สปอยล์ Blind ตอนที่ 8
หลังเกิดเหตุฆาตกรรมเจ้าสาวฮานา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบภาพอันแทโฮกำลังเดินออกจากห้องเจ้าสาว ทุกคนในงานจะถูกเรียกตัวไปสอบปากคำในฐานะพยาน ซองจุนรู้ว่าพี่ซองฮุนไม่ชอบออกงานสังคม เขาจึงเชื่อว่าพี่ไม่ได้อยู่ในงานแต่งนั้น
ซองจุนขอลิสต์ที่อยู่เก่าๆ ของอันแทโฮจากสายสืบซอกกูเพื่อแกะรอย จึงรู้ว่าอันแทโฮไม่เคยอยู่ที่ไหนเป็นหลักแหล่ง ซองจุนและพี่ซองฮุนเริ่มออกตามหาด้วยกัน จนกระทั่งพบแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งซึ่งบอกว่าอันแทโฮได้ช่วยชีวิตเธอกับลูกไว้จนตัวเองขาพิการ บ้านที่เธออยู่ร่วมกับแม่เลี้ยงเดี่ยวคนอื่นๆ ก็คือบ้านที่อันแทโฮสร้างไว้ให้ โจอึนกีได้ข้อมูลว่าอันแทโฮเคยอยู่บ้านเด็กกำพร้าสองสามปีก่อนจะย้ายไปอยู่ที่อื่น
ผอ.คังยองกี หนึ่งในคณะลูกขุนและพ่อของฮานาเจ้าสาวที่ถูกฆาตกรรม เขาเคยเป็นผู้จัดหาข้าวของให้ศูนย์สวัสดิการความหวัง
ยูนาออกจากโรงพยาบาลและขอไปอยู่กับโจอึนกีที่ศูนย์สวัสดิการสังคม โจอึนกีปฏิเสธโดยอ้างเหตุผลอื่นและอยากให้ยูนาไปอยู่สถานพักพิง เมื่อโจอึนกีได้รับแจ้งจากสายสืบซอกกูว่าสายสืบคังกำลังไปที่นั่น เธอจึงรีบไปบอกซองจุนให้หลบหนี ยูนาสะกดรอยตามไปและได้พบกับซองจุนและผู้พิพากษาซองฮุนที่นั่น เธอจึงขอเข้าร่วมทีมด้วยไม่เช่นนั้นจะโทรแจ้งตำรวจ
สายสืบคังไปถึงที่นั่นโดยแกะรอยจากโทรศัพท์ของสายสืบซอกกู เขาไม่พบซองจุนที่หลบอยู่นอกจากผู้พิพากษาซองฮุนที่อ้างว่ากำลังให้คำปรึกษาลูกศิษย์ยูนา อึนกีอ้างว่าเธอเป็นคนโทรหาสายสืบซอกกูเพราะกำลังคบกัน
โจอึนกีถูกเรียกไปสอบปากคำในฐานะพยานคดีฆาตกรรมเจ้าสาว ผู้พิพากษาซองฮุนและคณะลูกขุนทุกคนได้รับข้อความที่ไม่ระบุหมายเลขว่า”เกมเซอร์ไววัลเปิดตัวแล้ว” และ “เซฟมี อีเวนต์ใหญ่”จะปิดรับสมัครในอีก24ชั่วโมง เมื่อกดเข้าไปที่ลิ้งจึงเห็นอันแทโฮถูกมัดมือโดยมีเชือกคล้องอยู่ที่คอและทุกๆ หนึ่งชั่วโมงเชือกที่คอก็จะมัดแน่นขึ้นตามเวลาที่ตั้งไว้อัตโนมัติ ผู้พิพากษาซองฮุนคิดว่าคนร้ายต้องการประหารอันแทโฮต่อหน้าสาธารณชนโดยการไลฟ์สด ขณะที่ซองจุนคิดว่าอาจจะเป็นการจัดฉากของอันแทโฮโดยอัดคลิปไว้ล่วงหน้า
เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตเมื่อจับไอพีได้หลังจากคณะลูกขุนเข้าแจ้งความ แต่พวกเขาไม่พบผู้ต้องสงสัยที่นั่น เจ้าของร้านยืนยันว่าไอพีเครื่องนั้นยังไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้ ซองจุนและอึนกีได้ยินเสียงนาฬิกาจากในคลิปซึ่งเหมือนกับที่บ้านของคนขับรถชเวซุนกิล พวกเขาจึงรีบไปที่นั่นเพื่อช่วยอันแทโฮเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง แม้ว่าพี่ซองฮุนจะห้ามก็ตามแต่สิ่งที่พวกเขาพบเป็นเพียงหุ่นที่จำลองที่เหมือนกับเหตุการณ์ของอันแทโฮในคลิปเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหาอันแทโฮโดยการแกะรอยโทรศัพท์และพบว่ามันอยู่ในหลุมข้างๆ โครงกระดูกที่สวมสร้อยคอเหมือนกับซองจุน
เหลือเวลาอีกสามชั่วโมงและยังไม่มีใครพบอันแทโฮที่กำลังอ่อนแรงลงไปทุกที เขาเรียกชื่อยุนแจผ่านคลิปไลฟ์สดและสารภาพทั้งน้ำตาว่าเมื่อยี่สิบปีก่อนเขาคือคนที่บอก”ไอ้หมาบ้า”ถึงแผนการหลบหนี แต่ไม่กล้าพอที่จะบอกความจริงกับทุกคนและเสียใจที่ทำให้หมายเลข24 ต้องตาย ตั้งแต่นั้นมาเขาไม่เคยหลับได้อย่างสบายใจเลยสักครั้งเพราะเห็นหน้าหมายเลข24 ตลอดเวลา เขาขอโทษยุนแจและหมายเลข11 12 24 และทุกคน อันแทโฮขอร้องยุนแจว่าขอให้เขาเป็นคนสุดท้ายและอย่าทำอย่างนี้กับใครอีก
ร่างทรงคยองจายังคงนั่งดื่มอยู่ที่ร้านของชาร์ลส์พร้อมกับจองอึนซองและแบชอลโฮ จองอึนซองปฏิเสธสายเรียกเข้า จู่ๆ ผ้าม่านในห้องที่อันแทโฮถูกทรมานอยู่นั้นก็หลุดลง ทำให้ทุกคนที่ดูคลิปอยู่นั้นเห็นข้อความบนผนังที่เขียนว่า”มีคนอยู่ในนี้” และมีหมายเลข 11 12 13 แบชอลโฮรีบกลับสำนักงานทันทีและค้นเทปวิดีโอเก่าของศูนย์สวัสดิการความหวังเมื่อยี่สิบปีก่อน
ซองจุนรู้สึกคุ้นกับสถานที่แห่งนั้นแต่นึกไม่ออก เขาจึงกลับไปถามแม่ว่ารับเขามาเลี้ยงจากที่ไหนเพราะตอนนี้กำลังจะมีคนตายที่นั่น ขณะที่พ่อแม่ของเขากำลังตกใจกับเรื่องที่ซองจุนพูด ทันใดนั้นเองอึนกีก็โทรบอกเขาว่าอันแทโฮอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าในโซซานซึ่งก็คือศูนย์สวัสดิการความหวังที่ร้างไปนานแล้ว แต่เธอไม่สามารถติดต่อได้เพราะที่นั่นไม่มีหมายเลขโทรศัพท์
จากนั้นโจอึนกีก็โทรบอกผู้พิพากษาซองฮุนที่รีบขับรถตามซองจุนไปที่นั่น โดยมีรถอีกคันหนึ่งสะกดรอยตาม ผู้พิพากษาซองฮุนพยายามโทรหาซองจุนแต่เขาไม่รับสาย ซองจุนเห็นคนร้ายในชุดคลุมสีดำจึงเดินตามเข้าไปและถูกฉีดยาจากด้านหลัง ก่อนที่ซองจุนจะหมดสติไปเขาเห็นพื้นรองเท้าของคนร้ายขณะที่กำลังเดิน เวลาของอันแทโฮเกือบจะหมดลงและเขากำลังจะขาดใจจากเชือกที่รัดแน่นขึ้น