สปอยล์ Delightfully Deceitful ตอนที่ 2
โรอุมบอกกับมูยองว่าเงินในกระเป๋าใบนั้น เธอหามาได้อย่างถูกกฎหมาย มูยองอยากให้เธอบอกถ้าหากว่าเธอไปก่ออาชญากรรม เพื่อที่ว่าเขาจะช่วยเธอได้เพราะเธอคือลูกความของเขา โรอุมจ้างมูยองเป็นทนายเพื่อทำคดีแพ่งฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและค่าชดเชยจากรัฐบาลที่ทำให้เธอติดคุกเป็นเวลาสิบปี
มูลนิธิจองมกคือสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงวิกฤติไอเอ็มเอฟและคัดเลือกเด็กอัจฉริยะ ซึ่งพวกเขาจะสนับสนุนทั้งหอพัก อาหาร และค่าเทอมทั้งหมด โรอุมเคยอยู่ที่นั่นและได้ทุนการศึกษาจนจบจากโรงเรียนมัธยม แต่ตอนนี้มูลนิธิแห่งนี้ไม่มีตัวตนและปิดกิจการไปแล้ว
เมื่อสิบปีก่อนโรอุมยอมรับสารภาพว่าฆาตกรรมพ่อแม่ตัวเอง โดยไม่ปริปากอธิบายถึงเหตุผลที่ลงมือหรือคำแก้ตัวใดๆ เธอได้รับโทษสูงสุดจำคุก 15 ปี จากคำตัดสินของศาลเยาวชน
มูยองพาโรอุมนำเงินไปฝากธนาคารและซื้อโทรศัพท์ให้เธอเพื่อใช้ติดต่อกัน โรอุมไม่ต้องการให้โกโยฮันติดตามหรือคุมประพฤติ เธอจึงขอให้แฮกเกอร์จองดาจองซึ่งเป็นเพื่อนเก่า ช่วยแกะรอยเจ้าหน้าที่คุมประพฤติโกโยฮัน จากนั้นริงโกก็สะกดรอยตามโกโยฮันและถ่ายรูปส่งไปให้เธอ ซึ่งขณะนั้นโกโยฮันจับหัวขโมยได้แต่ไม่จับกุมและปล่อยตัวไป โรอุมนำรูปเหล่านั้นไปขู่โกโยฮันและจะฟ้องหัวหน้าถ้าหากเขายังตามเธออีก
มูยองไม่เชื่อว่าเยชุงชิกหรือโรอุมคือฆาตกรตัวจริงแต่อาจเป็นบุคคลที่สาม ไม่ว่ามูยองจะถามโรอุมสักกี่ครั้งว่าฆาตกรตัวจริงคือใคร แต่เขาก็ไม่เคยได้รับคำตอบจากเธอ มูยองบอกกับโรอุมว่าตนเองเป็นโรคเห็นใจผู้อื่นมากเกินไป และเขาก็จะอยู่เคียงข้างเธอไปจนวินทีสุดท้ายไม่ว่าจะทำผิดอะไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อใจเขาแต่ขอให้เชื่อใจในโรคที่เขาเป็น
โรอุมรู้ว่าศจ.ชินกีโฮโอนเงินจำนวนมากให้กับเยชุงชิกเพื่อให้เป็นแพะรับบาป เธอจึงใช้พรสวรรค์และวิธีของตัวเองเพื่อเข้าถึงเขาที่สถานบริบาลผู้ป่วย ซึ่งตอนนี้เขากำลังป่วยหนักหลังจากโดนปลดออกจากมูลนิธิจองมก มูยองไม่สามารถโทรติดต่อโรอุมได้ เขาจึงเริ่มกังวลใจและไปที่สถานบริบาลหลังจากที่ได้ข้อมูลจากนักข่าวอูยองกีเกี่ยวกับศจ.ชินกีโฮ เขาเชื่อว่าการที่โรอุมไม่ยอมปริปากพูดถึงฆาตกรตัวจริงเพราะเธออาจจะคิดลงมือแก้แค้นด้วยตัวเอง
โรอุมกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อให้เกิดความอลหม่านในสถานบริบาล ศจ.ชินกีโฮบอกกับโรอุมว่ามันอยู่เหนือการควบคุมของเขาและตอนนี้ตัวเองก็กำลังจะตาย โรอุมกำลังจะฉีดสารพิษเข้าไปในสายน้ำเกลือของศจ.ชินกีโฮ แต่มูยองเข้ามาขัดขวางและพาเธอออกไปจากที่นั่น แต่ถึงกระนั้นโรอุมก็ยังไม่ปริปากบอกอะไร และขอให้มูยองทำหน้าที่เป็นทนายคดีแพ่งให้เธอเท่านั้น
เมื่อถึงวันนัดไต่สวนคดีฟ้องร้องค่าชดเชย มูยองแจ้งต่อศาลเพื่อขอเลื่อนการพิจารณาคดีฟ้องร้องค่าชดเชย เพราะว่าคดีฆาตกรรมกึมซายังอยู่ในขั้นอุทธรณ์ จนกว่าคดีนี้จะมีการพิจารณาใหม่หรือพิสูจน์ได้ว่าโจทก์(โรอุม)เป็นผู้บริสุทธิ์ ศาลจึงเลื่อนการพิจารณาคดีฟ้องร้องตามคำขอของทนายมูยอง
ในคืนนั้นมูยองโทรบอกโรอุมว่าเขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอปิดบังอะไรอยู่ โรอุมไล่เขาออกจากการเป็นทนาย แต่เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปเช่นเดียวกับที่เธอก็ปล่อยเขาไปไม่ได้เช่นกัน มูยองอยากให้โรอุมเรียนรู้การเห็นอกเห็นใจผู้อื่นหรือลังเลสักนิดก่อนที่จะทำร้ายใคร เพื่อจะได้เรียนรู้การใช้วิธีอื่นแทนการใช้ความชั่วร้ายต่อสู้กับความชั่วร้าย หลังจากที่พวกเขาวางสายแล้ว โรอุมได้รับข้อความที่ไม่ระบุหมายเลขว่ายินดีต้อนรับเธอกลับมา
มูยองจำได้ว่าในวัยเด็ก เขาเคยพบกับโรอุมมาก่อนในรายการโทรทัศน์ ซึ่งเธอไม่ได้ใช้พรสวรรค์ตอบคำถามใดๆเกี่ยวกับเขาจนทำให้ทุกคนแปลกใจ จากนั้นเธอก็หลบซ่อนตัวระหว่างพักรายการ มูยองหาเธอพบและเข้าใจว่าเธอเหนื่อยและหวาดกลัวว โรอุมบอกว่าเธอต้องใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองทำตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ เพื่อที่ว่าครอบครัวของเธอจะได้มีอาหารดีๆกิน