สปอยล์ The Devil Judge ตอนที่ 8

โยฮันเล่าเหตุการณ์ไฟไหม้ให้กาอนฟังว่าในตอนนั้นทุกคนต่างก็หนีเอาตัวรอด หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดถึงแต่เรื่องเงินที่พี่ชายของเขาตั้งใจจะบริจาคโดยไม่แยแสเรื่องอื่น ทำให้เขาทนไม่ได้กับความหน้าไหว้หลังหลอกของคนเหล่านั้น และถ้าปีศาจมีอยู่ในผู้คนจริงๆ มันก็คงเป็นความสงสารตัวเองของพวกมีอำนาจ กาอนนึกถึงเหตุการณ์ที่ทัณฑสถานก่อนหน้านี้และสับสนว่าโยฮันกำลังใช้ความเจ็บปวดของคนอื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองหรือเปล่า

ก่อนหน้าที่ซอนอาจะฆ่าประธานซอ เธอได้วางแผนการกับกลุ่มผู้มีอำนาจเหล่านั้นไว้ก่อนแล้ว เธอตัดต่อคลิปที่ประธานซอทำไว้โดยตัดส่วนที่แฉความผิดของเธอทิ้งไปและนำคลิปที่เหลือมาใช้เป็นคลิปสั่งเสียในงานศพของเขา ฮอจุงเซแถลงข่าวในงานศพของประธานซอโดยโยนความผิดให้กับกลุ่มอาชญากร เขาจับมือกับซอนอาและบอกว่าจะร่วมมือกันกำจัดอาชญากรเหล่านั้นเพื่อประเทศ โยฮันบอกกับกาอนว่ามันเป็นเกมที่กำลังเริ่มต้นซึ่งเป็นเกมที่ไม่ยุติธรรมและไม่อาจใช้กฎหรือขั้นตอนกับคนเหล่านั้นได้
กาอนบอกซูฮยอนว่านักโทษที่โยฮันพาเขาไปพบไม่ใช่โดยองชุน เธอจึงคิดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องเป็นคนที่มีอำนาจและบางทีโยฮันอาจต้องการปั่นหัวกาอนก็ได้เพราะเขารู้ประวัติของกาอนทุกอย่าง

หลังจากการพิพากษาสดของโยฮันครั้งก่อน ทำให้ประธานาธิบดีฮอจุงเซประกาศใช้กฎการรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นและจะมีการแก้ไขแนวทางการตัดสินโทษเพื่อเพิ่มโทษหนักจากรายการพิพากษาสดไปสู่ทุกศาล และจะตั้งทีมเพื่อสนับสนุนการตัดต่อและโปรโมตรายการพิพากษาสดอีกด้วย

มินจองโฮไม่พอใจเมื่อรู้ว่าผู้พิพากษาจะถูกลงโทษหากตัดสินโทษเบากว่าที่ได้รับคำสั่งหรือยกเลิกหมายจับ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดอิสระของตุลาการ แต่จียุนชิกอ้างว่าประธานาธิบดีต้องการสร้างระเบียบในสังคมและศาลก็ควรให้ความร่วมมือ

ซอนอาสวมสร้อยไม้กางเขนของโยฮันและไปหาเขาเพื่อบอกว่าเธอจะเป็นกรรมการสนับสนุนปฏิบัติการรายการพิพากษาสด แต่โยฮันไม่สนใจและถากถางในความโลภของเธอ โยฮันประชิดตัวซอนอาและบีบคอเธอ กาอนเข้ามาห้ามไว้จังหวะนั้นโฮยันก็ดึงสร้อยออกมาได้พร้อมทั้งเข็มกลัดบนเสื้อของซอนอาที่เปื้อนเลือด

ขณะที่ออกจากห้องทำงานของโยฮัน ซอนอาได้พบจินจู จึงขอนัดเธอเป็นการส่วนตัว จินจูต่อว่าโยฮันที่ทำให้ทั้งประเทศกลับตาลปัตรเพราะสิ่งที่เขาเริ่มไว้ และเธอก็เป็นผู้พิพากษาคนหนึ่งในรายการสดซึ่งเขาไม่เคยบอกอะไรเลย โยฮันรู้สึกว่าจินจูเปลี่ยนไปและไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เธอมีความทะเยอทะยานมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

ชาคยองฮีไม่พอใจที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจของกลุ่มผู้มีอำนาจ เธอสั่งให้เลขาสืบข้อมูลของซอนอาซึ่งเป็นประธานมูลนิธิเพื่อสังคมคนใหม่เพราะเธอเชื่อว่าซอนอาคือคนเชิดหุ่นที่กำลังชักใยประธานาธิบดี

โยฮันมอบไฟล์ให้กาอนสำหรับการพิจารณาคดีสดครั้งต่อไป และเสียงของประชาชนก็คืออาวุธเพียงอย่างเดียวที่จะต่อสู้ กาอนยังแปลกใจถึงเหตุผลที่ต้องสลับตัวนักโทษโดยองชุนเพราะเขาเป็นเพียงอาชญากรธรรมดาที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจ โยฮันจึงบอกว่าเขากำลังสืบเรื่องนี้อยู่

เอลียาห์ชวนซูฮยอนไปช้อปปิ้งด้วยกัน จากนั้นซูฮยอนก็พาเอลียาห์ไปที่บ้านของกาอน เธอเล่าเรื่องราวของกาอนให้ฟัง ทำให้เอลียาห์เห็นถึงความสัมพันธ์ที่สนิทสนมระหว่างซูฮยอนและกาอนมากขึ้น เอลียาห์เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกซูฮยอนว่าพี่

มินจองโฮขอให้กาอนบอกข้อมูลที่รู้ที่เห็นทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเข้ามาเป็นผู้พิพากษาสมทบ เพราะเขาไม่พอใจที่จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบศาลและจะแก้ไขเรื่องนี้โดยการทำลายศาลรายการพิพากษาสดเพราะสูญเสียความเชื่อมั่นไปหมดแล้ว เขาจะร้องเรียนผ่านองค์กรประชาสังคมและเมื่อสำนักข่าวที่มีมโนธรรมรายงานข่าว พรรคฝ่ายค้านก็จะขอให้มีการตรวจสอบ

โยฮันพากาอนไปทำความรู้จักกับกลุ่มคนที่ช่วยเหลือเขาอยู่เบื้องหลัง และคนเหล่านั้นก็คือผู้ที่มีบทบาทในการพิพากษาสดที่ผ่านมา ในตอนแรกกาอนเข้าใจผิดว่าโยฮันใช้เงินซื้อตัวคนเหล่านี้ แต่เมื่อได้ฟังบาดแผลในใจของพวกเขาจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรม กาอนจึงเข้าใจพวกเขาและโยฮันมากขึ้น

ซอนอาพยายามเกลี้ยกล่อมให้จินจูมีความทะเยอทะยานมากกว่าเดิมโดยการยกย่องและป้อยอเธอ จากนั้นซอนอาก็มอบสร้อยไข่มุกของตนเองให้จินจูสวมใส่โดยบอกว่าเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากเวลาที่เธอต้องอยู่กลางแสงไฟในศาล

กาอนได้ข้อมูลของนักโทษโดยองชุนจึงต่อว่าโยฮันที่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก แต่โยฮันบอกว่าเขาต้องการให้กาอนรู้เรื่องนี้ด้วยตัวเองเพื่อปัดความสงสัยในตัวเขาและสิ่งที่ต้องการก็คือให้กาอนมาอยู่ฝ่ายเขา

กาอนตัดสินใจเลือกอยู่ฝ่ายโยฮันมากกว่ามินจองโฮ โดยให้เหตุผลว่าหากโลกจริงไม่มีความยุติธรรมและเป็นแค่เกมๆหนึ่ง เขาก็อยากอยู่กับทีมที่ชนะ

โยฮันสัญญากับกาอนว่าจะทำให้โดยองชุนและคนที่ลักลอบพาเขาออกจากคุกต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปอย่างสาสม แต่กาอนบอกว่ามันไม่ใช่แค่การแก้แค้นแต่สิ่งที่เขาต้องการก็คือการต่อสู้กับโลกที่เสื่อมทรามใบนี้