สปอยล์ Crash Course in Romance ตอนที่ 12
ฮีแจถูกจับกุม ชียอลและแฮงซอนจึงไปเป็นเพื่อนซอนแจที่สถานีตำรวจ จางซอจินมาถึงและไล่ซอนแจกลับไปอ่านหนังสือที่บ้านเพราะใกล้จะถึงวันสอบกลางภาค จางซอจินไปหาฮีแจในฐานะแม่และทนายของเขา เธอไม่ตกใจเมื่อรู้ว่าลูกชายโดนจับข้อหาฆาตกรรมแต่ต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่จับกุมเขาโดยไม่มีหมายจับ โจซูฮีส่งข้อความบอกเพื่อนในกลุ่มแชทว่าฮีแจถูกจับและจางซอจินก็โกหกมาตลอดว่าเขาเรียนอยู่ต่างประเทศ
ครั้งก่อนที่แฮงซอนคุยกับชียอลเรื่องหัวหน้าจี ทำให้พวกเขาระหองระแหงกัน หลังจากที่ชียอลถ่ายแบบเสร็จแล้ว เขากังวลว่าทำไมแฮงซอนจึงไม่โทรหรือส่งข้อความมาเลย หัวหน้าจีพบเพื่อนเก่าที่สตูดิโอถ่ายแบบและเรียกเขาว่าจองซองฮยอนที่จบมัธยมต้นจากโรงเรียนแดซอนด้วยกัน แต่หัวหน้าจีปฏิเสธว่าไม่ใช่
แฮอีเป็นห่วงซอนแจเพราะเขาไม่รับสายและไม่มาเรียนตั้งแต่เกิดเรื่องกับฮีแจ จางซอจินจึงยื่นเอกสารวินิจฉัยและใบสั่งยาของจิตแพทย์และคำร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้บรรลุนิติภาวะกับคำร้องขอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช เพื่อยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าฮีแจไม่อยู่ในสภาวะที่จะให้ปากคำ แต่ฮีแจไม่ได้รับการปล่อยตัวเพราะเป็นคดีฆาตกรรมและพยายามจะหลบหนี
ชียอลไม่ได้โทรหาแฮงซอนหลายวันแล้ว เธอจึงตัดสินใจเป็นฝ่ายส่งข้อความไปหาเขาก่อน หัวหน้าจีแอบลบข้อความของเธอขณะที่ชียอลเผลอและยุ่งอยู่กับการประชุมเตรียมการสอน ทำให้แฮงซอนคิดว่าชียอลเมินข้อความของเธอ
ซอนแจออกมาพบแฮอีที่สนามเด็กเล่นและซบไหล่ของเธอพร้อมกับร้องไห้ แฮอีจึงกอดปลอบใจและรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวของเขาทั้งที่มีทั้งพ่อแม่และพี่ชาย จางซอจินคงวุ่นวายกับคดีของฮีแจและกังวลเรื่องที่ซอนแจขาดเรียนทั้งที่กำลังจะสอบในวันพรุ่งนี้ เธอจึงโทรหาหัวหน้าฝ่ายวิชาการที่เคยรับปากว่าจะช่วยเธอทุกเรื่อง
หัวหน้าจีจัดตารางงานให้ชียอลอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เขาไปหาแฮงซอน ชียอลจะมีงานในตอนสายของวันรุ่งขึ้น เขาจึงไปรอแฮงซอนที่หน้าร้านตั้งแต่เช้ามืดและพาเธอไปจ่ายตลาด แฮงซอนตัดพ้อที่เขาเมินข้อความของเธอ แต่ชียอลบอกว่าไม่เคยได้รับข้อความเลย ชียอลขอโทษเธอหากคำพูดของเขาในวันก่อนทำให้เธอไม่พอใจแต่เขามีเจตนาที่ดีเพราะอยากให้เธอกับหัวหน้าจีเข้ากันได้ แฮงซอนฝากร้านไว้กับยองจูเพราะชียอลชวนเธอไปพักผ่อนที่ทะเลอินชอนด้วยกันเพราะเขามีประชุมผู้ปกครองที่นั่น หัวหน้าจีเป็นคนขับรถให้และเสแสร้งยิ้มอย่างเป็นมิตรกับแฮงซอนเหมือนทุกครั้ง
สายสืบซงและสายสืบแบโน้มน้าวฮีแจจนยอมรับว่ารู้จักกับครูจินและไปที่แซอัมวิสต้าในคืนเกิดเหตุ จางซอจินเข้ามาพอดีและไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ละเมิดสิทธิ์การเป็นทนายของเธอ สายสืบทั้งสองแปลกใจที่จางอซอจินไม่แสดงความรู้สึกเสียใจที่ลูกกระทำผิดแต่กลับอ้างว่าเขาวิกลจริตและห้ามไม่ให้พูดอะไรทั้งสิ้น พวกเขาจึงตัดสินใจจะขอหมายจับเพราะใกล้จะหมดเวลากักขังแล้ว
จางซอจินนำแบบฝึกหัดที่ได้มาจากหัวหน้าฝ่ายวิชาการเพื่อให้ซอนแจฝึกทำโดยห้ามบอกใครเด็ดขาด ชียอลพาแฮงซอนลงเรือยอร์ชส่วนตัวโดยหัวหน้าจีเป็นผู้ขับ ระหว่างที่ชียอลเข้าไปเอาผ้าห่มให้เธอ หัวหน้าจีแกล้งหักพวงมาลัยจนทำให้แฮงซอนล้มและได้รับบาดเจ็บที่มือ แต่เขาอ้างว่าเป็นเพราะคลื่นแรง
แฮอีนำสรุปเล็คเชอร์ไปให้ซอนแจเพื่อเตรียมตัวอ่านสอบ เขาจึงมอบแบบฝึกหัดที่ได้มาให้กับเธอและบอกว่าแม่ของเขาสั่งห้ามเอาไว้
ยองจูเพิ่งสังเกตว่าแจอูโตเป็นหนุ่มแล้วเพราะเห็นเขาเป็นน้องชายมาโดยตลอด แต่หลังจากที่เขาช่วยเหลือเธอขณะที่แฮงซอนไม่อยู่ ทำให้ยองจูรู้สึกว่าเธอควรมีใครสักคนและขอคบกับเขา แต่แจอูบอกว่าเขาเป็นพี่สาวและครอบครัว หากจะคบกันก็เป็นเรื่องน่าขนลุก
แฮงซอนแน่ใจว่าเธอเห็นหัวหน้าจีจงใจหักพวงมาลัยเรือเพื่อแกล้งเธอ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่และไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชียอล ชียอลเป็นห่วงบาดแผลที่มือของเธอและต้องการดูแล ในคืนนั้นเขาจึงชวนแฮงซอนนอนค้างที่บ้านกับเขา
แฮอีแปลกใจกับเนื้อหาของข้อสอบและเห็นซอนแจมีท่าทางวิตกกังวล จางซอจินพาฮีแจไปขึ้นศาลและขอให้เขาปิดปากเงียบเพราะเธอจะจัดการทุกอย่างเอง แต่ฮีแจให้การต่อศาลว่าเขาไม่ใช่คนฆ่าครูจินแต่เป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ในการฆาตกรรมคืนนั้น