สปอยล์ Doctor John ตอนที่ 29-32

29-32

ตอนที่ 29 -30
----------------
การจากไปของกีซอก ทำให้หมอชายิ่งกลัว และบอกให้ชียองเลิกยุ่งกับเขา
ตัวเขาเหมือนมีระเบิดเวลาอยู่ในตัวที่ไม่รู้ว่ามันจะระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่
ชียองพยายามบอกว่าหมอชาไม่ใช่กีซอก และทำไมหมอชาไม่ให้ความหวังกับตัวเองบ้าง และถ้าทำแบบนั้นไม่ได้เธอก็อยากให้หมอชามีชีวิตอยู่เพื่อวันนี้ หมอชาจึงบอกว่าตลอดที่ผ่านมาเขาก็ใช้ชีวิตแบบนั้น แต่เพราะชียองที่ทำให้เขาฝันเป็นครั้งแรก ฝันถึงวันพรุ่งนี้ และกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาจะกลับไปเป็นคนเดิม จะทำทุกอย่างอย่างบ้าระห่ำโดยไม่คิดถึงวันพรุ่งนี้และไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต..
ชียองร้องไห้เสียใจด้วยความเจ็บปวด

หมอชาสั่งงานกับทีมและบอกว่าจะส่งมอบหน้าที่ต่อให้กับหมออี

ซอกกีอาการกำเริบในขณะที่กำลังขับรถอยู่ และถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันที และซอกกีขอให้หมอชาเป็นคนดูแลเขา และเพราะซอกกีใช้ยาแก้ปวดมานาน ดังนั้นจะต้องสอดปั๊มยาเข้าช่องไขสันหลังเพราะจะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการกินยาแก้ปวด และจะสามารถควบคุมความเจ็บปวดได้ดีมีประสิทธิภาพมากกว่า ซอกกีเชื่อใจหมอชาและทำตามที่หมอชาบอก

หมอชากับทีมจึงประชุมเพื่อจะรักษาซอกกีในวันพรุ่งนี้ หลังจบการประชุมชียองเดินออกจากห้องโดยที่ไม่คุยอะไรกับหมอชาสักคำ

ชียองไปดักรอหมอชาที่หน้าโรงพยาบาล เพื่อถามหมอชาเรื่องงานวิจัยหาสารกดความเจ็บปวดโดยใช้ดีเอ็นเอของคนที่ป่วยเป็นซีไอพีเอ ว่าหมอชาจะไปที่นั่นใช่มั้ย หมอชาจึงตอบว่าใช่ ชียองจึงถามหมอชาว่าแล้วเธอจะทำอย่างไรเพราะตั้งแต่ที่เธอเจอหมอชาชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป และที่หมอชาพูดว่าเธอทำให้เขาได้ฝันและมีความสุขนั้นคืออะไร และก่อนที่หมอชาจะไป เธออยากรู้ว่าคำตอบนั้นคืออะไร
หมอชาพยายามบ่ายเบี่ยงและบอกชียองว่าอย่ารอคำตอบกับเขา ก่อนจะเดินจากไป

การผ่าตัดสอดปั๊มยาเข้าช่องไขสันหลังให้ซอกกีผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากที่ส่งซอกกีไปยังห้องพักพื้นแล้ว หมอชาได้เจอกับอึนจอง หมอชาเข้าใจอึนจองดีและขอโทษเธอที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวด..

อาการของท่านประธานหรือพ่อของชียอง...
ความดันเลือดเริ่มแปรปรวน ค่าออกซิเจนในสมองเริ่มตก ผลคลื่นสมองใกล้ตาย
ชียองกับมีแรถูกเรียกให้รีบขึ้นไปหาพ่อ เพื่อบอกลาพ่อเป็นครั้งสุดท้าย..

ชียองบอกกับแม่และน้องว่าได้เจอบัตรบริจาคอวัยวะของพ่อในกระเป๋าสตางค์ตอนเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจึงเห็นพ้องว่าจะทำตามความต้องการของพ่อ

มีแรกลับบ้าน และถามชียองว่าเธอขอกลับมาอยู่ได้มั้ย ชียองรีบเข้าไปกอดมีแรและบอกว่ายินดีต้อนรับ มีแรขอโทษชียอง เช่นเดียวกับชียองก็ขอโทษมีแร

มีแรบอกกับชียองว่าหมอชาเป็นคนที่อยู่กับพ่อเป็นคนสุดท้ายก้อนที่พ่อจะจากไป..

มีแรไปหาหมออี ทำให้รู้ว่าหมอชากำลังจะไปต่างประเทศเพื่อร่วมทีมวิจัย มีแรจึงรีบกลับไปบอกชียองให้รีบตามหมอชาไปที่สนามบิน

หมออีรีบไปส่งชียองที่สนามบิน ชียองวิ่งตามหาหมอชา เธอโทรหาหมอชาแต่หมอไม่รับสาย และตอนนั้นเอง ชียองเจอหมอชาที่กำลังดูโทรศัพท์และไม่ยอมรับสายของเธอ
หมอชาค่อยๆหันมาและเห็นชียองยืนอยู่ตรงหน้า ทันทีที่เจอหน้าหมอชา

ชียองบอกกับหมอชาว่า เขาคือคนที่ทำให้เธอมีความสุขและทำให้เรียนรู้ที่จะรัก ทั้งชีวิตของเธอ งานที่เธอทำ และก็ชาโยฮัน นั่นคือสิ่งที่เธออยากบอกเขา หมอชาจึงบอกว่าชียองคือคนเดียวที่เข้าใจเขา ทั้งโรคของเขาและตัวเขา โลกที่เขาไม่รู้จักร้อนหรือหนาวนั้นอบอุ่นได้หลังจากที่ได้พบเธอ ชียองจึงต่อว่าที่หมอชาไม่ยอมตอบเธอ หมอชาจึงบอกว่าเพราะว่าเขารักชียอง และคนที่จะไปแบบเขาจะสารภาพกับชียองได้อย่างไร ชียองจึงบอกว่าหมอชาว่าเขาจะพูดถึงความรักได้ทุกเมื่อ ยิ่งถ้าหมอชาที่ไม่รู้ว่าจะมีวันพรุ่งนี้อีกมั้ย หมอชาจึงเข้าไปจูบชียอง และบอกว่าเขารักเธอ เช่นเดียวกับชียองที่บอกว่าเธอก็รักเขา ก่อนที่ทั้งคู่จะจูบกันอีกครั้ง...

หมอชาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมวิจัย
ชียองอยู่รอ หมอชาจะส่งอีเมล์มาหาชียองทุกวัน แต่แล้วอยู่ๆหมอชาก็ไม่ได้ส่งเมล์มา ชียองร้อนใจมาก และพยายามติดต่อหมอชา


ตอนที่ 31 -32 (ตอนจบ)
-----------------------

ในขณะที่หมอชาตัดสินใจไปร่วมทีมวิจัยหาสารกดความเจ็บปวดโดยใช้ดีเอ็นเอของคนที่ป่วยเป็นซีไอพีเอ เขาส่งอีเมล์รายงานสุขภาพตัวเองมาให้ชียองทุกเช้า
แต่อยู่ๆเขาขาดการติดต่อไปทำให้ชียองเป็นห่วงมาก

ชียองตัดสินใจที่จะเดินทางไปหาหมอชา แต่พอดีติดต่อกับทางทีมวิจัยของหมอชาได้ก่อน ทางทีมบอกว่าหมอชาไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้เพราะว่าเขากำลังยุ่งกับโปรเจกต์สำคัญอยู่ ชียองจึงแจ้งไว้ว่าหากหมอชาสะดวกแล้วให้ช่วยติดต่อกลับเธอทันที จริงๆแล้วที่หมอชาไม่สามารถรับโทรศัพท์ชียองได้นั้น เขากำลังรักษาตัว..

ชียองคอยโทรหาหมอชา แต่ก็ยังไม่ก็ยังไม่ได้คุยกับหมอชา วันแล้ววันเล่าผ่านไป 1เดือน เธอก็ได้แต่รอและไม่รู้ว่าหมอชาเป็นอย่างไรบ้าง

6 เดือนต่อมา..

ในขณะที่ชียองยังไม่ได้รับการตอบกลับจากหมอชาเลย
มีข่าวของหมอชาในการเร่งการพัฒนายาบรรเทาอาการปวด..
และนั่นเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ชียองได้เห็นรูปหมอชา
ชียองกับทีมไปนั่งดื่มด้วยกัน ชียองเมาหนักมีแรต้องแบกชียองกลับมาบ้าน ชียองร้องไห้เสียใจและบ่นกับมีแรว่าหมอชาเห็นคนไข้เป็นที่1เสมอ..

3 ปีต่อมา

ชียองซึ่งตอนนี้กลายเป็นแพทย์ผู้ช่วยอาจารย์ปี1และดูแลรุ่นน้องอย่างเคร่งครัดมีฉายาใหม่นั่นก็คือ หมาบ้าคัง

หมอชากลับมาที่โรงพยาบาลและยืนอยู่ตรงหน้าชียอง ชียองแทบจะไม่เชื่อสายตา หมอชาถามชียองว่าสบายดีมั้ย ชียองตอบว่าเธอสบายดี ชียองดีใจกับหมอชาเรื่องงานวิจัย ชียองถามถึงสุขภาพของหมอชา เขาบอกว่าเขาดีขึ้นเยอะและตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว ชียองถามว่าเขากลับมาเกาหลีเมื่อไหร่ หมอชาจึงตอบว่าประมานหนึ่งปีก่อน ชียองจึงถามหมอชาว่าเขามาทำอะไรที่โรงพยาบาลก่อนที่จะโดนโทรตามไปตรวจคนไข้ ทำให้ต้องแยกกัน

ประธานมิน คิดโครงการที่จะตั้งศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

มีคนไข้ที่มีอาการปวดแบบฉุกเฉิน เธอจะมีอาการปวดชั่วคราวและก็หายไป จากการตรวจยังไม่พบอะไรผิดปกติ หมอฮอจึงเสนอให้ขอให้หมอชาช่วยและนั่นทำให้ชียองโมโหและบอกว่าที่ผ่านมาทุกคนก็ทำหน้าที่ และรักษาคนไข้กันมาได้ตลอด

หมออีโทรหาหมอชาเพื่อขอให้หมอชาช่วย หมอชาจึงแอบเข้าไปฟังและช่วยวินิจฉัยอาการของคนไข้รายนี้

มีแรเอาข่าวเรื่องของหมอชามาให้ชียองอ่าน หลังจากที่หมอชาไปร่วมทีมวิจัยได้ 3 เดือน หมอชาเกือบเสียชีวิตเพราะซีพีซี(การติดเชื้อที่ปอดที่เกิดจากเชื้อรา) นั่นคือตอนที่ขาดการติดต่อกับชียอง แต่ชียองก็ยังไม่หายโกรธเพราะเธอไม่เข้าใจว่าหมอชากลับมาอยู่เกาหลีปีหนึ่งแล้วทำไมเขาถึงไม่ติดต่อเธอ..

หมอชาส่งข้อความหาชียอง และแนะนำให้ชียองตรวจคลื่นสมองกับคนไข้
ชียองจึงรีบโทรกลับหาหมอชา ทั้งคู่เจอกันที่บันไดหนีไฟ ทันทีที่เจอกันชียองพร่ำถามหมอชาเรื่องที่หมอชาเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการติดเชื้อ และถามเหตุผลที่หมอชาไม่ยอมบอกอะไรเธอเลย หมอชาจึงบอกว่า 3 ปีที่ผ่านมาเขามั่นใจอะไรเลยทั้งเรื่องสุขภาพและเวลาที่เหลืออยู่ของเขา แต่สิ่งเดียวที่เขามั่นใจนั่นก็คือ เขาเชื่อว่าความรักของเขากับชียองไม่มีทางจบลงง่ายๆ เขารอจนกว่าสุขภาพของเขาดีขึ้นและทำให้ชียองเชื่อได้ เขาจึงกลับมา หมอชาขอโทษชียอง และเช็ดน้ำตาให้ชียองและบอกชียองว่าเธอไม่มีเวลาร้องไห้แล้วและให้ชียองรีบรักษาคนไข้ตามที่เขาแนะนำก่อน


หลังเลิกงานหมอชาและทุกคนในทีมไปฉลองด้วยกัน ทุกคนในทีมต่างต่อว่าหมอชาที่ทิ้งพวกเขาไปอย่างเย็นชา มีแรจึงถามหมอชาว่าทำไมไม่ติดต่อพวกเธอมาเลย หมอชาขอตัวกลับก่อน หมออีเล่าให้ทุกคนฟังว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา หมอชาคอยเฝ้ามองพวกเขาตลอดที่ผ่านมา และคิดถึงชียองตลอด และเพราะต้องพักฟื้นและดูแลสุขภาพตัวเองจนถึงวันนี้ เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วชียองจึงรีบวิ่งตามหมอชาออกไป

หมอชาที่รออยู่ ชียองเข้าไปกอดหมอชา และบอกว่าเธอลืมเขาไม่ได้จริงๆและไม่มีใครที่เหมือนเขาอีก ชียองขอให้หมอชาอย่าไปไหนอีกและขอให้เขาอยู่เคียงข้างเธอ หมอชาตอบกับชียองว่าเขาจะไม่ไปไหนอีก และบอกว่าเขารักชียอง ก่อนที่จะจูบชียอง..

หมอชา ซอกกี และอึนจอง เจอกันที่งานการสัมนา
เรื่องการดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้าย..

หมอชาทำงานอยู่ที่คลินิกเยียวยาใจ เขาเป็นหมอสำหรับคนที่รอคอยความตายในวาระสุดท้ายของชีวิต และสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่ายาแก้ปวดที่ใช้ไม่ได้ผลคือใครสักคนที่เข้าใจความทรมานของพวกเขา ความสบายใจที่มีคนมาแบ่งเบาความเจ็บปวดนั้น

ชียอง หมออี และทุกคนในทีมไปหาหมอชา และไปช่วยงานหมอชา หมอชาต้นรับทุกคน และบอกให้ทุกคนทำตามที่ต้องการได้เลย หมอชาเดินมารับและจับมือชียองเข้าไปที่คลินิก

หมอชาพูดไว้ว่า
"ความเจ็บปวดคือหลักฐานของการมีชีวิต ความเจ็บปวดอยู่ในตัวเรา
ชีวิตของเราเกิดขึ้นและดับลงพร้อมความเจ็บปวด
การที่มีคนอยู่เคียงข้างเพื่อแบ่งเบาความเจ็บปวดจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลง
และมอบความกล้าที่จะยอมรับความเจ็บปวดนั้น"
***
การเข้าใจและแบ่งเบาความเจ็บปวดของผู้อื่นนั้นคือใบสั่งยาใบสุดท้ายของหมอชา
เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่จะอยู่กับเราไปจนลมหายใจสุดท้าย
***

 

จบบริบูรณ์