สปอยล์ Darli & the Cocky Prince ตอนที่ 4
มูฮักยืนกรานกับดัลลีว่าเขาไม่ได้พูดเล่นที่บอกว่าเขาคือผู้อำนวยการคนใหม่ของหอศิลป์เพราะเขาจะทำทุกอย่างเพื่อเงิน แม้ดัลลีจะแย้งว่าหอศิลป์ไม่ใช่ที่หาเงินก็ตาม แต่เมื่อมูฮักพูดถึงหนี้ที่ดัลลียังไม่มีจ่าย ดัลลีจึงต้องเงียบไป ดัลลีบังเอิญได้ยินนากงจูพูดกับซงซาบงว่าดัลลีควรจะไปขอความช่วยเหลือจากเซกีดีกว่าจะเสียหอศิลป์ให้กับพวกนักเลง แต่ซงซาบงไม่เห็นด้วยเพราะรู้ว่าพ่อของดัลลีเกลียดกลุ่มเซกีแค่ไหน ดัลลีต้องการปรึกษากับชีฮยองเรื่องสถานการณ์ของหอศิลป์ แต่เขากลับบอกให้เธอกลับไปที่เนเธอร์แลนด์ดีกว่า เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอทำตัวเป็นเจ้าหญิงโดยที่ไม่รู้ว่าพ่อของเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง แล้วจู่ๆเธอก็กลับมาเป็นผู้อำนวยการที่นี่
มูฮักสั่งยอมีรีให้ใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ของดัลลีทั้งหมดและหาข้อมูลของหอศิลป์ทั้งในและต่างประเทศมาด้วยและเลือกที่ที่ทำเงินได้มากที่สุด ในตอนแรกจินแบควอนไม่พอใจเพราะคิดว่ามูฮักกำลังโดนหลอก แต่มูฮักบอกว่าเขากำลังหาเงิน ต่อมาจินแบควอนเห็นด้วยกับมูฮักเพราะคิดว่าเขาจะฮุบหอศิลป์และที่ดินตรงนั้นก็มีมูลค่าหากจะพัฒนาให้ดี ซึ่งจะมีมูลค่ามากกว่าสองพันล้านวอนที่เสียไป อีกทั้งดัลลีเก่งแต่เรื่องเรียนแต่ไม่มีหัวทางด้านธุรกิจ มูฮักฟังความคิดเห็นของพ่อโดยที่ไม่พูดอะไร
มูฮักบุ่มบ่ามเข้าไปฟังการประชุมขณะที่ดัลลีและพนักงานของเธอกำลังหารือกันเรื่องนิทรรศการบัสกียาซึ่งจะมีศิลปินชื่อดังมาแสดงผลงานมากมาย นอกจากนั้นจะมีการจัดค่ายศิลปะชองซงให้กับเด็กๆ จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งเป็นโปรแกรมการให้ความรู้ฟรีและจะเชิญเชฟชื่อดังมาทำอาหารให้ มูฮักไม่เห็นด้วยเมื่อรู้ว่าเป็นโปรแกรมฟรีเพราะทุกอย่างจะต้องใช้เงินทั้งสิ้น ดัลลีจึงบอกว่าเธอจะหาสปอนเซอร์ มูฮักต่อว่าเธอที่จะทำเรื่องดีๆด้วยเงินของคนอื่นและสอนว่าเธอควรช่วยคนอื่นด้วยเงินของตัวเอง จากนั้นดัลลีก็บอกกับมูฮักว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้เขาภายในสัปดาห์หน้าและหากทำไม่ได้ เธอก็จะทำตามที่เขาต้องการ
ดัลลีและซงซาบงช่วยกันตระเวนหาสปอนเซอร์แต่ก็ต้องผิดหวัง ซงซาบงจึงแนะนำดัลลีให้ไปขอความช่วยเหลือจากจางแทจินอดีตคู่หมั้นของเธอ ดัลลีตัดสินใจนัดพบกับแทจินแต่เธอไม่กล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ นอกจากขอบคุณที่เขาช่วยเหลืองานศพของพ่อ แทจินจึงบอกว่าไม่ว่าเธอจะเจอกับสถานการณ์ไหนเขาก็จะอยู่เคียงข้างเธอและอยากสานต่อความสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง
เมื่อดัลลีกลับถึงบ้านในตอนค่ำ เธอไม่ได้สังเกตว่ามีคนร้ายอยู่ในบ้าน ดัลลีสัมผัสรองเท้าของพ่อและส่งข้อความหาท่านแม้ว่าท่านจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม
เช้าวันต่อมาดัลลีจำเป็นต้องย้ายออกจากบ้าน เธอมีเพียงกระเป๋าใบเดียวและกล่องลูกอมที่พ่อเคยให้ไว้ ดัลลีไม่มีที่ให้ไป เธอแวะไปขายเครื่องประดับที่ร้านแห่งหนึ่งซึ่งมูฮักกำลังซื้อของอยู่บริเวณนั้น เขาแอบตามเธอไปจึงเห็นเธอนั่งดื่มอยู่คนเดียวและร้องไห้ออกมา แต่ดัลลีบอกว่าการร้องไห้คือการปกป้องดวงตาเพื่อไม่ให้เสื่อมสภาพลง
มูฮักแนะนำดัลลีให้ขายหอศิลป์ซึ่งจะได้เงินจำนวนมากแต่เธอบอกว่าหอศิลป์ก็คือพ่อของเธอซึ่งเธอจะไม่มีวันขายพ่อ เธอต่อว่ามูฮักด้วยความเมาว่าเป็นคนเห็นแก่เงิน ดัลลีหยิกแก้มของเขาและบอกว่าคนรายไม่มีทางเห็นคุณค่าของงานศิลปะจากนั้นเธอก็ลูบหัวเขา ดัลลีถามมูฮักว่าเธอจะสามารถปกป้องหอศิลป์ต่อไปได้ไหม เขาตอบด้วยสายตาอ่อนโยนว่ามันอาจจะเป็นไปได้ถ้าเขายื่นมือเข้ามาช่วย มูฮักเป็นห่วงดัลลีที่ย้ายออกจากบ้านโดยไม่มีที่ไป เธอจึงบอกว่าจะไปพักที่โรงแรม มูฮักไปส่งเธอที่นั่นแต่เธอไม่ได้เช็กอินตามที่บอกเขาไว้เพราะเธอไปค้างที่หอศิลป์โดยที่ไม่รู้ว่าคนร้ายอยู่ที่นั่น