝึกหัดของเขา...
 

ตอนที่ 11- 12


อัยการซนบอกกับหมอชาว่าถึงแม้เวลาจะผ่านไปก็ไม่สามารถลบประวัติอาชญากรรมของหมอชาได้ สิ่งเดียวที่สามารถลบล้างได้นั่นคือการได้รับการอภัยจากสังคม แต่หมอชาบอกว่าเขาไม่เคยขอให้สังคมยกโทษในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป

หมอชาถามอัยการซนตามตรงว่าต้องการอะไรจากเขา อัยการซนจึงบอกว่าเขากลัวหมอชา กลัวว่าหมอชาจะทำแบบนั้นอีก และจะสอนแพทย์ฝึกหัดให้คิดแบบเดียวกับหมอชา หมอชายืนยันว่าไม่ว่าอัยการซนจะคิดเช่นไรก็ไม่ได้มีความสำคัญกับเขา สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับเขานั้นก็คือเขาเป็นหมอแบบไหนสำหรับคนไข้..
เขาจะฆ่าหรือช่วยเหลือคนไข้นั้น คนไข้จะเป็นคนตัดสินเอง

แชอึนจองตามสืบความเกี่ยวข้องของหมอชาและหัวหน้ามิน ทำให้รู้ว่าตอนนี้ประธานคังกำลังอยู่ในอาการโคม่า และลูกๆของเขาซึ่งก็คือ ชียอง กับมีแร เป็นลูกศิษย์ของหมอชาอยู่ตอนนี้ อัยการซนจึงคิดว่าอาจจะเป็นเหมือนในกรณีคดีของโพสต์ม่า ที่ลูกที่เป็นหมอตัดสินใจจะยุติการรักษาเพื่อยืดชีวิตของพ่อตัวเอง และคิดว่าเรื่องนี้จะต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างแน่นอน

คนไข้กีซอกที่เป็น โรคซีไอพีเอ ในขณะที่หมอชากำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ขอมาถ่ายทำที่แผนกอยู่นั้น อยู่ๆกีซอกก็มีความรู้สึกขึ้นมา ซึ่ง โรคซีไอพีเอนั้นเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้และไม่ทางหาย หมอชารู้สึกสับสนมากเพราะอาการของกีซอก หมอชาพยายามหาเหตุผลและสาเหตุที่กีซอกมีความรู้สึกขึ้นมา และไม่เพียงเท่านั้นกีซอกกลับมีความรู้สึกและความเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย ทั้งที่ตรวจร่างกายและผลออกมาก็ปกติดี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร

และแล้วในที่สุดชียองก็คิดออก ว่าการที่กีซอกรู้สึกเจ็บปวดทั้งๆที่ไม่มีอาการอะไรที่จะต้องรู้สึกว่าเจ็บปวดนั้น คืออาการชาร์ลส์บอนเน็ต ประสาทหลอนทางการได้ยิน นั่นเป็นเพราะสมองต้องการการกระตุ้นประสาทสัมผัส ถ้ามันถูกตัดออกสมองก็จะสร้างสัญญาณขึ้นมาเอง จนสร้างภาพและเสียงขึ้นมาเอง

กีซอกไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัดเพราะเขาอยากมีชีวิตเหมือนคนปกติ เขาคิดว่าสิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้เป็นเรื่องจริง ทั้งๆที่นั่นเป็นของปลอม หมอชาเกลี้ยกล่อมกีซอกจนกีซอกยอมเข้ารับผ่าตัด เพราะอะไรนั้น นั่นก็เพราะหมอชาเองก็เป็นโรคนี้ โรคเดียวกับกีซอก

หมอชาขอบคุณชียองที่บอกใบ้เรื่องอาการของกีซอกจนทำให้หาคำตอบโรคของกีซอกได้สำเร็จ หมอชาบอกให้ชียองเข้าร่วมผ่าตัดกีซอกด้วย การผ่าตัดลุล่วงและสำเร็จผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

หลังจากนั้นทุกคนก็ไปเลี้ยงฉลองด้วยกัน แต่ทว่าเมื่อมีแรมาถึงก็กลับพูดถึงแต่เรื่องการุณยฆาตจนทำให้เสียบรรยากาศจนต้องเลิกและแยกย้ายกันกลับ

ชียองแอบเดินตามหมอชาไปและตามไปถึงที่ศูนย์การแพทย์ ชียองคิดว่าหมอชาอยู่ที่ห้องจึงเข้าไปที่ห้องทำงานหมอชา แต่ก็ไม่เจอหมอชา ชียองคิดถึงตอนที่หมอชาเกลี้ยกล่อมกีซอกและสงสัย่าหมอชาเปิดอะไรให้กีซอกดู ชียองจึงเปิดคอมในห้องของหมอชาและเห็นภาพเอ็กซ์เรย์ของหมอชา